ก้าวแรกสู่การเทคโอเวอร์ เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ จ่อปิดดีลซื้อหุ้น แมนฯ ยูไนเต็ด 25 เปอร์เซ็นต์

เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีชาวอังกฤษ จ่อประสบความสำเร็จในการเข้าซื้อหุ้นสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นจำนวน 25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นบันไดขั้นแรกไปสู่การเทคโอเวอร์เต็มตัวในอนาคต

ตระกูลเกลเซอร์ เจ้าของทีม แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มเปิดรับข้อเสนอการเทคโอเวอร์สโมสรมาตั้งแต่เดือน พ.ย. 2022 โดยให้บริษัทเดอะ เรน กรุป เป็นตัวกลางในการดำเนินการ และมีกลุ่มทุนต่างๆ ยื่นข้อเสนอเข้ามาแล้วหลายรอบ

ที่ผ่านมามีตัวเต็งในการเทคโอเวอร์อยู่ 2 รายนั่นก็คือ ชีกจัสซิม บิน ฮาหมัด อัล ธานี นักธุรกิจใหญ่แห่งกาตาร์ ที่ตั้งแง่การครอบครองสโมสรแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ และเซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ นักธุรกิจชาวอังกฤษ ที่เปิดโอกาสให้ตระกูลเกลเซอร์มีหุ้นเหลืออยู่เล็กน้อย ซึ่งต่างยื่นข้อเสนอเข้ามาราว 5,000 ล้านปอนด์ (ราว 2.21 แสนล้านบาท) แต่ยังไม่มีการตอบสนองใดๆ จากตระกูลเกลเซอร์

จนเมื่อวันที่ 14 ต.ค. สื่อดังหลายสำนักรายงานตรงกันว่า ชีกจัสซิม ได้ตัดสินใจที่จะถอนตัวจากกระบวนการเทคโอเวอร์ เนื่องจากข้อเสนอของพวกเขาที่คาดว่ามีมูลค่าสูงถึง 6.58 พันล้านปอนด์ (ราว 2.89 แสนล้านบาท) ก็ตามยังไม่ใช่ตัวเลขที่ตระกูลเกลเซอร์ต้องการ

และล่าสุด "สกาย สปอร์ตส์" ระบุว่า แรตคลิฟฟ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ทีรายงานว่า เขาส่อเปลี่ยนแผนในการเทคโอเวอร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นซื้อหุ้นบางส่วนของสโมสรแทนก่อนเพื่อทำให้ดีลลุล่วงจ่อที่จะซื้อหุ้น "ปีศาจแดง" เป็นจำนวน 25 เปอร์เซ็นต์ มูลค่า 1.48 พันล้านบาท (ราว 6.51 หมื่นล้านบาท) และทำให้ตระกูลเกลเซอร์ยังถือหุ้นใหญ่ของทีมอยู่

ทั้งนี้ แรตคลิฟฟ์ มองว่า การซื้อหุ้นบางส่วนของสโมสรดังกล่าวคือบันไดก้าวแรกของการเทคโอเวอร์ แมนฯ ยูไนเต็ด และเจ้าตัวจะมีอำนาจในการปรับโครงสร้างด้านกีฬาในทีม โดยเขาเตรียมจะดึงผู้อำนวยการกกีฬาคนใหม่เขามาซึ่งมีรายชื่อของ พอล มิตเชลล์ อดีตบิ๊กบริหาร โมนาโก อยู่ในลิสต์