โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

7 ข้อผิดพลาดเดิม ๆ ที่พลาดซ้ำซาก เหมือนสมองไม่จำ

LINE TODAY ORIGINAL

เผยแพร่ 04 ก.ค. 2564 เวลา 17.56 น. • เพื่อนตุ้ม
ขอบคุณภาพจาก <a href=
@creativeart | freepix.com" data-width="1920" data-height="1080">
ขอบคุณภาพจาก @creativeart | freepix.com

คนเราทำผิด ทำพลาดกันแทบจะตลอดเวลา แต่สิ่งที่สำคัญกว่าความผิดที่เกิดขึ้น ก็คือเมื่อผิดหรือพลาดไปแล้ว เราแก้ไขหรือทำให้ดีขึ้นยังไง ?

ผิดเป็นครู ยังเป็นอะไรที่ใช้ได้ดีเสมอ ถ้าเรียนรู้ แก้ไข และปรับปรุงให้มันดีขึ้นก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ตอนนี้..ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกลับไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป คนเดี๋ยวนี้ผิดซ้ำ พลาดซ้ำ โดยแทบไม่รู้สึกอะไรเลย

ทั้งที่ความจริงเมื่อคนเราเวลาเจอข้อผิดพลาด วิธีที่ถูกต้องก็คือต้องเรียนรู้จากข้อผิดพลาดเหล่านั้น แต่เชื่อไหม ? คนส่วนใหญ่ยังคงทำผิดพลาดด้วยเรื่องเดิม ๆ พวกนี้อยู่เลย เรียกว่านอกจากไม่เรียนรู้แล้ว ยังทำซ้ำ ๆ จนกลายเป็นความเคยชินและไม่รู้ตัวว่าทำสิ่งที่ผิดอยู่

1. รู้ว่าผิดแต่ก็ยังทำ

ข้อผิดพลาดนี้ เข้าทำนอง “ดีชั่วรู้หมด แต่อดไม่ได้” มีคนเป็นจำนวนมากที่รู้ว่าทำผิด แต่ก็ยังจะทำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ก็ตาม เห็นใคร ๆ เค้าก็ทำกัน ก็เลยทำบ้าง หรือมองเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง คงไม่เดือดร้อนเท่าไหร่หรอก ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดและง่ายที่สุด เช่น การจอดรถบนริมถนน การขับรถแทรกคอสะพาน เป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทุกคนรู้ดีว่าผิดกฎจราจรอย่างแน่นอน แต่ส่วนใหญ่ร้อยเกือบทั้งร้อย ก็มีพฤติกรรมแบบนี้กันทั้งนั้น

ที่แย่ที่สุดก็คือ บางคนถึงขั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่กำลังทำอยู่นั้นคือเรื่องที่ผิด คิดว่าเป็นเรื่องปกติที่ใคร ๆ เค้าก็ทำกัน แบบนี้ยิ่งไปกันใหญ่ คนเราถ้าไม่รู้จักใช้จิตสำนึกมาช่วยในการตัดสินใจบ่อย ๆ ก็อาจทำให้กลายเป็นคนไร้จิตสำนึกไปเลยได้เหมือนกัน จิตสำนึกคือการที่คนเราต้องรู้ว่าอะไรผิด อะไรถูก และอะไรที่ควรหรือไม่ควร ถ้าทุกคนมัวแต่ทำในสิ่งที่ตัวเองจะสะดวกสบาย หรือในสิ่งที่อยากทำ โดยไม่คิดถึงส่วนรวมเลย ในอนาคตจะเป็นอย่างไร ?

2. ไม่ยอมรับความจริง

ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ทุกคนรู้จักคำนี้กันดี แถมส่วนใหญ่ยังรู้ด้วยว่าความจริงคือสัจธรรมที่ไม่มีหนีพ้น แต่คนเราบางคนก็ยังฝืนไม่ยอมรับความจริง

ว่ากันว่าเหตุที่คนเราไม่ยอมรับความจริงเพราะความกลัว..กลัวผิดหวัง กลัวปัญหา กลัวสิ่งที่จะตามมา และอีกสารพัดความกลัวที่กลายเป็นเกราะป้องกันตัวเองไม่ให้ยอมรับความจริง

การยอมรับคือความเข้าใจ รู้ความเป็นไปของสิ่งที่เกิดขึ้น รู้ที่มาที่ไป ใช้สติปัญญาตริตรองถึงเหตุและผลจนเกิดการยอมรับ ส่วนการฝืนมีแต่จะทำให้เกิดการต่อต้าน กลายเป็นการไม่ยอมทำความเข้าใจ สุดท้ายก็รับความจริงไม่ได้จนทำให้ทั้งตัวเองและคนรอบข้างเป็นทุกข์

