เคยได้ยินมาบ่อยครั้ง ว่าเราจะรับรู้ถึงก้นบึ้งของนิสัยคน ๆ นึง ได้จากการเจอสถานการณ์ความกดดัน พยายามหาทางรอด หรือจวนตัวอย่างที่สุด กลับกันเคยถามตัวเองไหมว่า ‘ถ้าวันนึงชีวิตถึงเหตุการณ์จนมุม และสุดท้ายแล้วจะต้องมีเพียงคนเดียวที่รอดชีวิต ใครล่ะ จะเป็นคนนั้น? แล้วคุณจะหาทางรอดอย่างไร?…’เราอาจจะเพิ่งรู้นิสัยจริง ๆ ของตัวเองจากเหตุการณ์เหล่านั้นก็ได้
ซีนนี้มา อยากนำเสนอหนัง 5 เรื่อง ที่เปรียบเสมือนการเล่าเหตุการณ์จำลอง ที่จะสร้างความกดดัน ไร้ทางเลือก อึดอัด จวนตัวอย่างที่สุด ทำให้เราคิดตามหนัง ตื่นเต้นกับการแก้ไขสถานการณ์จนจบเรื่อง
เมื่อใกล้ตาย… ใครล่ะที่จะเผยธาตุแท้ เห็นแก่ตัวอย่างสุดขั้ว?
The Circle (2015) โหวตเป็น โหวตตาย
เรื่องราวของคน 50 คนที่ถูกจับมาอยู่ในห้องเดียวกัน ต่างอาชีพ ต่างที่มา ต่างเชื้อชาติ แต่ห้องนี้ไม่ใช่แค่ห้องธรรมดา ทุก 2 นาที จะต้องมี 1 คนที่ต้องตาย! สถานการณ์ภายในห้องทำให้ทุกคนตื่นตระหนก ความไม่รู้ที่มาที่ไปของแต่ละคนในห้องนี้ จนต้องเริ่มตั้งกฎเกณฑ์ของตัวเองกันขึ้นมา เพื่อตัดสินว่า ใครที่ควรอยู่ ใครที่ควรตาย จนเหลือผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวรอดจากห้องนี้ไป
หนังเรื่องนี้ถือว่าเป็นการเล่าถึงความเป็นมนุษย์ได้ดีมาก เราจะเห็นการแสดงออกต่อสภาวะกดดันที่ทุกคนต้องการเอาชีวิตให้รอด! มีการตั้งกฎเกณฑ์เพื่อตัดสินความเป็นความตายของแต่ละคน ได้นั่งดูและคิดตามตัวละครไปเรื่อย ทำให้มันสนุกและเข้มข้นมาก
Exam (2009) เกมฆาตรกรโหด
มีเพียงกฎ 3 ข้อในห้องนี้เท่านั้น
‘1.ห้ามทำลายกระดาษของตัวเอง
2.ห้ามพยายามสื่อสารกับผู้คุมสอบ
3.ห้ามเดินออกจากห้องสอบนี้’
เรื่องราวของการสอบเข้าองค์กรที่มีคนต้องการมาก ตรงหน้ามีเพียงกระดาษคำตอบเปล่า ๆ ไม่มีแม้แต่คำถาม ทำยังไงก็ได้ให้หาคำตอบมาให้ได้ ความกดดันและเวลาที่เป็นตัวกำหนดเส้นตายที่จะทำให้ได้งาน คือสิ่งที่ทำให้ 8 ผู้สมัคร ต้องเค้นหาคำถามของข้อสอบนี้เพื่อตอบ และเป็นผู้ที่องค์กรนี้เลือกรับเข้าทำงาน
ถ้ามองดี ๆ เราจะเห็นแบบจำลองของมนุษย์ในสังคม จะมีบางคนที่ดูโดดเด่นเป็นผู้นำ คอยชี้นำ บางคนเป็นผู้ตามที่คล้อยตามคนอื่นได้ง่าย แต่ก็มีบางคนเงียบเพื่อดูเชิงสถานการณ์ภาพรวม และคนอีกหลายแบบที่เรามองเห็นได้ในการอยู่ร่วมในสังคม เมื่อเราต้องตัดสินใจ หรือต้องต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง นั่นแหละ การทำงานของนิสัยที่แท้จริง จะเริ่มออกมา…
Escape Room (2019) กักห้อง เกมโหด
