โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ปรากฏการณ์ Revenge Spending ช้อปล้างแค้นหลังโควิด-19

PPTV HD 36

อัพเดต 14 ส.ค. 2565 เวลา 01.01 น. • เผยแพร่ 14 ส.ค. 2565 เวลา 00.38 น.
ปรากฏการณ์  Revenge Spending ช้อปล้างแค้นหลังโควิด-19
คยไทยโหยหาอิสระในการช้อปปิ้ง แนวโน้มการใช้เงินหลังโควิด-19 ไปกับ 4 กลุ่มสินค้า ของหวาน ไวน์-เครื่องสำอางและน้ำหอม-ร้านอาหาร-เสื้อผ้าสปอร์ตแวร์ ช่องทางออนไลน์โตต่อเนื่อง

ปรากฏการณ์ Revenge Spending หรือ ‘ช้อปล้างแค้น’ เรียกได้ว่าเป็นการทวงคืนอิสระในการจับจ่ายในยุคหลังโควิดเพื่อสร้างความผ่อนคลายและระบายความอัดอั้น โดยสะท้อนให้เห็นได้จากยอดขายที่สูงขึ้นใน 4 กลุ่มสินค้าเพื่อความพึงพอใจ

แกร็บ หนุน “คนละครึ่ง เฟส 5” ผุดสิทธิประโยชน์กระตุ้นกำลังซื้อ

ลงทะเบียน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน รอบใหม่ 5 ก.ย.-19 ต.ค. 65

1. อุปโภคบริโภค พบ ยอดขายเติบโตขึ้นถึง 51% ในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม อย่างไวน์ ขนม และของหวาน ในขณะที่ยอดขายวัตถุดิบเพื่อการประกอบอาหารและเบเกอรี่ลดลง 14% สะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคที่ทำอาหารที่บ้านน้อยลง

2. ร้านอาหาร ยอดขายร้านอาหารเติบโตสูงขึ้น 15% และโดดเด่นในกลุ่มร้านอาหารชาบู/ปิ้งย่างที่นิยมทานเป็นกลุ่ม และอาหารญี่ปุ่น/เกาหลี ที่มีราคาสูง บ่งชี้ถึงการมอบรางวัลเล็กๆ น้อยๆ ให้ตนเองเพื่อสร้างความผ่อนคลาย

3.ความงาม ยอดขายเครื่องสำอางและน้ำหอมกลับมาเติบโตกว่า 20% ซึ่งเห็นได้ชัดว่าตัวเลขเติบโตสัมพันธ์กับการที่ผู้บริโภคสามารถออกจากบ้านและพบปะผู้คนได้มากขึ้น การแต่งหน้า-ฉีดน้ำหอมจึงเป็นการใช้จ่ายเพื่อความเพลิดเพลินอย่างแรกๆ

4.การออกกำลังกาย เมื่อผู้คนไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายเพียงแค่ที่บ้าน แต่สามารถออกจากบ้านรวมถึงการออกกำลังกายเป็นกลุ่มได้ ทำให้ยอดขายสปอร์ตแวร์ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 25% และยอดขายอุปกรณ์ออกกำลังกายที่เติบโตในช่วงโควิดกลับปรับตัวลดลง 22%

คนเลือกจ่ายสินค้าที่ราคาเข้าถึงได้มากกว่าสินค้าฟุ่มเฟื่อย

นอกจากนั้น ปรากฏการณ์ Revenge Spending ในรอบนี้นั้นมีความแตกต่างจากครั้งก่อนๆ เนื่องจากกลุ่มสินค้าที่ผู้บริโภคเลือกจับจ่ายมากขึ้นนั้นเป็นในกลุ่มสินค้าเพื่อความพึงพอใจในราคาที่เข้าถึงได้ มากกว่าจะเป็นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น สินค้าแฟชั่นและเครื่องประดับ

ซึ่งไม่น่าแปลกใจด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังมีแนวโน้มไม่สู้ดีและสภาวะเงินเฟ้อ จึงเป็นเหตุให้ผู้คนใช้จ่ายมากขึ้นเพื่อสร้างความผ่อนคลายในงบประมาณที่ ‘สามารถจ่ายได้’ โดยไม่กระทบกับทรัพย์สินจำนวนมากเกินไปนัก

นอกจากนี้ ยังเป็นที่ทราบกันดีว่าปรากฏการณ์ Revenge Spending นั่นมักเกิดขึ้นในช่วงสั้นๆ เพื่อสร้างความผ่อนคลาย ลดความอัดอั้นสำหรับตัวผู้บริโภคเอง รวมถึงมักเกิดขึ้นในกลุ่มสินค้าบางกลุ่มเท่านั้น จึงไม่สามารถบ่งชี้ถึงทิศทางเศรษฐกิจในภาพรวม ซึ่งต้องอาศัยการฟื้นตัวในหลายแง่มุมได้

ช้อปออนไลน์ยังโตต่อเนื่อง ยอดขายเติบโตกว่า 2 เท่า ยอดผู้เข้าชมสินค้าสูงขึ้นกว่า 3 เท่า

การช้อปในช่องทางออนไลน์ (Online Shopping) คือพฤติกรรมหนึ่งที่เติบโตอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลานานและอัตราการเติบโตยิ่งสูงขึ้นในช่วงโควิด-19 ทั้งในแง่ของยอดขายและจำนวนผู้ใช้ โดยยอดขายเติบโตกว่า 2 เท่า และยอดผู้เข้าชมสินค้าสูงขึ้นกว่า 3 เท่าตลอดช่วงเดือนพฤษภาคม 2020 – พฤษภาคม 2022

ยังพบว่าผู้บริโภคกว่า 36% ยังคงพฤติกรรมการช้อปปิ้งออนไลน์ในยอดคงที่อย่างต่อเนื่อง แม้จะกลับไปจับจ่ายที่หน้าร้านมากขึ้นด้วย

ในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกเห็นตรงกันว่า การสร้างประสบการณ์แบบ Omnichannel คือ เรื่องที่ทุกแบรนด์ต้องให้ความใส่ใจในปัจจุบันเพราะมีผลอย่างยิ่งกับความอยู่รอดของแบรนด์ในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นช่องทางออฟไลน์หน้าร้าน ช่องทางออนไลน์ เช่น E-Commerce Application และ Website, Social Commerce รวมถึง New Sales Channels อย่าง Chat & Shop, Call & Shop และ Personal Shopper

นั้นหมายความว่า แบรนด์ไม่อาจให้ความสำคัญกับเพียงช่องทางใดช่องทางหนึ่งอีกต่อไป แต่ควรมุ่งสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดอย่างไร้รอยต่อให้กับลูกค้าในทุกช่องทาง

ข้อมูล : The 1 Insight วิเคราะห์เจาะแนวโน้มการใช้จ่ายในยุคหลังโควิด

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0