กรณี นายกัณตภณ แป้นวงศ์ หรือเฮียตี๋ อายุ 40 ปี เจ้าของเต็นท์รถมือสองกัณตภณออโต้ อ.เมืองพิษณุโลก ที่กินยาฆ่าตัวตายแล้วใช้เตาอั้งโล่รมควันพร้อมกับคนในครอบครัวจนเสียชีวิตรวมถึง 5 ศพ ประกอบด้วย ตัวเฮียตี๋ มารดา พี่สาว ภรรยา ลูกชาย และสุนัขอีก 6 ตัว
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่วัดเขื่อนขันธ์ ต.อรัญญิก อ.เมืองพิษณุโลก สัปเหร่อได้พิธีเก็บเถ้ากระดูกของสุนัขทั้ง 6 ตัว โดย น.ส.อัจฉรา พานนาค ปลัดอำเภอเมืองพิษณุโลก ซึ่งเป็นพี่สาวของ ภรรยาเฮียตี๋ เปิดเผยว่า กำลังเตรียมเอกสารไปขอรับศพผู้เสียชีวิตทั้ง 5 รายที่ รพ.พุทธชินราช ส่วนกำหนดวันสวดศพต้องหารืออีกครั้ง เพราะต้องรอตำรวจสรุปสาเหตุหรือแรงจูงใจของการฆ่าตัวตายก่อน อีกทั้งตอนนี้มันเศร้าไปหมดทุกอย่าง
พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก กล่าวว่า เงินกู้นอกระบบนั้นเป็นเงินของกลุ่มของเพื่อนฝูงที่รู้จักกันรวมมากกว่า 10 ล้านบาท มีการเสียดอกเบี้ยต่อเดือนถึงหลักแสน อาจจะทำให้หมุนเงินธุรกิจที่ลงทุนไปหลายอย่างไม่ทัน อาทิ เต็นท์รถยนต์มือสอง ตรอ. ร้านกาแฟ ธุรกิจส่งน้ำแข็ง เป็นต้น จึงมุ่งประเด็นปัญหาหนี้สินมากสุด
ส่วนเพื่อนสนิทเฮียตี๋ที่ทำธุรกิจเต็นท์รถยนต์มือสอง เล่าว่า เต็นท์รถมือสองของเฮียตี๋ถือว่าเข้าขั้นขายดีมาก เดือนหนึ่งจะขายได้ถึง 10-20 คัน แต่มาระยะหลังนั้นเศรษฐกิจไม่ค่อยดีเริ่มขายยากขึ้น เฮียตี๋พยายามจะขายรถในเต็นท์ให้กับเต็นท์รถเพื่อนๆในราคาถูก เพราะต้องการจะดันรถออกจากเต็นท์ให้เร็ว เพื่อเอาเงินไปหมุนจ่ายเงินกู้ยืมมา ไม่เคยสังเกตเห็นความเครียดเนื่องจากเขาไม่เคยเล่า เขาเป็นคนชอบช่วยเหลือ นิสัยดีและร่าเริง
นอกจากนี้ยังมีเพื่อนสนิทอีกรายที่ได้ให้เฮียตี๋กู้ยืมเงินไป เผยว่า เฮียตี๋ได้กู้ยืมเงินไปกว่า 1 ล้านบาท แต่ไม่เพียงพอหมุนเงินในการทำธุรกิจ จึงได้มาขอกู้ยืมเงินไปอีก 180,000 บาท ตนก็ยินยอมให้กู้เพราะเฮียตี๋เครดิตดี ส่งดอกเบี้ยตรงเวลาประจำ แต่ระยะหลังอาจจะหมุนเงินไม่ทันจากพิษเศรษฐกิจจึงทำให้เกิดความเครียดหาทางออกปัญหาไม่ได้.