"Trump Organization" เดินหน้าลงทุนในเวียดนามหลายพันล้านดอลลาร์ ลุยธุรกิจสนามกอล์ฟ-โรงแรม-อสังหาฯ ท่ามกลางความเสี่ยงเรื่องภาษีนำเข้า
วันที่ 28 มีนาคม 2568 เวลา 10.24 น. สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า Trump Organization ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเดินหน้าแผนลงทุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในเวียดนาม โดยร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่น พัฒนาโครงการสนามกอล์ฟ โรงแรม และอสังหาริมทรัพย์หลายแห่ง
แผนการลงทุนเกิดขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการภาษีนำเข้าจากสหรัฐที่อาจจะถูกใช้กับเวียดนาม ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีดุลการค้าเกินดุลกับสหรัฐมากที่สุด โดยปีที่ผ่านมาเวียดนามส่งออกสินค้าคิดเป็น 30% ของ GDP ไปยังสหรัฐ
เพื่อหลีกเลี่ยงแรงกดดันจากภาษี เวียดนามได้พยายามปรับสมดุลทางการค้า เช่น เพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ลดภาษีและอุปสรรคทางการค้า และเปิดทางให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมของบริษัท Starlink ในเครือของ Elon Musk เข้ามาดำเนินการภายใต้โครงการนำร่อง โดยยังคงอำนาจควบคุมกิจการในประเทศอย่างเต็มที่
โฆษกของกลุ่มทุนที่ร่วมมือกับTrump Organization เปิดเผยว่า โครงการแรกมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ ใกล้กรุงฮานอย จะเริ่มก่อสร้างในเดือนพฤษภาคม 2568 และมีแผนเปิดตัวโครงการที่ 2 ภายในปีนี้ โดยโครงการแรกประกอบด้วยสนามกอล์ฟ 18 หลุม 3 สนาม และโครงการที่อยู่อาศัย โดยคาดว่าสองสนามแรกจะเปิดให้บริการภายในกลางปี 2570
ทั้งนี้โครงการดังกล่าวนับเป็นการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกของTrump Organization และเกิดขึ้นไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่รัฐบาลทรัมป์จะตัดสินใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีแบบตอบโต้ กับประเทศที่มีดุลการค้าเกินดุลกับสหรัฐ ซึ่งมีกำหนดประกาศในวันที่ 2 เมษายน 2568
ก่อนหน้านี้โครงการได้รับการเปิดเผยโดยพันธมิตรเวียดนาม คือบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ Kinhbac City (KBC) เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีการเปิดเผยช่วงเวลาการดำเนินโครงการจนกระทั่งตอนนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วกลุ่มทุนได้เข้าพบนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ฝ่าม มิงห์ จิญ ตามรายงานจากเว็บไซต์ของรัฐบาลเวียดนาม
การวิเคราะห์ของ Reuters เมื่อปีที่แล้วระบุว่า ธุรกิจสนามกอล์ฟและรีสอร์ตเป็นแหล่งรายได้หลักของTrump Organization โดยเฉพาะโครงการในสหรัฐหลายแห่ง
สำหรับโครงการในอนาคต โฆษกระบุว่า ขณะนี้มีการคัดเลือกพื้นที่สำหรับสนามกอล์ฟหรือโรงแรมใกล้โฮจิมินห์ซิตี้ และอาจมีการประกาศข้อตกลงภายในสิ้นปีนี้ พร้อมทั้งเผยว่ากลุ่มทุนมีแผนลงทุนในเวียดนามรวมทั้งหมดราว 3-4 โครงการ
แม้จะไม่เปิดเผยสัดส่วนการถือหุ้นของTrump Organization ในโครงการร่วมทุนดังกล่าว แต่ระบุว่า องค์กรซึ่งปัจจุบันบริหารโดย Eric Trump ลูกชายของทรัมป์ จะเป็นผู้ดำเนินงานโครงการทั้งหมด
อ้างอิง : reuters.com