โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

รมช.กต.ย้ำนายกฯมา UNGA เปิดประตูให้ไทย เห็นช่องดึงเงินลงทุนพลังงานสะอาด

MATICHON ONLINE

อัพเดต 21 ก.ย 2566 เวลา 06.47 น. • เผยแพร่ 21 ก.ย 2566 เวลา 05.24 น.
IMG_8825

รมช.กต.ย้ำนายกฯมา UNGA เปิดประตูให้ไทย เห็นช่องดึงเงินลงทุนพลังงานสะอาด นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงการเข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) ว่า ในการประชุมปีนี้เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (เอสดีจีส์) ถือว่ามีความสำคัญ เพราะขณะนี้ผ่านมาแล้วครึ่งหนึ่งของการดำเนินการ จึงมีการหารือกันว่าที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้างและมีอุปสรรคอะไรบ้าง ทราบว่ามีเรื่องติดขัดหลายเรื่องระหว่างการดำเนินการ จึงหารือกันว่าจะแก้ไขอย่างไรหากเราต้องการบรรลุเป้าหมายเอสดีจีส์ภายในปี ค.ศ.2030 และในระยะเวลาที่เหลืออยู่เราจะทำอย่างไรได้บ้าง เพราะในขณะนี้โลกมีปัญหาเกิดขึ้นหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำท่วม น้ำทะเลหนุนสูง และแผ่นดินไหว ทั่วโลกจึงให้ความสำคัญกับการบรรลุเอสดีจีส์อย่างมาก นายจักรพงษ์กล่าวว่า การเดินทางมาของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ถือเป็นการเปิดประตูให้กับประเทศไทย ด้วยการให้คำมั่นสัญญากับยูเอ็นว่าไทยจะเดินหน้าทำให้บรรลุเอสดีจีส์ ในอนาคตจะมีหลายโครงการเกิดขึ้นเพื่อให้เกิดอากาศที่สะอาดสำหรับคนไทยและทำให้การปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์หรือเป็นกลางซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญมาก และกระทรวงการต่างประเทศก็ทำงานกันหนักมากเพื่อจะจับคู่บริษัทของไทยกับบริษัทการลงทุนต่างๆ ในการลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจสีเขียวซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ของโลก ที่จะต้องมีการทำธุรกิจให้สอดคล้องกับเอสดีจีส์ ซึ่งเท่าที่ทราบมาบางประเทศอย่างเช่นอินโดนีเซียเคยได้รับทุนช่วยเหลือถึง 15,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เวียดนามก็ได้ไปแล้ว 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งตนมองว่าเป็นโอกาสดีของธุรกิจไทยที่จะมาเข้าร่วมกับโครงการเหล่านี้ เพื่อขอเงินลงทุนในการสร้างอนาคตให้กับประเทศไทย เพื่อให้เรามีอากาศที่ดีกับลูกหลานของเรา เมื่อถามว่าไทยมีโอกาสหรือไม่ที่จะได้เงินทุนดังกล่าว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า มีโอกาสแล้วจากการที่นายกรัฐมนตรีกล่าวสุนทรพจน์และประกาศคำมั่นในงาน ถือเป็นการเบิกทางทำให้ประเทศที่อยู่ในยูเอ็นนำเงินมาร่วมลงทุนกับเราได้ ซึ่งกองทุนนี้มีมูลค่าหลายแสนล้าน ถ้าโครงการที่เราทำสามารถช่วยในเรื่องของความยั่งยืนและเศรษฐกิจสีเขียวได้เราก็สามารถขอทุนตรงนี้ได้ ซึ่งได้พูดคุยกับกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแล้ว หลังจากกลับไทยก็จะไปร่วมกันทำโครงการเกิดขึ้นให้ได้ เช่น โครงการเกี่ยวกับพลังงานหมุนเวียน เพราะบริษัทต่างชาติหลายบริษัทที่จะเข้ามาลงทุนเขาตั้งคำถามก่อนเลยว่าระบบของเราเป็นระบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหรือไม่ ซึ่งบ้านเราถือว่าได้เปรียบและรัฐบาลก็จะให้การสนับสนุน ทั้งนี้ จากที่ได้หารือทวิภาคีมีหลายประเทศให้ความสนใจที่จะมาลงทุนในบ้านเรา แต่คงต้องรอให้มีรายละเอียดมากกว่านี้ก่อน อย่างไรก็ดีต้องเป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีเหล่านี้ถึงจะมาลงทุนกับเราได้ เป้าหมายการหารือมุ่งเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืน สิ่งที่เราให้ความสำคัญอันดับแรกคือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่มีการตั้งเป้าหมายไว้แล้ว ซึ่งไม่เป็นเพียงแต่เป้าหมายของไทยแต่ยังเป็นเป้าหมายของโลกด้วย รวมถึงการออกหุ้นกู้สีเขียว ที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศออกไป ซึ่งต้องมีการเชื่อมโยงกับสิ่งที่เราต้องนำไปใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และทำให้เงินเหล่านี้ถูกนำไปใช้กับการทำให้เกิดการลดภาวะโลกร้อนได้จริง เมื่อถามว่า แปลว่าบทบาทของกระทรวงการต่างประเทศต้องปรับบทบาทมาเรื่องการค้ามากขึ้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า เป็นบทบาทเพิ่มเติมจากที่เคยทำมา เราจะเน้นว่าประชาชนและประเทศได้อะไร จากการที่เราเดินทางมาทุกครั้งจะต้องมีสิ่งที่เป็นรูปธรรมกลับไปให้คนไทยทุกคนและประเทศได้ประโยชน์ ส่วนท่าทีของต่างชาติที่ได้เจอกับรัฐบาลใหม่ของไทยนั้น ทุกประเทศให้การตอบรับที่ดีมีการพูดคุยและเป็นมิตรที่ดีต่อกัน เพราะประเทศไทยเป็นสมาชิกของยูเอ็นมานานแล้วทุกประเทศรู้จักไทย เรามีท่านทูตที่มีความสามารถ และเราได้ไปเจอพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็น แม้แต่ประเทศเพื่อนบ้านเราก็ได้เจอในเวทีนี้เช่นกัน และมีการพูดถึงเรื่องการค้าการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งให้ความสนใจกับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของเราเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในเวทีการระดมทุนเพื่อการพัฒนา ซึ่งทุกคนให้ความสนใจมากในเรื่องที่ประเทศไทยออกตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืนถือว่าเป็นกลไกด้านการเงินใหม่ ซึ่งหลายประเทศอยากนำโมเดลของไทยไปใช้เช่นกัน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวอีกว่า ในมุมมองของตน นายกรัฐมนตรีที่มาจากภาคธุรกิจ จะมีการทำงานโดยมีเป้าหมายที่แน่นอน รู้ว่าจะทำให้แต่ละเรื่องสำเร็จลุล่วงอย่างไร และทราบว่าเมื่อคุยแต่ละประเทศเสร็จแล้วจะต้องทำอะไรต่อ และหน่วยงานอื่นๆ ของไทยจะต้องทำอะไรต่อไป

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 0

ยังไม่มีความเห็น