ไฮไลต์
- จุดเริ่มต้นจากการแลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อนสู่เพจแนะนำการศึกษาสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่อยากลงทุนกับลูก
- ไม่มีโรงเรียนที่ดีที่สุด มีแต่โรงเรียนที่เหมาะสม ถูกใจ และเข้ากับครอบครัวที่สุด
- แม่คือคนที่ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อปูพื้นฐานให้ลูกที่ในอนาคตไม่ว่าจะลูกจะเจออะไร เขาก็สามารถอยู่อย่างมีความสุขและอยู่อย่างมีประโยชน์
ระยะเวลา 2 ปี กับผู้ติดตามกว่า 3 หมื่นคน สำหรับเพจการศึกษาที่เกิดจากการที่คุณแม่มือใหม่ 2 คน อย่าง‘เพ็ญ’ วันเพ็ญ เสรีบุรี และ ‘เฟิร์น’ ชนันพร ภูมิรัตน เริ่มศึกษาหาโรงเรียนให้ลูก สู่เพจ ‘ลงทุนมัม’ ที่ไม่ได้เป็นเพจเกี่ยวกับการลงทุนทางด้านการเงิน หรือทรัพย์สินใด ๆ แต่เป็นการลงทุนกับลูกที่ในฐานะแม่ถือว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่าที่สุด จากการและเปลี่ยนกันเองตามประสาเพื่อน วันนี้เพจลงทุนมัมแทบจะกลายเป็นเพจทางการศึกษาที่อัดแน่นไปด้วยข้อมูล ที่นอกจากจะสัมผัสได้ถึงความตั้งใจของสองคุณแม่แล้ว ก็ยังได้เห็นความใส่ใจในฐานะคุณแม่ที่ใส่ใจและทุ่มเทเวลาให้กับลูกเป็นอย่างมาก
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ แฟนเพจ"ลงทุนมัม" . 💝 พามารู้จักพวกเรากันก่อนน๊า . เพจ"ลงทุนมัม" เกิดจากความตั้งใจของแม่ 2 คน “แม่เพ็ญ”…
Posted by ลงทุนมัม on Saturday, July 17, 2021
เริ่มต้นจากการและเปลี่ยนตามประสาเพื่อนสาวสู่เพจที่อัดแน่นไปด้วยข้อมูลเรื่องการศึกษา
"เราเป็นเพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย พอหลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยที่ประเทศไทยก็ได้เดินทางไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา พอเรามองย้อนกลับไป ก็จะมีหลาย ๆ เรื่องที่เรารู้สึกว่าเป็นเรื่องที่เราน่าจะรู้มาก่อนหน้านี้ เรื่องทักษะหรือ soft skills ต่าง ๆ จนมามีลูกก็พบว่ามันมีอะไรหลาย ๆ อย่างในแง่ของการศึกษา เราจะต้องพัฒนาหลาย ๆ อย่างให้กับลูก
"เพราะหลาย ๆ ทักษะพอเราโตมาเราก็รู้สึกว่าเราน่าจะรู้เร็วกว่านี้ มันสามารถเริ่มได้เร็วกว่านี้ เช่นเรื่องการคิดวิเคราะห์ (critical thinking), ทักษะการใช้ชีวิต หรือทักษะการเป็นคนที่เรียนรู้ตลอดชีวิตที่สมัยก่อนยังไม่ค่อยมีการนิยามและการสอนที่จริงจัง แต่พอโตขึ้นมาเราก็รู้สึกว่าทักษะพวกนี้มันสำคัญที่จะทำให้ลูกเราเติบโตไปเป็นคนที่มีคุณภาพ
"เราทั้งสองคนในเชิงประวัติการศึกษาก็เรียนมาในสถาบันที่ดีมาตลอด แต่ก็รู้สึกว่ายังไม่ครบถ้วน พอมีลูก อย่างที่ทราบกันว่าพ่อแม่ที่เริ่มแพลนจะมีลูก ก็จะเริ่มมองหาโรงเรียน เพื่อที่จะได้เจอโรงเรียนที่เหมาะสมและฟิตกับครอบครัว พอเริ่มท้องมีลูกเลยหาข้อมูลโรงเรียนเพื่อตอบโจทย์กับตัวเอง โรงเรียนที่ไม่ได้มีแค่ในเชิงวิชาการ แต่มองไปที่ทักษะอื่น ๆ ด้วย ก็เลยเริ่มหาข้อมูลกัน และคิดว่าเอาตรงนี้มาช่วยให้พ่อแม่คนอื่นในเรื่องการหาข้อมูลหาโรงเรียนให้กับลูกด้วย
