สาวร้องซื้อที่ดินเพื่อนบ้าน ถูกศาลสั่งโมฆะ เหตุเป็นสินสมรส เผยคู่ผัวเมียหย่ากันไปแล้ว หลังขายที่สามีฟ้องศาล ทำให้เสียเงินฟรี 9 ล้าน
วันที่ 6 เม.ย. 67 น.ส.เกศรา (ขอสงวนนามสกุล) ชาวบ้าน ต.หนองเสม็ด อ.เมือง จ.ตราด เปิดเผยว่า ตนและมารดาได้ซื้อที่ดินจากเพื่อนบ้านเมื่อเดือน ก.ย. ปี 63
เดิมทีติดต่อขอซื้อที่จากคนรู้จักในซอยให้ซื้อที่แปลงใหญ่ไปด้วยเป็นชื่อของคุณก้อง ติดตามจนรู้ และขอซื้อเป็น 2 แปลง คือแปลงแรกของคุณก้อง พื้นที่ 5 ไร่ ราคา 9.5 ล้านบาท ส่วนอีกแปลงเป็นที่ของคู่กรณี คือ นางพิศ ที่มีข้อพิพาทกันอยู่ โดยตกลงทำสัญญาซื้อขายกันที่สำนักงานที่ดิน แต่นางพิศไปทำสัญญาพร้อมกับสามีคนใหม่ ซึ่งได้ทำการตรวจสอบเอกสารหลักฐานโฉนดที่ดินเรียบร้อยรอบคอบ พบว่าที่ดินดังกล่าวเป็นชื่อของนางพิศคนเดียว ไม่ติดจำนอง เนื้อที่ 3-1-25.6 ไร่ ราคา 9.5 ล้านบาท
หลังซื้อโอนที่ดินกันเรียบร้อยแล้วได้เพียง 2 เดือน ก็มีหมายศาลมาว่าตนเป็นจำเลยที่ 4 และศาลสั่งเพิกถอนการซื้อขาย เนื่องจากที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นสินสมรส ซึ่งเจ้าของที่ดินรับว่าเป็นสินสมรสกับสามีเก่าที่หย่ากันไปแล้ว จึงบอกว่าเป็นเรื่องของคู่กรณีที่ไม่ตกลงกันเอง ตนจึงขอให้ซื้อที่กลับคืนไปเอา เฉพาะแค่ค่าที่ดิน ส่วนค่าใช้จ่ายในการถมที่อีก 4-5 แสนบาท ตนไม่คิด แต่คู่กรณีบอกว่าใช้เงินไปหมดแล้ว ไม่สามารถซื้อคืนได้ สุดท้ายตนเองต้องไปสู้ในชั้นศาล และแพ้ไปแล้วสองศาล คือศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ เหลืออีกหนึ่งศาลคือศาลฎีกา ก็แล้วแต่ศาลจะตัดสินว่าอย่างไร ก็ยอมรับผลการตัดสินตอนนี้ต่อสู้ในชั้นศาลมาแล้ว 4 ปีด้วยกัน
น.ส.เกศรา กล่าวว่า ตนซื้อที่ดินเพื่อทำธุรกิจ มีการตรวจสอบรายละเอียดของที่ดินรอบคอบทุกครั้ง แต่ครั้งนี้โฉนดดังกล่าวระบุชื่อของคู่กรณีชัดเจนเพียงผู้เดียว และไม่ติดจำนอง เพียงแต่ไม่ได้ตรวจสอบสถานภาพสมรสของคู่กรณี เพราะเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ทำให้พลาดตรงที่เป็นสินสมรสต้องแบ่งครึ่งของคู่สมรส คือศาลชั้นต้นให้เพิกถอนการซื้อขาย ส่วนที่เป็นสินสมรสของฝ่ายโจทก์คือครึ่งหนึ่งของเนื้อที่ 3-1-25.6 ไร่ หรือมูลค่า 4,750,000 บาท ตนจึงต้องรอการตัดสินของศาลฎีกาอีกครั้งว่าจะต้องสูญเสียเงินจากการซื้อที่ดินแปลงนี้หรือไม่อย่างไร
ตนไม่รู้ว่าเรื่องดังกล่าว ทำไมมาฟ้องเอาสินสมรสในช่วงที่ตนซื้อที่ดินแปลงนี้ ทั้งๆหย่ากันมานานแล้ว ไม่รู้ว่าคู่กรณีรู้กันหรือเปล่าว่าจะขายที่แล้วฟ้องโมฆะ เพราะเป็นสินสมรสได้ ทำให้ตนผิดหวังที่จะต้องสูญเสียเงินจำนวนมากจากการซื้อที่ โดยไม่รู้ว่าที่ดินเป็นสินสมรส จึงอยากฝากบอกคนขายที่ดินว่า หากที่ดินเป็นสินสมรสก็อย่าไปหลอกขายให้คนอื่น ขณะเดียวกันผู้ซื้อก็จะต้องตรวจสอบรายละเอียดให้ดีว่าที่ดินจะซื้อเป็นสินสมรสหรือไม่ สำหรับการเรียกเงินคืนจากคู่กรณีนั้น คู่กรณีบอกว่าเงินที่ขายที่ได้ใช้หมดแล้ว ตนจึงจำใจต่อสู้ชั้นศาลฎีกาต่อไป
