โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ไทยสร้างไทย โชว์นวัตกรรมทางการเมืองสุดล้ำ เปิดตัวแพลตฟอร์ม Citizen Force

MATICHON ONLINE

อัพเดต 04 ก.ย 2565 เวลา 07.25 น. • เผยแพร่ 04 ก.ย 2565 เวลา 06.05 น.
TST01378

ไทยสร้างไทย โชว์นวัตกรรมทางการเมืองสุดล้ำ เปิดตัวแพลตฟอร์ม Citizen Force

พรรคไทยสร้างไทย โดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยว่า วัตถุประสงค์ในการใช้เทคโนโลยีของพรรคไทยสร้างไทยคือ การสร้างประชาธิปไตยโดยตรง (Direct democracy) เพื่อให้ประชาชนมีสิทธิมีเสียงในการตัดสินใจที่สำคัญทางการเมือง ที่ไม่ใช่แค่เพียงวันกากบาทเลือกตั้งเพียงวันเดียว แต่ในทุกกระบวนการทางกฎหมาย และการตัดสินใจของรัฐบาลที่ส่งผลกระทบกับประชาชน ซึ่งหากพรรคไทยสร้างไทยเป็นรัฐบาล จะใช้เทคโนโลยี “Citizen Force” มาให้ประชาชนมีส่วนร่วมตัดสินใจทางการเมือง

นอกจากนี้ พรรคไทยสร้างไทย จะนำเทคโนโลยีมาเปลี่ยน เพื่อสร้างชีวิตที่ดีกว่าให้กับคนไทย เช่นในด้านสาธารณสุข พรรคจะมีการต่อยอดจากโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค เป็นโครงการ 30 บาทสุขภาพดีถ้วนหน้า พรรคจึงสร้างระบบ “ไทยสร้างไทย Digital Health” เพื่อดูแลเรื่องการสร้างสุขภาพ และการรักษา โดยประชาชนสามารถเลือกโรงพยาบาลได้เอง สามารถนัดหมาย และพูดคุยกับหมอได้โดยไม่ต้องรอคิวนาน รวมถึงสามารถรับยาได้โดยไม่ต้องไปที่โรงพยาบาลเอง และที่สำคัญจะมีการเก็บข้อมูลทำระบบ Big Data เพื่อเตรียมพร้อมวางแผนการใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในด้านการรักษาพยาบาล และบริหารจัดการคุณภาพในการป้องกันโรคจากระบบ Big Data เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยของประชาชนให้“แข็งแรงก่อนป่วย รวยก่อนแก่” เป็นผู้สูงอายุที่สุขภาพดี ซึ่งจะนำระบบ “ไทยสร้างไทย Digital Health” มาต่อยอดในโครงการบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาทด้วย

นอกจากนั้น พรรคไทยสร้างไทย จะนำเทคโนโลยีมาเปลี่ยน ด้วยระบบ “ไทยสร้างไทย Digital Education” เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยการนำครูผู้สอนที่เก่งๆ เช่น การค้าขายออนไลน์ตามกรุงเทพฯ ไปสู่ยอดดอย และตามพื้นที่ต่างๆ ของประเทศผ่านระบบ “ไทยสร้างไทย Digital Education” ซึ่งจะต่อยอดเป็น “Metaverse” ในอนาคต เพื่อทำให้เด็กนักเรียนสามารถสัมผัสประสบการณ์จริงกับครูผู้สอนที่มีความชำนาญในด้านต่างๆ ซึ่งสามารถลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างโอกาสให้เด็กนักเรียนได้เรียนรู้ในคุณภาพเดียวกัน จากครูผู้สอนที่เด็กนักเรียนต้องการอยากเรียนด้วย

จากนั้น ดร.ธรรม์ธีร์ สุกโชติรัตน์ หัวหน้าทีมดิจิทัล พรรคไทยสร้างไทย ได้แสดงวิสัยทัศน์ในหัวข้อ “ปลดล็อกประเทศไทยด้วยดิจิทัล” โดยกล่าวว่า การสร้างประชาธิปไตยที่ประชาชนมีส่วนร่วมสูง ที่จะทำให้ผลของการใช้สิทธิออกเสียงเป็นประโยชน์อย่างแท้จริงกับพี่น้องประชาชน มีปัจจัยที่สำคัญ 2 ประการ ประกอบด้วย 1.การมีส่วนร่วมของประชาชนที่มากพอในแต่ละประเด็น และ 2.การที่ประชาชนต้องรู้และเข้าใจในประเด็นต่างๆ ที่ต้องใช้สิทธิออกเสียง

จึงเป็นที่มาของการเปิดตัวแพลตฟอร์ม เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน รองรับ Active Citizen ขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้พรรคไทยสร้างไทยเคยนำเสนอแนวคิดนี้ในช่วงที่มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เช่น การมีส่วนร่วมในการพัฒนาเมือง และได้รับการตอบแทนเป็น Bangkok Token ที่นำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ ทางพรรคจึงต่อยอดไปในระดับประเทศโดยใช้แพลตฟอร์ม “Citizen Force” ที่จะดึงพี่น้องประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมทางการเมือง ตั้งแต่การแจ้งปัญหาความเดือดร้อน การเสนอแนวทางการแก้ไข การร่วมคิดนโยบาย การเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของพรรค หรือกลุ่มต่างๆ ที่รวมตัวกันทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคม จนไปถึงการเข้ามาอ่านข่าวสารความรู้และแบ่งปันข้อมูล ซึ่งจะทำให้พี่น้องประชาชนได้รับคะแนนการมีส่วนร่วม ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่างๆ ได้ในอนาคต สำหรับแพลตฟอร์มดังกล่าวจะเปิดให้ใช้กับเว็บไซต์ของพรรค รวมถึงกลุ่มต่างๆ ที่ขับเคลื่อนเพื่อประโยชน์ทางสังคม

“แม้วันนี้ตัวแทนของประชาชนในสภาส่วนใหญ่ จะยังไม่ได้ฟังเสียงประชาชน ดังที่เห็นได้จากการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจจากเสียงประชาชนทุกสำนัก ที่ผลออกมาตรงกันข้ามกับผลโหวตในสภา แต่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า หากประชาชนเลือกตัวแทนที่ใกล้ชิดกับประชาชน พร้อมฟังและทำเพื่อประชาชนเข้าไปในสภากันล้นหลาม ประโยชน์ของการมีส่วนร่วมของประชาชนนี้จะมากขึ้นอีก” ดร.ธรรม์ธีร์กล่าวเสริม

ด้านนายเจตุบัญชา อํารุงจิตชัย รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย กล่าวสรุปว่า แนวคิดดังกล่าว เกิดจากการมองถึงหัวใจของปัญหาทางสังคม การแก้คอร์รัปชั่น การบริการพี่น้องประชาชน ความเท่าเทียม และความยุติธรรม การตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ จะทำให้ประชาชนมีความสนใจทางการเมืองมากขึ้น และหากเราปลดล็อกเรื่องดังกล่าวได้ ภาครัฐจะสามารถทำงานให้ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำนโยบาย การใช้จ่ายงบประมาณ ที่มาจากภาษีของประชาชนก็จะมีประสิทธิภาพสูงสุด ตรงความต้องการ และตอบโจทย์พี่น้องประชาชน และจะทำให้การจัดทำนโยบายของฝ่ายบริหาร ทั้งด้านเศรษฐกิจ และสังคม ที่สามารถขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แก้ปัญหาตรงจุด จนสามารถนำพาประเทศฝ่าวิกฤตได้ในที่สุด

0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0