"จึงเกิดเพจลงทุนมัมซึ่งเป็นเพจเกี่ยวกับคุณพ่อคุณแม่ที่อยากลงทุนในด้านการศึกษา และพัฒนาในแง่การเรียนรู้ต่าง ๆ และสร้าง mindset ที่ดีให้แก่ลูก การลงทุนของเราไม่ได้หมายถึงการลงทุนด้านเงินอย่างเดียว แต่เรามองว่าเป็นการลงทุนเรื่องเวลาที่นอกจากการศึกษาความรู้ต่าง ๆ ในการดูแลลูกแล้ว ยังมีเรื่องของเวลาที่มีคุณภาพที่ให้แก่ลูกด้วย"
🏠 Home School คืออะไร? . 🖌 การเรียนแบบ “Home School” หรือ “บ้านเรียน” นี้ เป็นการจัดการเรียนโดยบ้าน โดยเด็กๆ…
Posted by ลงทุนมัม on Sunday, August 1, 2021
สอนเลี้ยงลูกมีเยอะแล้ว แต่แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษามีน้อย
"เราเองก็เป็นพ่อแม่ที่หาข้อมูลจากเพจอื่น ๆ เช่นเดียวกัน ตอนที่เราเริ่มหาโรงเรียนให้ลูกมันหาข้อมูลเรื่องนี้ยากมาก พอเรามีข้อมูลก็เลยอยากแชร์ให้คนอื่นเพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ และเห็นว่าการศึกษาเป็นข้อมูลที่สำคัญ เพราะปัจจุบันการเรียนไม่ได้เน้นแค่เรื่องวิชาการอย่างเดียว แต่เน้นเรื่องทักษะการใช้ชีวิต การสอนให้ลูกปรับตัวให้ทันกับโลกปัจจุบันเป็นสำคัญ การเรียนรู้ของเด็กมันมีช่วงเวลาที่สำคัญ หากเลยช่วงวัยที่เหมาะกับการเรียนรู้แล้วก็จะพัฒนาได้ช้ากว่า นอกจากครอบครัวแล้ว โรงเรียนก็มีส่วนสำคัญเพราะเป็นสถานที่เด็กใช้เวลาอยู่ด้วยมาก จึงคิดว่าการศึกษาและโรงเรียนเป็นสิ่งที่สำคัญ
"การเลือกโรงเรียนเป็นเรื่องที่หนักใจ เพราะว่ามันต้องใช้การตัดสินใจ ต้องเลือก ต้องหาข้อมูล และเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ว่าดี ดีจริงไหม? มันต้องใช้เวลาในการตัดสินใจ อีกทั้งโรงเรียนเดี๋ยวนี้มันไม่เหมือนแต่ก่อน เพราะหลักสูตรไทยจะไม่ได้หลากหลาย แต่พอมีหลักสูตรอินเตอร์มีหลากหลายมาก พอมีตัวเลือกเยอะ พ่อแม่ก็เริ่มสับสน เพราะอยากหาสิ่งที่ดีให้กับลูก แต่อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุด เราก็เลยรวบรวมจากที่เราศึกษามา ให้เห็นภาพกว้าง
"ตอนนี้ระบบการศึกษาในประเทศไทยมีอะไรบ้าง จุดดีจุดเด่นคืออะไร เหมาะกับครอบครัวประมาณไหน นอกจากนี้ก็มีการลงลึกไปว่าแต่ละโรงเรียนเป็นอย่างไร มีหลักสูตรแบบไหน ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่บ้าง และเราก็มองว่าไม่ใช่ทุกบ้านจะอยากส่งลูกเรียนหรือมีโอกาสได้เข้าเรียนในโรงเรียนอินเตอร์ เลยมองว่าการที่เราเอาประสบการณ์ที่ไปหาข้อมูล ไปเยี่ยมชมโรงเรียนมาแบ่งปัน มันเป็นส่วนหนึ่งทำให้เขาได้แนวคิดหรือไอเดีย กลับมาพัฒนาลูกตัวเองที่บ้านได้ โดยที่ไม่ต้องเข้าไปเรียนในโรงเรียนนั้น ก็จะได้เห็นหลากหลายของแต่ละโรงเรียน เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในการตัดสินใจ อีกส่วนคือเอามาปรับใช้กับตัวเขาเองด้วย"