เรื่องราวของกลุ่มคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อน 6 คนนี้คือผู้ที่เข้าร่วมเล่นเกมออกจากห้องลับให้สำเร็จ ด้วยความไม่ตั้งตัวเกมก็ได้เริ่มต้นขึ้น ทุกคนต้องช่วยเหลือกันฝ่าด่านห้องปริศนา 6 ห้อง เพื่อเงินรางวัลก้อนโตที่ล่อใจ แต่ความสนุกก็เป็นเพียง ‘กับดัก’ หลอกตา เพราะเวลาที่มีจำกัด และกับดักต่าง ๆ ที่ดูสมจริง ไม่ว่าจะห้องทำความร้อน ห้องประสาทหลอนและอื่น ๆ ทำให้เกมนี้กลายเป็นการกดดันให้ด้านมืดของแต่ละคนเริ่มเปิดเผย และไขปริศนาที่เดิมพันด้วยชีวิต
จากที่ดูมาแล้วหลายเรื่อง สิ่งที่สังเกตได้คือ มันจะต้องมีตัวละครที่ ดูฉลาด แต่ ปากมาก เป็นตัวเด่นของเรื่อง (ทำให้หงุดหงิดได้ทุกเรื่อง) และเรื่องนี้ก็มีเจ้าเด็กเนิร์ด เซียนเกม คอยชี้นู่น โยงนั่นโยงนี่ พลิกเหตุการณ์อย่างตื่นเต้น ความเกินจริงของบางห้องก็กลับทำให้มันสนุก เพราะให้เห็นความแปลกใหม่ในการแก้ปัญหา แนะนำให้ดูค่ะ
Cube (1997) ลูกบาศก์มรณะ
หนังต้นตำหรับของ ‘ห้องปิดตาย’ ว่าด้วยเรื่องราวของ 6 คนที่ไม่รู้จักกัน ในห้องทรงลูกบาศก์ ที่มีประตูอยู่แค่ 6 บาน โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าต้องใช้วิธีไหนถึงจะออกไปได้ จนกระทั่งมีหนึ่งคนที่เหยียบเข้าไปในห้องที่มีกับดัก ก็กลายเป็น ร่างกายในไซส์ลูกเต๋า ทุกส่วนของร่างกายถูกตัดเป็นสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ จนเริ่มคิดวิธีไขปริศนา หนังเรื่องนี้ต่างออกไปตรงที่ ใช้วิชาคณิตศาสตร์! เพราะว่าประตูแต่ละบาน จะมีตัวเลขเรียงไว้ ให้ค้นหาว่าเลขใด ‘ไม่ใช่จำนวนเฉพาะ’ ก็จะรอด! นั่นแหละคือความยาก เพราะจะมีสักกี่คนที่อัจฉริยะคณิตศาสตร์?!
หนังต้นฉบับฉากสยองขวัญที่เป็นตำนาน เพราะมีหลายฉากที่ติดตาพอดู และด้วยการแก้ไขปริศนาผ่านตัวเลข อาจจะทำความเข้าใจได้ช้าสักหน่อย กลายเป็นความตื่นตาเพราะว่าคนปกติธรรมดาเหมือนจะทำไม่ได้ ชวนให้ดูเป็นอย่างมากค่ะ
The Mist (2007) มฤตยูหมอกกินมนุษย์
ถึงเวลาออกมานอกห้องปิดตาย กับหนังเปิดเผยให้เห็นด้านมืดของมนุษย์อีกเรื่องกับ The Mist ‘มีอะไรอยู่ในม่านหมอก’ เรื่องราวเกิดขึ้นหลังจากพายุฝนกระหน่ำเมื่อคืนก่อน ส่งผลให้เช้าวันต่อมาทุกคนต้องมุ่งหน้า ซื้อของเข้าบ้านกันที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต ด้านในที่คิวซื้อของก็แสนจะยาวเหยียด และด้านนอกที่ดูวุ่นวายด้วยเสียงรถตำรวจวิ่งผ่านไปมาให้ขวัก หมอกปริศนาก็เคลื่อนตัวตรงมาที่อาคารอย่างรวดเร็ว คนที่วิ่งหนีหมอกเข้ามาทัน ก็ขอความช่วยเหลือภายในห้างที่กำลังแตกตื่น และบอกให้รู้ว่าหมอกข้างนอกนั่น มันกินคน!
