โนโมโฟเบีย (Nomophobia) มาจากคำว่า "no mobile phone phobia" เป็นศัพท์ที่หน่วยงายวิจัยทางการตลาดขนาดใหญ่ (YouGov) บัญญัติขึ้นเมื่อปี 2010 เพื่อใช้เรียกอาการที่เกิดจากความหวาดกลัว วิตกกังวลเมื่อขาดโทรศัพท์มือถือ เพื่อติดต่อสื่อสาร จัดเป็นโรคจิตเวชประเภทหนึ่งที่ในกลุ่มวิตกกังวล พบมากที่สุดในกลุ่มคนในช่วงอายุ 18-24 ปี รองลงมาคือกลุ่มคนในช่วงอายุ 25-34 ปี และกลุ่มที่มีอายุมากกว่า 55 ปีตามลำดับ
มีมือถือติดตัวตลอดเวลา และกังวลใจมากเมื่อมือถือไม่ได้อยู่กับตัว
หมกมุ่นเช็คข้อความจากโซเชียลมีเดีย แอปพลิเคชันต่างๆ อัพเดทข้อมูลจากมือถืออยู่ตลอด
หยิบมือถือขึ้นมาดูบ่อย แม้ไม่มีเรื่องด่วน เมื่อมีสัญญาณแจ้งเตือนจะเสียสมาธิจากสิ่งที่ทำอยู่
เล่นมือถือเป็นอันดับแรกหลังจากตื่นนอน
เล่นมือถือเป็นประจำในขณะที่กำลังทำกิจกรรมอื่นๆ
สิ่งของอย่างอื่นหาย ตกใจไม่เท่ามือถือหาย
ไม่เคยปิดมือถือเลย
ในแต่ละวันใช้เวลาพูดคุยในโลกออนไลน์มากกว่าโลกความเป็นจริง
ก่อนที่จะสายเกินไป เราลองมาเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างเพื่อให้ถอยห่างจากโรคนี้ หรือแนะนำคนรอบข้างด้วยก็เป็นการดีเช่นกัน
เมื่อรู้สึกเหงา หากิจกรรมอื่นหรือหาเพื่อนคุยแทน เช่น คุยกับคนในบ้าน เพื่อนร่วมงาน นัดเพื่อนเพื่อมาเจอกันดีกว่า สนุกกว่าเยอะ
ตั้งกฎว่าจะไม่แตะต้องมือถือภายในระยะเวลาที่กำหนด เช่น 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง ช่วงที่ไม่มีธุระจำเป็น แล้วค่อย ๆ เพิ่มเวลาให้ได้มากขึ้น
กำหนดให้ห้องนอนเป็นเขตปลอดมือถือไม่ต้อง หยิบมือถือมาเล่นหรือเผลอหลับไปกับมือถือที่เล่นก่อนนอน
เทคโนโลยีมีไว้ให้ชีวิตสะดวก แต่เราต้องใช้อย่างพอเหมาะ ไม่งั้นจากที่เราต้องเป็นคนควบคุมมัน มันอาจะทำให้เรากลายเป็นทาสของมันแทน โลกข้างนอกจอมือถือ ยังมีอะไรให้น่าค้นหาอีกเพียบ ลองดู!!!!!
อย่าลืมติดตาม เรื่องราวสนุกๆแบบ TypeThai มากมาย ที่ Facebook / YouTube / IG / Twitter
อ้างอิง :ศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