โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ยานยนต์

สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย พร้อมเปิดเวทีเจรจาธุรกิจระดับโลก

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย พร้อมเปิดเวทีเจรจาธุรกิจระดับโลก Future Mobility Thailand 2025 มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์แห่งอนาคต

นายสุพจน์ สุขพิศาล รองเลขาธิการสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย หรือ TAPMA กล่าวว่า อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ของไทยมีความพร้อมสูง เนื่องจากมีซัพพลายเชนที่แข็งแกร่งและผู้ผลิตไทยมีความสามารถในการปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อแนวโน้มเทคโนโลยีใหม่ ๆ

ปัจจุบันประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน และติดอันดับ Top 10 ของโลก ด้วยกำลังการผลิตมากกว่า 1.9 ล้านคันต่อปี โดยภายในปี 2567 ประเทศไทยมีสัดส่วนการส่งออกยานยนต์และชิ้นส่วนคิดเป็น 12% ของ GDP และมีมูลค่าการส่งออกกว่า 1.02 ล้านล้านบาท

นายเสวก ประกิจฤทธานนท์ อุปนายกฝ่ายพัฒนาการส่งออก สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย หรือ TAPMA กล่าวว่า ประเทศไทยมีผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์กว่า 1,686 ราย ซึ่งแบ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนชั้นนำ (Tier 1) ประมาณ 476 ราย และผู้ผลิตชิ้นส่วนสนับสนุน (Tier 2-3) กว่า 1,210 ราย มีซัพพลายเชนที่ครบวงจรโดยเริ่มจากวัตถุดิบ การผลิต จนถึงการส่งออก และเป็นฐานการผลิตของค่ายรถยนต์ระดับโลกกว่า 30 แบรนด์

สำหรับแนวโน้มของตลาด EV ในภูมิภาคอาเซียนนั้นถือว่าไทยมีโอกาสสูงในการเป็นผู้นำตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค เนื่องจากปัจจุบัน EV มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะรถยนต์จากจีนที่เข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทย งานนี้จึงเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของซัพพลายเชนยานยนต์แห่งอนาคต

โดยแนวโน้มตลาด EV และผลกระทบต่ออุตสาหกรรมชิ้นส่วนปี 2567 คาดว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ในไทยจะสูงกว่า 100,000 คัน โดยมีผู้ประกอบการจากประเทศจีนเป็นผู้นำตลาดรถ EV และมีหลายค่ายตั้งฐานการผลิตในไทย เช่น BYD, NETA, GWM คาดว่าภายในปี 2573 รถยนต์ไฟฟ้าจะมีสัดส่วน 30% ของการผลิตรถยนต์ในไทย

ขณะเดียวกันด้วยนโยบาย Japan First จากรัฐบาล ที่จะช่วยผลักดันการลงทุนด้านเทคโนโลยีขั้นสูงในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งรถยนต์สันดาป รถยนต์ไฟฟ้า และไฮบริด ส่งเสริมการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศไทย และนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาพัฒนาชิ้นส่วนยานยนต์ให้ทันสมัยไปพร้อมกัน

นางสาวศิรพรรณ อ่อนอรรถ อุปนายกฝ่ายพัฒนา SMEs สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย หรือ TAPMA กล่าวว่า การที่อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคของ EV และยานยนต์อัจฉริยะ SMEs ไทยต้องปรับตัวในการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต เช่น ชิ้นส่วนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ระบบแบตเตอรี่ เทคโนโลยีการเชื่อมต่อ หรือแม้แต่ซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้อง งานนี้จะช่วยให้ SMEs ไทยสามารถพัฒนาและแข่งขันในระดับสากล

โดยที่ผ่านมา สมาคมฯ ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หาแนวทางผลักดันอุตสาหกรรมชิ้นส่วนฯ ให้พัฒนาไปยังอุตสาหกรรมใกล้เคียงเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการให้ transform ตัวเองได้ เช่น หารือมาตรการกำหนดสัดส่วน local content หรือออกนโยบายสนับสนุนการซื้อหรือผลิตเพื่อให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนฯ สามารถเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ รวมถึงการยกระดับทักษะแรงงานจากทักษะเครื่องกลไปเป็นไฟฟ้า เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับอุตสาหกรรมใหม่

ล่าสุดเราจึงจัดงาน Future Mobility Thailand 2025 ที่ได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 - 5 เมษายน 2568 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญในการเปิดตลาดใหม่ เชื่อมโยงกับพันธมิตรระดับโลก และขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต

โดยการจัดงาน Future Mobility Thailand 2025 ถือเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ไทยที่พร้อมก้าวไปกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า (EV), ยานยนต์ไฮบริด (HEV, PHEV), ระบบขับขี่อัตโนมัติ (Autonomous Vehicles) รวมถึงเทคโนโลยีเชื่อมต่ออัจฉริยะ (Connected Vehicles)

สำหรับงาน Future Mobility Thailand 2025 จะเป็นเวทีที่ช่วยให้ SMEs ได้เรียนรู้แนวโน้มของตลาด เทคโนโลยีการผลิต และโอกาสทางธุรกิจในระดับสากล รวมถึงในงานนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้เจรจาธุรกิจและจับคู่ทางการค้า (Business Matching) กับค่ายรถยนต์และผู้ผลิตเทคโนโลยีระดับโลก ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการขยายตลาดไปยังต่างประเทศได้อีกด้วย

โดยไฮไลท์ของงาน Future Mobility Thailand 2025 ว่า ในงานจะมี โซนพิเศษที่ต้องห้ามพลาด คือ โซน E-Parts & Mobility Revolution เวทีนำเสนอชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีขับเคลื่อนที่ช่วยสร้างอนาคตแห่งการเดินทางที่ยั่งยืน และโซน ADAS & Entertainment Systems ที่นำเสนอเทคโนโลยีระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติ และโซลูชันความบันเทิงภายในรถที่มอบประสบการณ์ขับขี่อัจฉริยะและปลอดภัย

รวมถึงโซน BGC Green Product & Alternative Energy ที่จะพบกับผลิตภัณฑ์รักษ์โลกและแหล่งพลังงานทางเลือกที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน โซน Performance Parts, Accessories, Maintenance & Car Care ที่จะได้สัมผัสอุปกรณ์แต่งรถ สมรรถนะสูง และโซลูชันบำรุงรักษารถยนต์ยุคใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและอายุการใช้งาน

นอกจากนี้มีโซน Parts Transform เรียนรู้แนวทางการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์สู่การประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น การผลิตชิ้นส่วนสำหรับเครื่องมือแพทย์, อากาศยาน, รถไฟและระบบราง, อุตสาหกรรมเกษตร เป็นต้น

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0