อยู่บ้านว่างๆ ใครกำลังมองหากิจกรรมให้ลูกๆทำอ่านได้ที่นี่เลยค่า 👶👧 . วันนี้ "ลงทุนมัม"…
Posted by ลงทุนมัม on Monday, July 26, 2021
โรงเรียนที่ดีที่สุดไม่เท่ากับโรงเรียนที่ดัง แต่เป็นโรงเรียนที่เหมาะสมกับลูก
"พอเราได้ดูโรงเรียนมาก ๆ ทำให้รู้ว่ามันไม่มีโรงเรียนไหนที่ดีที่สุด ไม่อย่างนั้นทุกคนก็ต้องแย่งไปโรงเรียนที่ดีที่สุด ในสมัยก่อนทุกคนจะคิดว่าโรงเรียนที่มีชื่อเสียง คือโรงเรียนที่ดีที่สุด แต่พอได้ไปดูโรงเรียนมากขึ้นเรื่อย ๆ มันก็ไม่มีโรงเรียนไหนที่ดีที่สุด บางบ้านอาจชอบโรงเรียนใหญ่ที่มีนักเรียนเยอะ ๆ เพื่อให้ลูกได้มีสังคมที่กว้างขึ้น บางบ้านก็ชอบโรงเรียนเล็ก คุณครูจะได้ดูแลใกล้ชิด โรงเรียนที่ดีที่สุดของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน มันเลยจำเป็นที่ว่าเวลาหาโรงเรียนให้กับลูกนอกจากการหาข้อมูลแล้วก็ควรไปดูเองด้วย ว่าบรรยากาศโอเคมั้ย การเรียนโอเคมั้ย จริง ๆ ควรพาเด็กไปดูด้วย ว่าเขาชอบบรรยากาศแบบนี้หรือเปล่า
"นอกจากการศึกษาในโรงเรียนแล้ว ก็ยังมีการศึกษาอื่น ๆ อีก เรามองว่าการศึกษาไม่มีที่สิ้นสุด นอกจากการศึกษาในโรงเรียนที่เน้นวิชาการ อาจมีทักษะการใช้ชีวิตผสมไปบ้าง แต่นั่นก็ไม่ได้สามารถพัฒนาทักษะได้ทั้งหมด ถ้าโรงเรียนดูด้านวิชาการดีแล้ว เราก็จะมาดูทักษะการใช้ชีวิตของลูก มาเติมส่วนที่ขาดไป
"เรามองว่ามีทักษะที่โรงเรียนไม่เคยสอน เราโตขึ้นมาน่าจะรู้ก่อน เช่น ด้านการลงทุน การจัดการตัวเอง การบริหารเวลา การบริหารชีวิต เด็กที่ได้รับการปลูกฝังแบบนี้ตั้งแต่เด็ก โตขึ้นมาก็จะสามารถดูแลตัวเองได้ จัดการชีวิตของตัวเองได้"
"ลงทุนมัม" School Visit เราจะพาไปเยี่ยมชม #โรงเรียนนานาชาติมูลตรีภักดี (M.I.S) ใน #จังหวัดชลบุรี กันค่ะ . เหมาะมากกับ…
Posted by ลงทุนมัม on Wednesday, July 14, 2021
เพราะ 'ลงทุนมัม' คือการลงทุนเพื่อคุณภาพชีวิตของลูกที่มากกว่าลงทุน 'เงิน'
"เด็กเป็นวัยที่พร้อมเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ส่วนนี้เป็นส่วนที่ทำให้เราคิดว่าการลงทุนของเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวลาอยู่ใกล้ชิดกับเขา เพื่อสอนเรื่องมารยาท, ทักษะทางสังคม และทักษะการใช้ชีวิตต่าง ๆ เรามองว่า 'ความรู้' มันติดตัวเขาไปตลอดชีวิต เพราะฉะนั้นการมีพื้นฐานที่ดีเพื่อให้เขาโตขึ้นไปแล้วไม่ว่าจะทำอะไรเขาก็จะสามารถทำได้โดยไม่กลัว เพราะโลกปัจจุบันทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก หลาย ๆ อย่างที่พ่อแม่เราเคยสอนมันก็ใช้ไม่ได้แล้ว ทักษะที่เด็กจำเป็นต้องมีก็คือให้เขาพร้อมเรียนรู้ตลอดเวลา เพื่อที่เขาโตขึ้นไป เขาก็สามารถนำความรู้ไปปรับใช้ และปรับตัวให้เข้ากับโลกได้
