การเจรจาระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ, เจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ และโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2568 ที่ผ่านมาซึ่งในการเจรจาครั้งนั้น สหรัฐและยูเครนแสดงความขัดแย้งกันอย่างรุนแรงต่อหน้าสื่อ อีกทั้งยังไม่มีการเจรจาที่เกี่ยวข้องกับการแบ่งแร่ธาตุหายากของยูเครนให้สหรัฐ ซึ่งเป็นหัวข้อของการเจรจาในครั้งนี้ แต่กลายเป็นการถกเถียงกันในเรื่องที่เกี่ยวกับการเจรจากับรัสเซีย
รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงกล่าวเหตุการณ์ในลักษณะนี้นั้น ไม่ค่อยจะได้เห็นในระเบียบวิธีการทางการทูตแต่ก็เป็นวิธีการที่ชาติมหาอำนาจอาจจะทำกับประเทศเล็ก ๆ
ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เมืองยอลตา ของยูเครนเอง (การประชุมยอลต้า หรือการประชุมอาร์โกนอตระหว่างวันที่ 4 –11 ก.พ. 2488) โดยในการประชุมในครั้งนั้น อังกฤษ สหรัฐ และรัสเซีย (ในเวลานั้นคือ สหภาพโซเวียต) เพื่อแบ่งปันผลประโยชน์ระหว่างกัน แล้วก็ขีดเส้นแบ่งเยอรมันออกเป็นตะวันตกและตะวันออก
ซึ่งถึงแม้ว่าเรื่องนี้นั้น คนยุโรปจะรู้สึกไม่ต่างกับชาวยูเครนว่า สหรัฐเดินหน้าตามลำพัง แต่นี่ก็คือสัจธรรมของโลกการเมืองระหว่างประเทศ ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงตลอดระยะเวลาร้อยกว่าปีที่ผ่านมา โดยมหาอำนาจที่มีพละกำลังเหนือกว่ามากจะทำเช่นนี้ เพื่อความอยู่รอดของตัวเอง