ไม่รู้จักไม่ได้แล้ว! 5 ศิลปินเกย์ดาวรุ่งที่น่าจับตามองในชั่วโมงนี้

ต้อนรับเดือนมิถุนายน ซึ่งนับเป็น LGBT Pride Month เดือนที่ผู้คนจากหลายเมืองใหญ่ทั่วโลกต่างร่วมเฉลิมฉลองความหลากหลายทางเพศ เพื่อรณรงค์ให้ผู้คนเปิดใจยอมรับเพศที่หลากหลายมากกว่าเพศหญิงหรือเพศชายเท่านั้น สำหรับวงการเพลง ต้องยอมรับว่าระยะหลังๆ มานี้เริ่มมีพื้นที่ให้แก่เพศที่ 3 มากขึ้นเยอะเลยทีเดียว และศิลปินหลายคนก็ได้รับการยอมรับจากทั้งแฟนเพลงและผู้คนในวงการมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความที่มีทั้งความสามารถและพรสวรรค์เต็มเปี่ยม ตอกย้ำให้เห็นว่าถ้าคุณคือตัวจริงในสิ่งที่ทำ ไม่ช้าก็เร็ว คุณย่อมเป็นที่ยอมรับไม่ว่าจะมีเพศสภาพแบบไหนก็ตาม และนี่คือ 5 ศิลปินเกย์ดาวรุ่งที่ OK! แสนภาคภูมิใจและอยากให้คุณรู้จัก!

1.SAM SMITH

Age: 26

จากเด็กตุ้ยนุ้ยในวันวานที่เพื่อนๆ ชอบแกล้งและล้อเลียนที่เขาเป็นเกย์ มาวันนี้แซม สมิธ ขึ้นแท่นหนึ่งในศิลปินชายเดี่ยวแถวหน้าของวงการเพลงอังกฤษ ผู้มาพร้อมความภาคภูมิใจกับความเป็นเกย์ของตัวเอง น้ำเสียงคุณภาพระดับดิว่าของแซมนั้นนุ่มนวล คีย์เป๊ะ และเต็มเปี่ยมด้วยอินเนอร์ เขาโด่งดังในระดับเมนสตรีมกับอัลบั้มแรก In the Lonely Hour (2014) กับเพลงแสนเหงาที่ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นอย่าง “Stay with Me”, “I’m Not the Only One”, “Lay Me Down” ฯลฯ ทั้งนี้แซมประกาศตัวว่าเป็นเกย์ตั้งแต่ช่วงที่ปล่อยอัลบั้มแรกออกมาได้ไม่นาน ล่าสุดนักร้องเกย์สายหวานกลับมาพร้อมอัลบั้มที่ 2 The Thrill of It All (2017) พร้อมเพลงใหม่ๆ ที่ยังคงเศร้า ซึ้งตามสไตล์ถนัด อย่าง “Too Good at Goodbyes”, “One Last Song”, “Pray” ฯลฯ พร้อมภาพลักษณ์ล่าสุดที่ดูผอมลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ครั้งนี้หัวใจของเขาไม่ได้หม่นหมองเหมือนอัลบั้มแรก หากแต่กำลังเป็นสีชมพูสุดๆ เพราะอินเลิฟหวานอยู่กับแบรนดอน ฟลินน์ แฟนหนุ่มนักแสดงเจ้าเสน่ห์จากซีรีส์ดัง 13 Reasons Why อยู่ ล่าสุดแซมกำลังเดินสายทัวร์คอนเสิร์ต The Thrill of It All Tour อยู่ทั่วโลก และแว่วว่าเขามีคิวมาเปิดคอนเสิร์ตใหญ่ที่เมืองไทยในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ด้วย!

แซม สมิธ กับแฟนหนุ่มนักแสดงแบรนดอน ฟลินน์

2.TROYE SIVAN

Age: 22 (ครบ 23 ปีวันที่ 5 มิ.ย.)