"ชีวิตของคนไม่ได้อยู่แค่โรงเรียน แต่มีเรื่องราวต่าง ๆ มากมายนอกห้องเรียน เช่นพวกทักษะ soft skill ทั้งหลาย ต่อให้เราพอใจสิ่งที่ลูกเรียนในโรงเรียน แต่มันมีทักษะพื้นฐานการใช้ชีวิต มันก็คืองานของพ่อแม่ที่ต้องสอนไปเรื่อย ๆ"
🏫 School Talk กับ ลงทุนมัม EP.4 #เรียนฟรีที่โรงเรียนอินเตอร์ 💸 💸 💸 💸 ✅ โรงเรียนอินเตอร์มีเรียนฟรีด้วยหรือ❓ ✅…
Posted by ลงทุนมัม on Thursday, June 10, 2021
การเป็นแม่นอกจากดูแลลูก เราก็เหมือนโตพร้อมไปกับเขา จึงเป็นสาเหตุที่คอนเทนต์ในเพจโตขึ้นไปด้วยเช่นกัน
"ตั้งแต่เริ่มแรกเราเน้นเด็กเล็กจากประสบการณ์ตัวเอง พอทำมาเรื่อย ๆ ก็จะมีคุณพ่อคุณแม่คนอื่น ๆ ที่เราเห็นว่าเขาน่าสนใจ บางครั้งมีลูกเพจอินบ็อกซ์มาว่าอยากรู้เรื่องนี้ เรื่องนั้นกำลังอยู่ในเทรนด์ เราก็ขยายการเรียนรู้พวกนี้ไป เพราะเรามองว่าถ้าทำแล้วมีประโยชน์ต่อคนอ่านไม่ว่าจะเป็นวัยไหน ถึงเป็นวัยที่โตขึ้นเขาก้ได้ประโยชน์
"มันก็โตไปตามพวกเราด้วย แบบเพจลงทุนมัมที่ทำกันสองคนก็จะช่วยเสริมกัน คนนึงมองในฐานะที่ลูกโตขึ้นแล้ว อีกคนก็มองในจุดเริ่มต้น ในเพจมีเรื่องทุน เด็กทุน เด็กเรียนมหาวิทยาลัยดัง เรามองว่าคนกลุ่มนี้ไม่ได้ 2 ปีแล้วเก่งเลย แต่เกิดจากการลงทุนมาตั้งแต่เริ่มแรก การที่เอาเขามาคุย ก็ได้เป็นให้ไอเดียกับคุณพ่อคุณแม่ว่าแม้ลูกเราจะเด็ก แต่จะได้รู้ว่าต้องเตรียมตัวลูกเรายังไง เพื่อที่จะได้เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพให้กับประเทศ
"แม่เมื่อก่อนมีความสามารถในการพูดแล้วลูกต้องทำ แต่เดี๋ยวนี้แม่เป็นผู้ปูพื้นฐานให้ เป็นแนวทางให้ และคอยเดินไปกับเขาว่าเขาจะไปในทางไหน โดยที่เราต้องปูแนวทางในการเติบโตทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เราต้องมอบความเชื่อมั่นว่าแม่รักเขาจริง ๆ ไม่ว่าเขาจะเป็นไปในทางไหนก็ตาม แม่จะเป็นความมั่นคงของเขา ความท้าทายของแม่สมัยนี้คือเราต้องเรียนรู้และอัปเดตเทรนด์ให้ทันลูกด้วย อีกทั้งยังต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ลูกด้วย เพราะลูกมองเราเป็นตัวอย่างในการดำเนินชีวิต เราต้องเติบโตไปพร้อมกับเขา เป็นแม่ทั้งปูทางให้เขา และเติบโตไปพร้อม ๆ กัน
"การมีลูกทั้งพ่อและแม่เป็นเหมือนการปลูกต้นไม้ ตอนเป็นต้นกล้าเราต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ทะนุถนอมฟูมฟัก เพื่อที่เขาโตขึ้นไปจะได้มีรากฐานที่แข็งแรง พอเขามีรากฐานแข็งแรง ก็จะออกดอกออกผลงอกเงย และสร้างประโยชน์ให้กับบริเวณรอบ ๆ ของเขาได้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำเพื่อปูพื้นฐานว่าในอนาคตไม่ว่าจะเจออะไรก็สามารถอยู่ได้ อยู่อย่างมีความสุขและอยู่อย่างมีประโยชน์"
ไม่ใช่แค่เรื่องของเวลาหรือเงินทอง แต่เป็นการทุ่มเททั้งชีวิตให้กับอีกชีวิตหนึ่งในฐานะของคนเป็น 'แม่'.
