สุดอันซีน! น้ำไหลทะลักจากถ้ำ ผ่านบันไดพญานาค ชาวบ้านแห่พาลูกหลานเล่นสไลเดอร์

สุดอันซีน! น้ำไหลทะลักจากถ้ำ ผ่านบันไดพญานาค ชาวบ้านแห่พาลูกหลานเล่นสไลเดอร์

เมื่อวันที่ 17 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดถ้ำโพธิสัตว์ บ้านจอมทอง ต.ปวนพุ อ.หนองหิน จ.เลย ซึ่งในทุกๆ ปี มักจะเกิดปรากฏการณ์ในช่วงหน้าฝน และจะเกิดภาพสุดอันซีน ในช่วงก่อนออกพรรษา หรือวันออกพรรษา โดยจะมีน้ำไหลออกมาจากถ้ำเป็นจำนวนมากราวกับเขื่อนแตก และในปีนี้น้ำก็ไหลทะลักออกจากถ้ำไหลลงมาผ่านลงบันไดพญานาค จนมีชาวบ้านที่ทราบข่าวพาลูกหลานมาเล่นน้ำตลอดทั้งวัน

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบว่า ถ้ำแห่งนี้มีความสูงประมาณ 400-500 เมตร จากระดับน้ำทะเล ภายในถ้ำจะมีห้องโถงขนาดใหญ่ มีพระพุทธชินราชจำลอง 2 องค์ตั้งตระหง่านอยู่ภายในถ้ำ มีถ้ำน้อยใหญ่มากมาย และยังมีหินย้อย หินงอกที่สวยงาม รอบถ้ำภายนอกมีป่าไม้เบญจพรรณ เช่น ป่าดิบ ป่าเบญจพรรณ และพรรณไม้ที่หายากกว่า 1,000 ชนิด ซึ่งบนยอดเขาจะมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่สะสมน้ำจนเอ่อล้นเล็ดลอดในซอกหินไหลสู่ภายในถ้ำ

ส่วนบริเวณหน้าวัดลานจอดรถ มีน้ำไหลออกมานองเต็มพื้น ทั้งรถยนต์ จักรยานยนต์ของชาวบ้าน จอดเต็ม โดยปากถ้ำอยู่ไม่สูงมาก และบันไดปูด้วยกระเบื้อง ประมาณ 30 ขั้น น้ำได้ไหลออกมาจากปากถ้ำ เป็นเหมือนสไลเดอร์ เด็กๆ ต่างพากันเล่นน้ำสไลด์ลงมา

พระครูปลัดสมวงค์ อายุโท เจ้าอาวาสวัดถ้ำโพธิสัตว์ เปิดเผยว่า หากมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน น้ำก็จะไหลออกมาจากถ้ำ เนื่องจากจุดนี้จะเป็นภูเขาหินปูน ที่สลับกันหลายลูก และจะมีทางน้ำบนภูเขา ที่มาทะลุออกตรงถ้ำนี้ ซึ่งเป็นด้านหลังของพระพุทธรูป น้ำจะใสมาก เพราะเป็นภูเขาหินปูน ลักษณะคล้ายๆ กันกับขุนน้ำนางนอน แต่ไม่ได้ใหญ่ ภูเขาแห่งนี้จะเป็นเทือกเขา แนวเดียวกันกับสวนหินผางาม หรือคุณหมิงเมืองไทย จุดตรงนี้จะอยู่ปลายๆ ของเทือกเขา

“เมื่อก่อนเห็นชาวบ้านบอกว่า 1 ปีจะมีครั้งเดียว และจะไหลออกมาช่วงก่อนออกพรรษา หรือบางปีจะตรงกับช่วงออกพรรษาพอดี ด้วยเมื่อก่อนฝนอาจจะไม่เยอะเหมือนช่วงนี้ หากฝนดีน้ำจะไหลออกมา 2-3 ครั้งต่อปีก็มี แล้วก็แห้งไปเลย ปีนี้เพิ่งไหลออกมาเยอะ ซึ่งหากวันนี้มีฝนตกลงมาอีก คาดว่าน่าจะไหลอยู่แบบนี้ไปตลอด แต่คงไม่เกิน 2-3 วันก็หายไป ช่วงนี้น้ำไหลออกจากถ้ำช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์พอดีเด็กก็มาเล่นน้ำ โดยมีผู้ปกครองมาเล่นน้ำด้วย เรื่องความปลอดภัยภายในถ้ำ ทางวัดได้ยกสายไฟเบรกเกอร์ขึ้นไว้ด้านบนเรียบร้อยแล้ว”