เขาคือตัวแทนของเด็กเกย์รุ่นใหม่ที่แท้ทรูและเปิดตัวว่าเป็นเกย์มาตั้งแต่ปี 2013 แม้จะเริ่มต้นงานในวงการในฐานะยูทูเบอร์และนักแสดงเด็ก แต่ทรอย ซีวาน เด็กหนุ่มเชื้อสายออสเตรเลียที่เกิดในแอฟริกาใต้ และย้ายกลับไปใช้ชีวิตในออสเตรเลียตอนอายุ 2 ขวบ ก็ชนะใจแฟนเพลงด้วยงานเพลงอีเล็กโทรป๊อปชวนฝันที่มีจังหวะและเนื้อหาน่าสนใจ เน้นพูดถึงชีวิตวัยรุ่น การเติบโตและก้าวผ่านแห่งช่วงวัย ความปรารถนาที่ซ่อนเร้นอยู่ในจิตใจ ฯลฯ น้ำเสียงทุ้มๆ ลุคน่ารัก พร้อมดวงตาหวานซึ้ง ผมหยิกเคิร์ล บวกกับความมั่นใจในการปลดปล่อยตัวตนที่แท้จริงมากขึ้นเรื่อยๆ ของทรอย น่าจะเป็นเสน่ห์ที่ทำให้กราฟจำนวนแฟนเบสทั่วโลกของเขาพุ่งสูงขึ้นตลอดๆ Blue Neighbourhood อัลบั้มแรกของทรอยปล่อยออกมาช่วงปลายปี 2015 ส่วนปีนี้เขาเตรียมมีผลงานอัลบั้มที่ 2 ชื่อ Bloom ออกมา เพลงเก๋ๆ ของเด็กหนุ่มเชื้อสายยิวจากเมืองเพิร์ธที่เราอยากให้คุณลองฟัง ก็เช่น “Wild”, “Youth”, “Happy Little Pill”, “My My My!”, “Bloom”, “The Good Side” และเพลงน่ารักๆ อย่าง "Strawberries & Cigarettes" ที่หลายคนกำลังอิน ซึ่งเป็นเพลงประกอบหนังรักวัยรุ่นสุดซึ้ง Love, Simon ปัจจุบันทรอยใช้ชีวิตอยู่ในแอลเอกับแฟนหนุ่มนายแบบเจคอบ บิเซนแมน

ทรอย ซีวาน กับแฟนหนุ่มนายแบบเจคอบ บิเซนแมน

3.OLLY ALEXANDER

Age: 27

มีความจี๊ดจ๊าดแบบแฟชั่นนิสต้าและกล้าแสดงออกสมเป็นศิลปินรุ่นใหม่ ออลลี่ อเล็กซานเดอร์ หรือที่หลายคนรู้จักในฐานะนักร้องนำวง Years & Years จากอังกฤษ ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 3 คน วงนี้ฟอร์มตัวกันมาตั้งแต่ปี 2010 มาพร้อมงานเพลงซิงธ์ป๊อปสุดเก๋ แต่เพลงที่ทำให้พวกเขาเป็นที่รู้จักในระดับเมนสตรีมคือ “King” จากอัลบั้มแรก Communion (2015) นอกจากนี้ยังมีเพลงดังๆ อย่าง “Desire”, “Shine”, “Eyes Shut” ฯลฯ ปีนี้ Years & Years เตรียมคัมแบ็กวงการเพลงด้วยอัลบั้มที่ 2 Palo Santo เปิดตัวด้วยซิงเกิล “Sanctify” ที่ฟังดูเซ็กซี่และลึกลับเหลือใจ โดยพูดถึงความสัมพันธ์ครั้งหนึ่งของออลลี่กับชายแท้คนหนึ่ง จนนำไปสู่จุดที่สับสนวุ่นวาย มิวสิกวิดีโอเพลงนี้ยังถ่ายทำที่เมืองไทยด้วย! ออลลี่นำเสนอเรื่องราวชีวิตและความรักในฐานะเกย์อย่างเปิดเผยผ่านงานเพลงกับวง Years & Years เขาเปิดใจว่า “ผมรู้สึกเปิดเผยกับการแต่งเพลงมากขึ้น ผมไม่หนีเรื่องราวที่อยากจะพูดอีกต่อไป ผมรู้สึกว่าการเป็นเกย์คือของขวัญ และอยากให้เรื่องราวนี้สะท้อนอยู่ในเพลงด้วย” ออลลี่มีเสียงร้องที่โดดเด่นและเย้ายวน ดูมีลูกเอื้อนไม่เหมือนใคร ดวงตาของเขาดูมั่นใจและเซ็กซี่ นอกจากนี้เขายังมีทักษะในการเต้นและการแสดง จึงทำให้โชว์บนเวทีของเขาและวงน่าดูยิ่งขึ้นไปอีก ออลลี่ยังเคยเป็นนักแสดงซีรีส์วัยรุ่นเรื่องดังอย่าง Skins และหนังเรื่อง The Riot Club ด้วย แต่การร้องเพลงคือสิ่งที่เขารักที่สุด ในฐานะนักแต่งเพลงที่เป็นเกย์ ออลลี่บอกว่าเวลาแต่งเพลง อยากใช้คำสรรพนามเรียกผู้ชายเวลาพูดถึงหนุ่มๆ ในเพลงให้มากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเป็นคำว่า ‘เธอ’ เสมอไป “ผมว่ามันน่าเศร้าที่เราไม่มีป๊อปสตาร์เกย์ที่ร้องเพลงถึงผู้ชายโดยใช้สรรพนามเรียกผู้ชาย แต่ก็หวังว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนไปนะ”