3. แถมยังไม่ยอมรับผิดอีก

คนไม่ยอมรับความจริง มักมีแนวโน้มว่าจะไม่ยอมรับความผิดตามไปด้วย อย่างที่บอกว่าสาเหตุของการไม่ยอมความจริงก็เพราะกลัว ในที่นี้ก็คือกลัวความผิด เมื่อกลัวความผิด ก็เลยไม่ยอมรับว่าตัวเองทำผิดไปโดยปริยาย

การยอมรับความผิดจะไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับผลที่จะตามมาอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ต้องไม่ลืมว่าคนเราทำผิดได้ ไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่มีใคร ไม่เคยทำผิด ต่อให้เก่งแค่ไหน ประสบความสำเร็จแค่ไหน ก็ผิดกันมาตั้งเท่าไหร่แล้ว

จงอย่ากลัวความผิด ถ้าทำแล้วผิด ก็แค่ขอโทษ เรียนรู้ แล้วทำใหม่ รับผิดชอบกับสิ่งที่ทำผิดพลาดไป ยังไงซะต้องได้รับการให้อภัยอย่างแน่นอน

4. เชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไป

ความเชื่อมั่นในตัวเองเป็นสิ่งที่ดี นอกจากจะทำให้มีความกล้า ตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาดแล้ว ว่ากันว่ายังช่วยผลักดันให้คนรอบข้างมีความมั่นใจมากขึ้นด้วย แต่ทุกอย่างมีตรงกลางของมันเสมอ อะไรที่มากไปหรือน้อยไป มักส่งผลในเชิงลบเสมอ

ถ้าไม่มีความมั่นใจในเรื่องไหน ก็มักจะประหม่าในเรื่องนั้น ส่งผลให้พลาดโอกาสดี ๆ ไปมากมาย ขณะที่ถ้ามั่นใจในตัวเองมากเกินไป ก็ไม่ใช่เรื่องดี เพราะคนที่มั่นใจในตัวเองมาก ๆ มักจะไม่ค่อยฟังใคร ยึดแต่ความคิดของตัวเอง ยิ่งถ้าลองปักใจอะไรสักอย่างไปแล้ว ก็ยากที่จะเปลี่ยนใจ ซึ่งก็ทำให้เสียโอกาสดี ๆ ได้เหมือนกัน

ดังนั้นความมั่นใจควรอยู่ในระดับที่พอดี คือต้องไม่ยึดเอาตัวเองเป็นหลัก แต่เปิดใจ เปิดหู รับฟังคนอื่นบ้าง เพราะบางทีคนเราก็มั่นใจอะไรผิด ๆ ได้เหมือนกัน ที่สำคัญเมื่อมั่นใจอะไร ก็ไม่ได้แปลว่าสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งถูกต้องเสมอไป

5. โทษคนอื่น แต่ไม่เคยโทษตัวเองเลย

คนเราทำผิด ทำพลาดไปบ้าง ถือเป็นปกติ แต่จะมีคนบางประเภทที่ไม่เคยรู้เลยตัวเองทำผิด ทำพลาดอะไรไปบ้าง แถมยังโยนความผิดให้คนอื่น โดยไม่อายเลยสักนิด

การทำผิด บางครั้งก็มีข้อดีมากกว่าข้อเสีย โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าตัวเองทำผิดอะไรบ้าง เพราะคนเราถ้าไม่ยอมรับผิด ก็ยากที่จะเดินหน้าแก้ไข และปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นได้

ความผิดพลาดเรื่องการโทษคนอื่นแบบนี้ ถ้าไม่ยอมรับความจริงก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงอะไรได้ แต่ถ้ายอมรับความผิดได้เมื่อไหร่ เอาเวลาที่จะโทษคนอื่น มาเรียนรู้ความผิดของตัวเอง แล้วขอโทษอย่างจริงใจ น่าจะเป็นทางออกและคำตอบที่ง่ายกว่า

6. ไม่รักษาคำพูด หรือพูดอย่าง ทำอีกอย่าง

ข้อผิดพลาดนี้เรียกได้ว่าเป็นกันแทบทั้งนั้น โดยเฉพาะการพูดอย่าง แต่ดันทำอีกอย่าง หรือจะให้เรียกกันตรง ๆ ก็คือเป็นคนกลับกลอกนั่นเอง

