สลิงชอท กรุ๊ป ร่วมกับ Center for Creative Leadership ได้ทำการวิจัยเพื่อค้นหาคุณสมบัติสำคัญของ “ภาวะผู้นำระดับโลก” (World-Class Leadership Standards) และพบว่า ผู้นำที่ประสบความสำเร็จต้องมี 6 คุณสมบัติหลัก ซึ่งสรุปรวมเป็นคำว่า IMPACT โดยแต่ละคุณสมบัติมีทักษะสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพของความเป็นผู้นำ
I - Initiator (นักริเริ่มผู้มองการณ์ไกล) – ผู้นำที่สามารถปรับตัวและนำพาองค์กรไปข้างหน้าอย่างมีวิสัยทัศน์ ทักษะสำคัญคือ
- การเปิดรับมุมมองระดับโลก (Embracing Global Awareness) : ไม่ใช่แค่เข้าใจวัฒนธรรมที่แตกต่าง แต่ต้องสามารถคาดการณ์แนวโน้มในอนาคตและนำพาองค์กรเข้าสู่เวทีการแข่งขันระดับสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่แค่ตามทันแต่ต้องเป็นผู้นำเทรนด์ต่างๆ หากขาดทักษะนี้ องค์กรจะพลาดโอกาสสำคัญและขาดความสามารถในการแข่งขัน
- ความเฉียบแหลมทางปัญญา (Demonstrating Intellectual Insight) : ไม่ใช่แค่มีความรู้เท่านั้น แต่ต้องมีความสามารถในการคิดเชิงวิพากษ์ ตั้งคำถามเชิงลึกกับข้อสมมุติฐานต่างๆ และใช้ความฉลาดเฉียบแหลมแก้ปัญหาที่ซับซ้อน หากขาดทักษะนี้ องค์กรอาจขาดนวัตกรรมและไม่สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
พนักงานที่องค์กรไม่อาจขาดได้ โดย อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา
ทำงานยุค AI แล้วทำไมต้องฝึก “คิด” ? โดย อนิรุทธ์ ตุลสุข
M - Mobilizer (นักขับเคลื่อนผู้กระหายความสำเร็จ) – ผู้นำที่สามารถปลุกพลังทีมงานเพื่อสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ ทักษะสำคัญคือ
- การสื่อสารวิสัยทัศน์ (Articulating Vision) :ไม่ใช่แค่สื่อสารวิสัยทัศน์ แต่ต้องสามารถคิดและถ่ายทอดวิสัยทัศน์ให้เห็นภาพความสำเร็จที่ชัดเจนและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นเพื่อเดินทางไปสู่เป้าหมายเดียวกัน หากขาดทักษะนี้ ทีมงานจะขาดแรงจูงใจและไม่สามารถขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายได้
- การกำหนดแนวทางไปสู่ความสำเร็จ (Formulating Pathway) : ไม่เพียงแค่มีเป้าหมาย แต่ต้องสามารถแปลงกลยุทธ์ไปสู่การปฏิบัติที่ชัดเจน มีแผนระยะสั้นและระยะยาวเพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้บรรลุเป้าหมาย หากขาดทักษะนี้ องค์กรจะไร้ทิศทางและล้มเหลวในการดำเนินการตามพันธกิจ
P - Prover (นักสร้างความน่าเชื่อถือผู้ยึดมั่นคุณธรรม) – ผู้นำที่ขับเคลื่อนองค์กรด้วยความซื่อสัตย์และสร้างวัฒนธรรมแห่งความไว้วางใจ ทักษะสำคัญคือ
- การสร้างความไว้วางใจ (Earning Trust) : ไม่ใช่แค่รักษาคำมั่นสัญญาและปฏิบัติตามค่านิยมหลักขององค์กร แต่รวมถึงการตัดสินใจอย่างโปร่งใส มีคุณธรรมและจริยธรรม หากขาดทักษะนี้ องค์กรอาจเผชิญกับความขัดแย้ง ขาดความร่วมมือ และสูญเสียบุคลากรที่มีศักยภาพไป
A – Aggregator (นักผนึกกำลังผู้ผสานความหลากหลาย) – ผู้นำที่สามารถรวมพลังจากความแตกต่างหลากหลาย เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืน ทักษะสำคัญคือ