4.CALUM SCOTT

Age: 29

คาลัม สกอตต์ คือศิลปินหน้าใหม่จากเมืองฮัลล์ของเกาะอังกฤษ ที่ชนะใจแฟนๆ ด้วยเสียงร้องสูงๆ และแหบเสน่ห์ เขาเป็นที่รู้จักจากการร้องเพลง “Dancing on My Own” ของโรบิน ศิลปินหญิงชื่อดังชาวสวีเดนได้อย่างเพราะกินใจ ในรายการดังทางโทรทัศน์ Britain’s Got Talent ซีซั่นที่ 9 ในปี 2015 จนเข้าสู่รอบเซมิไฟนอลส์ได้เลย ต่อยอดด้วยการมีผลงานอัลบั้มแรกในชีวิต Only Human ในปีนี้ พร้อมเพลงดังที่แฝงความเศร้า ความตื่นเต้น และความโรแมนติกของความรัก เช่น “Dancing on My Own”, “Rhythm Inside”, “You Are the Reason”, “Come Back Home”, “What I Miss Most” ฯลฯ
จากหนุ่มออฟฟิศที่ทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ วันนี้คาลัมมีความสุขกับชีวิตนักร้องที่ได้เดินสายขึ้นโชว์ตามประเทศต่างๆ ทั่วโลก แต่กว่าจะมีชีวิตที่มาไกลเกินฝัน เขาก็ต้องผ่านช่วงเวลาที่ต้องรับมือกับเพศสภาพของตัวเองและความรู้สึกกลัวว่าคนรอบข้างจะไม่ยอมรับ แต่สุดท้ายเขาก็ก้าวผ่านมันมาได้ คาลัมเคยให้สัมภาษณ์กับเราว่า “ถึงตอนนี้ผมคิดว่าตัวเองโชคดีที่สามารถพูดถึงเรื่องราวเหล่านั้นได้ผ่านงานเพลงของตัวเอง ใช้ดนตรีเป็นเครื่องเยียวยาหัวใจจากเรื่องต่างๆ และผมพยายามจะมอบแรงบันดาลใจดีๆ ให้แก่แฟนๆ ผ่านงานเพลง เพราะผมสูญเสียเวลาในช่วงวัย 20 ไปกับความวิตกกังวลเรื่องเพศสภาพของตัวเอง แต่ในความยากลำบากและความรู้สึกแย่ๆ นั้น ผมก็ค้นพบความสงบของจิตใจ เลยอยากอินสไปร์ผู้คนที่ต้องเจอปัญหาแบบผมให้ได้ค้นพบความสงบทางจิตใจด้วยครับ” แม้ศิลปินหนุ่มจะเปิดตัวว่าเป็นเกย์หลังจบการแข่งขัน Britain’s Got Talent ได้ไม่นาน แต่แฟนๆ ก็ยังคงสนับสนุนงานเพลงและเสียงร้องคุณภาพของเขาเสมอมา นี่คงเป็นกำลังใจที่ทำให้คาลัมมีความสุขกับงานนักร้องที่ตัวเองรัก ทั้งยังทุ่มเทกับงานและโชว์อย่างเต็มที่และต่อเนื่องเสมอ

