"อัครเดช" แนะ ธนาคารออมสินปรับหลักเกณฑ์ปล่อยกู้วงเงินก้อนใหม่อย่าซ้ำรอยเงินกู้ช่วยโควิด พร้อมขอให้ยึดพันธกิจช่วยผู้ประกอบการรายย่อยซึ่งเป็นฐานรากของระบบเศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ 14 ก.ค.63 นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.จังหวัดราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 (กมธ. งบปี 2564) สภาผู้แทนราษฎร ได้อภิปรายในวาระการพิจารณางบประมาณของธนาคารออมสินว่า จากการที่ธนาคารออมสิน มีพันธกิจที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจฐานรากเป็นหลัก แม้ในโลกปัจจุบันธนาคารจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาพัฒนาองค์กร ขณะเดียวกันก็เกิดความกังวลว่า ธนาคารออมสินจะปรับตัวไปตามกระแสธนาคารพาณิชย์ที่ปัจจุบันได้ลดจำนวนสาขาลง และหันไปรุกตลาดออนไลน์เป็นหลัก แต่ธนาคารออมสินนั้นเป็นธนาคารของรัฐ จำเป็นต้องคิดสวนทางกับธนาคารพาณิชย์ เพราะหากคิดถึงกำไรขาดทุนเป็นหลัก ในอนาคตธนาคารออมสินก็อาจต้องลดจำนวนสาขาลงเช่นกัน
“ในเมื่อธนาคารออมสินเป็นธนาคารของรัฐ ไม่อยากให้ยึดกำไรขาดทุน แต่ยึดการบริการพี่น้องประชาชนเป็นหลัก ด้วยการขยายสาขาไปยังอำเภอเล็กๆ ที่ธนาคารยังไม่มีสาขาอยู่ จึงเห็นว่าธนาคารออมสินมีบทบาทสำคัญกับพี่น้องประชาชนในระดับฐานรากจริงๆ ซึ่งหากธนาคารยึดประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก แต่วันหนึ่งธนาคารเกิดประสบปัญหา และรัฐจำเป็นต้องเข้าไปอุ้มกิจการ ก็คิดว่าพี่น้องประชาชน รวมถึง ส.ส. ก็พร้อมจะสนับสนุนธนาคาร”นายอัครเดชกล่าว
นายอัครเดช ยังกล่าวถึงหนี้นอกระบบว่า หลังจากที่ตนได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนเกี่ยวกับเรื่องนี้ แม้รัฐบาลจะได้พยายามแก้ปัญหาดังกล่าวก็ตาม จากการสังเกตการประชุมกับหัวหน้าส่วนราชการในระดับอำเภอ ก็จะพบว่ามีผู้บริหารธนาคารออมสินเข้าร่วมประชุมอยู่ด้วย ดังนั้นจึงอยากเห็นภาพการทำงานแบบบูรณาการด้วยการเสนอให้ผู้บริหารธนาคารออมสินเชื่อมโยงข้อมูลกับศูนย์ดำรงธรรมในแต่ละอำเภอ
ไผมอยากเห็นภาพการทำงานแบบบูรณาการด้วยการเสนอให้ผู้บริหารธนาคารออมสินเชื่อมโยงข้อมูลกับศูนย์ดำรงธรรมในแต่ละอำเภอ เช่นถ้าวันนึงมีคนไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมเรื่องหนี้นอกระบบ แล้วธนาคารออมสินสามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ ดีกว่าที่จะให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองรับเรื่องมา แล้วเรื่องก็เงียบหายไป แต่ถ้าธนาคารรับไว้เป็นลูกค้าของธนาคารก็จะเป็นเรื่องดี"
นายอัครเดช ยังได้แสดงความเป็นห่วงต่อกรณีการปล่อยเงินกู้ซอฟต์โลนของธนาคารออมสินว่า หากธนาคารใช้หลักเกณฑ์เดียวกับการปล่อยซอฟต์โลนที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่กำหนดว่า 1. ต้องเป็นลูกค้าเดิมของธนาคาร 2. ต้องเป็นลูกค้าที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน หรือมีวงเงินกับธนาคารเดิมอยู่ ก็จะทำให้ธนาคารออมสินไม่สามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่กำลังประสบความเดือดร้อนในขณะนี้ได้ ดังนั้นจึงขอให้ธนาคารทบทวนหลักเกณฑ์การปล่อยเงินกู้ซอฟต์โลนเพื่อให้ธนาคารสามารถปล่อยเงินกู้ซอฟต์โลนเพื่อดูแลทั้งผู้ประกอบการรายเล็ก และพี่น้องประชาชนได้ต่อไป.
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
- อัครเดช –ผช.รมว.เกษตรฯ ปล่อยพันธุ์ปลาฟื้นฟูบึงกระจับ รองรับแหล่งเที่ยว
- อัครเดช ชี้ หลังวิกฤติโควิด-19 กระตุ้น ศก.เห็นผล คะแนนรัฐแซงฝ่ายค้าน
- ขนลุก
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath