ตั้งอยู่เชิงดอยกองมู ตรงกันข้ามกับวัดม่วยต่อ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นที่ ประดิษฐานพระนอนองค์ใหญ่ สร้างด้วยศิลปะไทยใหญ่ พ.ศ. 2418 และเป็นพระนอนองค์ขนาดยาว 12 เมตร ซึ่งมีพุทธลักษณะงดงามมาก ชมสถาปัตยกรรมแบบพม่าที่ผสมผสานวัฒนธรรมชาวไทใหญ่ได้อย่างลงตัว ณ วัดพระนอน โดยรูปทรงหลังคาวัดแห่งนี้เป็นแบบสองคอสามชายและทรงปานซอยเหมือนวัดพระธาตุดอยกองมู ตลอดทั้งมีพระพุทธรูปปาง นั่งสมาธิและพระทรงเครื่องต่างๆ รวมถึง พระบัวเข็ม พระสิวลี รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม
นอกจากนี้ ภายในห้องเก็บของโบราณ ยังมีหนังสือพระไตรปิฎกและวัตถุโบราณ ถ้วยโถโอชาม และของใช้สอยของชาวญี่ปุ่นสงครามโลกครั้งที่ 2
ส่วนทางด้านหลังวัด มีสิงห์คู่สองตัวยืนคู่กัน เชื่อกันว่าชานกะเลและเจ้านางเมี๊ยะเป็นผู้สร้างและบริเวณฝั่งตรงกันข้ามจะมีเจดีย์ 2 หลังเป็นศิลปะแบบพม่าข้างในเจดีย์หลังแรกมีพระพุทธรูป 1 องค์ และเจดีย์หลังที่ 2 มีพระพุทธรูปแบบพม่า 4 องค์ ซึ่งด้านหน้าเจดีย์หลังที่ 2 นี้มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่นั่งสมาธิอยู่กลางแจ้งไร้ที่กำบังน่าสนใจยิ่งนัก
ประวัติวัดพระนอนสร้างเมื่อขึ้นเมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม 2418 โดยพญาสิงหนาทราชา (นามเดิมว่า ชานกะเล เป็นชาวไทใหญ่ ) เจ้าเมืององค์แรกของแม่ฮ่องสอน ซึ่งตรงกับรัชสมัยราชกาลที่ 5 ที่สร้างองค์พระนอนขึ้นมานั้น มี 2 ประการคือ
1. เพื่อเป็นอนุสรณ์ที่ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมืองแม่ฮ่องสอน และได้รับพระราชทานนามว่า “พญาสิงหนาทราชา” เมื่อ พ.ศ. 2417 อีกทั้งเป็นการเฉลิมฉลองในวาระที่หมู่บ้านแม่ฮ่องสอนได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นเมือง
2. ท่านเป็นผู้เกิดวันอังคารจึงสร้างองค์ไสยาสน์ (พระนอน) ขึ้น ให้เป็นพระประธานคู่บ้านคู่เมือง และให้เป็นที่สักการะกราบไหว้บูชา ของชาวเมืองแม่ฮ่องสอน
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเหตุการณ์บ้านเมืองแถวชายแดนไม่คอยสงบ องค์พระนอนจึงสร้างไม่เสร็จ และท่านได้ถึงแก่กรรมไปเสียก่อนเมื่อ พ.ศ. 2427 ต่อมาเจ้านางเมี๊ยะ พระชายา ทรงขึ้นครองเมืองเป็นเจ้าเมืององค์ที่ 2 พระองค์ทรงสร้างองค์พระนอนยาว 11 เมตร 90 เซนติเมตร ต่อจนสำเร็จเรียบร้อย และจัดงานฉลองอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมกับตั้งชื่อว่าวัดพระนอนตามสถานที่ที่องค์พระนอนประดิษฐานไว้ก่อนแล้ว และได้นิมนต์ครูบาชมภูมาเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดพระนอน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
ความเห็น 0