5.PARSON JAMES

Age: 23 (ครบ 24 ปีวันที่ 7 มิ.ย.)

พาร์สัน เจมส์ คือศิลปินชาวอเมริกันที่เริ่มเป็นที่รู้จักจากการไปให้เสียงร้องและร่วมแต่งเนื้อเพลงแดนซ์ “Stole the Show” ของไคโก้ ดีเจชื่อดังชาวนอร์เวย์ในปี 2015 ซึ่งแน่นอนว่าพาร์สัน stole the show ได้ด้วยเสียงร้องคุณภาพที่มีเอกลักษณ์ของเขา อีกทั้งเพลงนี้ยังขึ้นแท่นเพลงฮิตในหลายๆ ประเทศอีกด้วย โดยเฉพาะในอิตาลี นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ และสหราชอาณาจักร พาร์สันเคยมีผลงานอีพี The Temple EP ในปี 2016 กับเพลงฮิตอย่าง “Temple”, “Slow Dance with the Devil", "Sinner Like You" ส่วนผลงานล่าสุดคือ “Only You” เพลงบัลลาดที่พูดถึงความผิดหวังในความรัก
งานเพลงของพาร์สันได้รับอิทธิพลมาจากดนตรีกอสเปลจากทางตอนใต้ของอเมริกา พูดถึงการเติบโตในเซาท์แคโรไลนา รัฐทางตอนใต้ที่ผู้คนส่วนใหญ่เป็นคนผิวขาวที่เคร่งครัดในศาสนาคริสต์เป็นอย่างมาก พาร์สันเติบโตมาโดยรู้สึกเป็นคนนอกของสังคม เพราะเขาเป็นลูกครึ่งที่เกิดจากคุณพ่อผิวสีและคุณแม่ผิวขาว อีกทั้งยังเป็นเกย์ซึ่งสังคมคริสเตียนที่นั่นมองว่าเป็นบาป โชคดีที่แม่ของเขาเข้าใจและยอมรับเรื่องนี้ ชีวิตของพาร์สันนับว่าไม่ง่าย แม่ของเขาถูกตัดออกจากครอบครัวตั้งแต่อายุ 16 ปี นั่นก็เพราะไปรักและตั้งท้องกับหนุ่มผิวสี ซึ่งสุดท้ายทั้งคู่เลิกรากัน โดยพาร์สันอยู่กับแม่และเผชิญชีวิตที่ยากลำบาก เมื่ออายุ 17 ปี เขาตัดสินใจย้ายไปใช้ชีวิตที่นิวยอร์กซิตี้ ส่วนหนึ่งเพราะต้องการโอกาสที่มากกว่านี้สำหรับลูกครึ่งผิวขาวกับผิวสีและเกย์อย่างเขา ซึ่งหาไม่ได้ในบ้านเกิดเมืองนอนที่เคร่งครัดอย่างเซาท์แคโรไลนา “หลายคนเติบโตมาโดยรู้สึกว่าตัวเองคือคนนอก แต่ยังดีที่มีศิลปินจำนวนหนึ่งที่สามารถสร้างชุมชนใหม่ๆ ขึ้นมาผ่านงานเพลงของเขา ซึ่งทำให้เรารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งในนั้นและปลอดภัยได้” พาร์สันกล่าว