- การส่งเสริมความร่วมมือ (Fostering Collaboration) : ไม่ใช่แค่ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม แต่ต้องสร้างระบบนิเวศที่รวบรวมความสามารถ ไอเดีย และทรัพยากรที่หลากหลายทั้งภายในธุรกิจเดียวกัน ข้ามธุรกิจ ไปจนถึงความร่วมมือระหว่างมนุษย์และเทคโนโลยีเพื่อสร้างผลลัพธ์ร่วมกัน หากขาดทักษะนี้ องค์กรจะขาดนวัตกรรมและไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ได้
- การบริหารจัดการความสัมพันธ์ทางการเมือง (Navigating Politics) : ไม่ใช่แค่การรับมือกับการเมืองภายในที่ทำงาน แต่รวมถึงการสร้างความสัมพันธภาพที่แข็งแกร่งกับผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมด สามารถผสานผลประโยชน์ที่หลากหลายให้สอดคล้องกัน เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตและผลลัพธ์ในระดับสากล หากขาดทักษะนี้ องค์กรอาจล่าช้าในการตัดสินใจและสูญเสียโอกาสทางธุรกิจ
C – Challenger (นักท้าทายผู้ไม่ย่อท้อ) - ผู้นำที่กล้าคิด กล้าทำ เพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้า ทักษะสำคัญคือ
- ความกล้าหาญในการตัดสินใจ (Being Bold) : ไม่ใช่แค่กล้ารับความเสี่ยง แต่คือการตัดสินใจในเรื่องที่ยาก นำการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นแม้จะไม่ถูกใจคนส่วนใหญ่ และมุ่งมั่นฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อการเติบโตอีกระดับ หากขาดทักษะนี้ องค์กรจะพลาดโอกาสในการสร้างนวัตกรรมและสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน
T - Transformer (นักเปลี่ยนแปลงผู้สร้างความยั่งยืน) - ผู้นำที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเพื่อความสำเร็จระยะยาว
- การเป็นผู้บุกเบิกการเปลี่ยนแปลง (Pioneering Change) : ไม่ใช่แค่การนำเสนอไอเดียใหม่และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง แต่รวามถึงความสามารถในการมองเห็นโอกาสใหม่ ๆ และผลักดันการเปลี่ยนแปลง หากขาดทักษะนี้ องค์กรจะล้าหลังและสูญเสียศักยภาพในการแข่งขัน
- การปลูกฝังการเติบโต (Cultivating Growth) : ไม่ใช่แค่การใฝ่เรียนรู้แต่คือการแสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆ และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งส่งเสริมการเติบโตของทีมให้เติบโตก้าวหน้าจากระดับประเทศ สู่ภูมิภาค และระดับโลก
จากนี้ไปโลกจะไม่เหมือนเดิม ผู้บริหารไทยต้องพัฒนาทักษะในการเป็นผู้นำให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก เพื่อที่จะขับเคลื่อนทีมงานและองค์กรไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน แนวคิด IMPACT ไม่ใช่เพียงแค่ความคิดทางทฤษฎี แต่เป็นแนวทางปฏิบัติที่ช่วยให้ผู้นำสามารถ มองการณ์ไกล ขับเคลื่อนทีมงาน สร้างความน่าเชื่อถือ ผนึกกำลัง รับมือความท้าทาย และเปลี่ยนแปลงองค์กรอย่างยั่งยืน
องค์กรที่มีผู้นำตามคุณสมบัติ IMPACT จะสามารถเติบโต ประสบความสำเร็จ และพร้อมเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงของโลกในอนาคตได้