ราคาน้ำมันในตลาดโลกเดือดพุ่งขึ้น2% ทันทีหลังมีข่าวว่าสหรัฐเตรียมประกาศยกเลิกคำสั่งยกเว้นให้8 ประเทศนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านพร้อมกับเตือนว่าหากประเทศดังกล่าวยังนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านก็จะต้องเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรด้วย
ทั้งนี้ กลุ่ม 8 ประเทศที่ได้รับการยกเว้นจากสหรัฐนั้น ประกอบด้วยประเทศในเอเชีย 5 ประเทศได้แก่ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน ส่วนอีก 3 ประเทศในยุโรปคือ ตุรกี อิตาลี และกรีซ
ขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งขึ้นทันที โดยสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของตลาด NYMEX หรือ WTI พุ่งขึ้นมากกว่า 2% ในข่วงเช้าวันจันทร์ จากรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ที่ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐเตรียมประกาศยกเลิกคำสั่งยกเว้นให้ 8 ประเทศนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน ซึ่งหากประเทศเหล่านี้ยังคงมีการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน สหรัฐก็มีความจำเป็นต้องคว่ำบาตรประเทศในกลุ่มนี้ด้วย
ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่มีการส่งมอบเดือนพฤษภาคมพุ่งขึ้น 1.50 ดอลลาร์ หรือ 2.34% สู่ระดับ 65.50 ดอลลาร์/บาร์เรล เป็นการพุ่งขึ้นในรอบ 3 เดือน จากที่เคยลงไปแตะระดับต่ำสุดที่ 43 ดอลลาร์ในช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา
ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์นั้น ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.37 ดอลลาร์ หรือ 0.52% สู่ระดับ 72.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นในรอบ 3 เดือนเช่นเดียวกัน หลังจากที่เคยลงไปแตะระดับต่ำสุดที่ 53 ดอลลาร์เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคม
นอกจากนี้ รายงานข่าวยังระบุว่า ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ จะประกาศยกเลิกคำสั่งยกเว้นให้ 8 ประเทศนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านในวันนี้ โดยคาดว่าจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 2 พฤษภาคม
จากการที่สหรัฐได้มีการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรกับอิหร่านเมื่อปลายปีที่แล้วนั้น ซึ่งมีผลต่อภาคธุรกิจพลังงาน การธนาคาร อุตสาหกรรมการต่อเรือ และธุรกิจเดินเรือขนส่งสินค้า (ชิปปิ้ง) โดยมีเป้าหมายเพื่อบีบให้อิหร่านยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ รวมทั้งยุติให้การสนับสนุนกลุ่มกองกำลังในตะวันออกกลาง
ในช่วงเวลาที่สหรัฐมีการใช้มาตรการยกระดับการกดดันในขั้นสูงสุดต่อรัฐบาลอิหร่านนั้น ทางการสหรัฐได้ยกเว้นให้กับ 8 ประเทศยังสามารถนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านได้เป็นการชั่วคราวจนถึงวันที่ 1 พฤษภาคมนี้
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงจับตาที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ซึ่งกำหนดจะมีขึ้นช่วงวันที่ 30 เมษายน ถึงวันที่ 1 พฤษภาคม หลังจากที่มีกระแสข่าวว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กรรมการ FOMC เริ่มมีการรีวิวเกี่ยวกับทิศทางของดอกเบี้ยนโยบายในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ จะต้องมีการปรับลดดอกเบี้ยลงหรือไม่
เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีนี้ เฟดยังคงมีเป้าหมายนโยบายการเงินที่จะปรับขึ้นดอกเบี้นอย่างน้อย 1 ครั้งในปีนี้จากคำแถลงเมื่อเดือนมกราคม แต่ต่อมาการประชุมของเฟดที่มีขึ้นในเดือนมีนาคมมีมติคงดอกเบี้ย