หนังทำให้เห็นถึงการรับมือกับสถานการณ์จลาจลที่เกิดอย่างฉับพลัน การรวมตัวอยู่กันเป็นหมู่มากสร้างความตระหนกเกินกว่าเหตุ อาจทำให้ไม่มีสติที่จะคิดแก้ปัญหาอย่างถูกวิธี แต่ท้ายที่สุดก็เห็นการเรียนรู้จากสิ่งที่ผิดพลาด เพื่อทำในสิ่งที่ดีกว่าเดิม เราจะต้องชนะ!
ไม่มีคำตอบที่ตายตัวหรอกว่า ใครที่ควรรอด ใครที่สมควรตาย อย่างนึงคือ เราไม่สามารถไปกำหนดว่า ชีวิตใครสำคัญกว่าใคร การกระทำของแต่ละคนน่าจะเป็นตัวชี้วัดการอยู่รอดได้นานมากกว่า…
ความเห็น 43
Fair...
BEST
ผมคนหนึ่งละ ไม่คิดจะกักตุนอะไร ซื้อแต่พอดีกับเรา
ตั้งแต่สมัยน้ำท่วมใหญ่กรุงเทพละ พอการประปาบอก บางทีอาจจะไม่สามารถผลิตน้ำประปาได้ คนก็ไปกักตุนน้ำดื่มกันหมด 7-11 ผมคนละที่ซื้อทีละแค่1-2ขวด
ผมคิดว่าถ้าเราซื้อหมด คนข้างหลังก็ไม่ได้ซื้อ
21 มี.ค. 2563 เวลา 00.04 น.
ผมว่าเอาเพียงแค่ดูสังคมของในทุกวันนี้ก็พอมั้งครับ.
21 มี.ค. 2563 เวลา 01.44 น.
KunDe💕
คนที่เห็นแก่ตัวที่สุดก็คนที่ไม่ทำอะไรๆด้วนตัวเอง นั่งนอนพูดเพื่อไห้คนอื่นหยิบยื่นไห้ โครตเง่าไม่ได้สอนมาเหรอว่าต้องเดินด้วยขาตัวเอง มันถึงจะรอด บอกเรียนจบมาสูง แต่ดูความคิดซิ โครตเห็นแก่ตัว ต่ำสะถุนความคิดลบมากๆ
21 มี.ค. 2563 เวลา 02.15 น.
I Saw The Devil
เป็นหนังเกาหลี. ใครจิตอ่อนรับรองดูเรื่องนี้จะจิตตกไปหลายวันทีเดียว!!!
20 มี.ค. 2563 เวลา 17.52 น.
All time
มนุษย์ทุกคนมีความกลัว และความเห็นแก่ตัว ความกลัว และเห็นแก่ตัวส่วนหนึ่งจะถูกขัดเกลาด้วยเหตุผล และสามัญสำนึกที่ถูกสั่งสอนมา แต่ส่วนที่ฝังลึกจะถูกซ่อนและปกปิดด้วยความรู้และสติปัญญาที่ได้เรียนรู้มา เห็นได้จากพวกทุจริตโกงกิน จะใช้ปัญญาวางแผนปกปิดการทุจริต สมัยก่อนมีเกมกำจัดจุดอ่อน ที่ใช้วิธีโหวตให้คนตกรอบ ก็จะมีการรวมกลุ่มเพื่อกำจัดผู้แข่งขันรายอื่นออกไปเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด เกมบิ๊กบราเธอร์ก็เป็นรายการสร้างภาพตัวเองเป็นคนดีเพื่อการอยู่รอดและชนะได้รางวัล
21 มี.ค. 2563 เวลา 03.07 น.
ดูทั้งหมด