ที่น่าแปลกก็คือ คนกลับกลอก มักไม่ค่อยรู้ตัวหรอกว่าตัวเองเป็นคนกลับกลอก เมื่อเกิดปัญหาหรือเจอเรื่องไม่คาดฝัน คนพวกนี้จะเนียน ๆ แก้ตัวพัลวันว่าจำไม่ได้ หรือไม่ได้พูดแบบนั้น ทั้งที่ความจริงแล้วจำได้ดีเลยว่าตัวเองพูดอะไร พอถึงเวลาเอาเข้าจริง กลับบอกว่าไม่ได้พูดเพื่อให้รอดพ้นปัญหาหรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ส่วนคนที่ไม่รักษาคำพูด คงไม่ต้องตีความกันให้มากมาย พูดแล้วไม่ทำ สัญญาไม่เป็นสัญญา หรืออะไรก็ตาม ที่น่าอนาถใจที่สุดก็คือคนเหล่านี้มักมีเจตนาไม่ทำตามที่พูดตั้งแต่แรก มักจะพูดเพื่อเอาประโยชน์เข้าตัวเองเสียก่อน จากนั้นค่อยว่ากันทีหลังว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้หลุดจากสถานการณ์นั้น ๆ ไปได้โดยไม่ต้องทำตามที่พูด

สรุปเลยแล้วกันว่าข้อผิดพลาดเรื่องคำพูดนี้ เป็นอะไรที่คนเราทำกันบ่อยที่สุด เพราะคำพูดมันพูดกันเมื่อไหร่ก็ได้ แทบไม่ต้องลงทุน ไม่ต้องเสียอะไรเลย แต่ผลประโยชน์ที่จะได้จากการพูดโวออกไปก่อน บางทีก็มากมายเกินกว่าจะต้องทำตามคำพูด

7. ไม่มีหิริโอตัปปะ

หิริโอตัปปะก็คือความละอายและเกรงกลัวต่ออกุศลทั้งปวง และไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าเดี๋ยวนี้คนเราขาดซึ่งความละอายและเกรงกลัวต่อบาปกันไปแล้ว

หิริและโอตัปปะเป็นธรรมะที่สำคัญต่อการใช้ชีวิตร่วมกันในสังคม เป็นเหมือนเครื่องเตือนใจ เตือนภัยให้ระลึกไว้เสมอว่าใครก็ตามที่ไม่มีความละอายและเกรงกลัวต่อบาปย่อมมีแนวโน้มที่จะทำผิดได้มากกว่า เริ่มจากผิดน้อย กลายเป็นผิดมาก จนสามารถทำผิดร้ายแรง ทำเรื่องเลวร้ายได้ทุกอย่างเพราะไม่มีจิตสำนึกใด ๆ ให้นึกถึงบาปกรรม หรือความเดือดร้อนของคนอื่น

ที่สังคมมันวุ่นวาย บ้านเมืองร้อนเป็นไฟอยู่ทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะคนเราไม่มีความละอายและเกรงกลัวต่อบาปกันอีกต่อไปแล้ว นึกไม่ออกว่าบาปบุญคืออะไร เป็นยังไง ทำทุกอย่างตามที่ตัวเองต้องการ โดยไม่คำนึงถึงใครหรืออะไรเลย ทั้งที่ถ้าลองนึกถึงใจคนอื่นแม้สักนิด สังคมก็จะน่าอยู่ขึ้นอีกหลายเท่าเลยทีเดียว

แค่นี้ก็รู้แล้วว่าคนเราทำผิดกันตลอดเวลา ทำผิดจนไม่รู้ว่าตัวเองผิด และถ้ารู้แบบนี้แล้ว ลองมองพฤติกรรมที่ผ่านมาของตัวเองดูบ้างก็ดี ว่าทำผิดพลาดแบบนี้บ้างหรือเปล่า ถ้าทำ! หรือก็มีบ้าง ขอให้ลองเอาความพลาดนั้นเป็นบทเรียน แล้วไม่ทำอีก แทนที่การดีชั่วรู้หมด แต่อดไม่ได้สักที~

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 11

  • vichai 🍁🌾🌱☘️
    ด่าลุงตู่ทำไม #รักลุงตู่ #ผนงรจตกม
    05 ก.ค. 2564 เวลา 00.35 น.
  • กระจกถ้าเช็ดให้ใสมองอะไรก็สะอาด สว่าง เห็นสนามหญ้าบ้านเขาบ้านเราเขียวเหมือนกัน ใจคนก็เช่นกัน(อคติ)คือฝุ่นที่ต้องชำระ ชีวิตก็จะมีแต่ความสุข เขียนบทความก็มีแต่สาระให้ผู้อ่านได้ปัญญามากกว่าการเกลียดชัง พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว..
    05 ก.ค. 2564 เวลา 04.02 น.
  • buppa
    คนคนหนึ่งลอยมาเลย
    05 ก.ค. 2564 เวลา 03.05 น.
  • P
    ลุงข้างบ้านน่าจะมาอ่านดูบ้างนะ
    05 ก.ค. 2564 เวลา 16.51 น.
  • "CHALONG "PLE"
    หมดความเชื้อถือ
    05 ก.ค. 2564 เวลา 05.17 น.
ดูทั้งหมด