“ก่อสร้าง” หรือ “ก่อซวย” เสี่ยงตายขนาดนี้! สวัสดิภาพ ปชช.อยู่ที่ไหน?
สืบเนื่องจากเหตุระทึกขวัญเมื่อวันที่8ส.ค. ที่ผ่านมานี้ในการก่อสร้างขยายผิวจราจรถนนสุทธาวาสเสาเข็มขุดเจาะหลุดลงมาทับรถเบนซ์รุ่น E350 สีขาวทะเบียน 2กพ5566 กรุงเทพมหานครจนกระโปรงหน้าพังยับเยินโชคยังดีที่ผู้เสียหายบาดเจ็บเล็กน้อยเพราะถูกกระแทกจากถุงลมนิรภัยและถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลทันเวลาแต่จากเหตุการณ์ดังกล่าวที่ขับรถไปเฉยๆแล้วถูกเสาเข็มหนักกว่า 4 ตัน หล่นลงมาทับนั้นก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์และสร้างความหวาดกลัวในวงกว้างว่ากรุงเทพมหานครเต็มไปด้วยพื้นที่ถนนที่กำลังก่อสร้าง! หากเกิดเหตุกับตนจะเป็นยังไงมาตรฐานความปลอดภัยของคนกรุงเทพอยู่ที่ไหนกันแน่!
เครดิตภาพ: เพจชมรมอาชีวอนามัยและความปลอดภัย มสธ
นาทีระทึกขวัญ "เห็นเสาเข็มจะทับแต่ขยับรถหนีไม่ได้"
เวลาประมาณ 17.30 วันที่ 8 สิงหาคม 2561 ได้เกิดเหตุเสาเข็มขุดเจาะถนนหนัก 4 ตัน กว้าง 80 เซนติเมตร ยาว 15 เมตร หลุดลงบนถนน ทับรถเบนซ์ รุ่น E 350 สีขาว ทะเบียน 2 กพ 5566 กรุงเทพมหานคร จนฝากระโปรงหน้าพัง และทำให้รถยนต์ MG สีดำทะเบียน งข 8405 ที่อยู่ใกล้กันได้รับความเสียหายเล็กน้อย ซึ่งที่เกิดเหตุคือบริเวณถนนเลียบทางรถไฟบางขุนนนท์ตัดจรัญสนิทวงศ์ พื้นที่ สน.บางขุนนนท์ ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างขยายผิวจราจรถนนสุทธาวาส และสะพานข้ามถนนจรัญสนิทวงศ์ ก่อนเกิดเหตุผู้รับเหมากำลังใช้เสาเข็มดังกล่าวขุดเจาะทลายดิน แต่ระบบเกิดผิดพลาดในระหว่างที่เสาเข็มยกขึ้นมาจากพื้นดิน ทำให้เสาเข็มหลุดออกมาจนเกิดเหตุดังกล่าว
ภายหลัง น.ส.ณัฏฐจิรา จันทนะคีรี อายุ 33 ปี ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว เจ้าของรถเบนซ์ที่ได้รับความเสียหายเล่าว่า เธอขับรถโดยมีเพื่อนนั่งคู่มาด้วย ขับมาทางถนนตัดใหม่เลียบทางรถไฟบางบางขุนนนท์ ก่อนจะเลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าจรัญสนิทวงศ์ จนถึงจุดเกิดเหตุที่เป็นไซต์งานก่อสร้างทางขวามือ รถชะลอตัวจนบีบกันเหลือเลนเดียวเนื่องจากต้องเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนสายหลัก ระหว่างนั้นเเธอเห็นเครนขนาดใหญ่กำลังยกแท่งเหล็กลอยอยู่เหนืออากาศ ทั้งยังส่ายไปสายมา จนเธอเกิดความกลัวแต่ไม่สามารถขยับรถหนีได้ด้วยสภาพการจราจร จนท่อนเหล็กซึ่งคือเสาเข็มดังกล่าวลงมาทับรถของตนอย่างจัง จนเพื่อนของเธอที่นั่งมาข้างคนขับคือ น.ส.ปนัดดา อัครดำรงเดช 35 ปี ได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทกของถุงลมนิรภัย แต่ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลทันเวลา
สถานการณ์ดังกล่าวเป็นอีกเหตุการณ์ระทึกขวัญที่ทำให้ประชาชนต้องมาตั้งคำถามว่า เราจะเป็นเหยื่อรายต่อไปหรือไม่ เพราะผู้เสียหายในกรณีนี้ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการสุ่มเสี่ยงเลย เธอแค่ขับรถผ่านไซต์งานก่อสร้างเท่านั้น!
เครดิตภาพ: เพจชมรมอาชีวอนามัยและความปลอดภัย มสธ
เป็นความขัดข้องทางเทคนิค?
นอกจากความระทึกขวัญที่เกิดขึ้น กรณีนี้ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในเชิงเทคนิค ในเพจชมรมอาชีวอนามัยและความปลอดภัย มสธ แอดมินเพจแสดงความเห็นว่าสิ่งที่หลุดออกมาอาจจะไม่ใช่เสาเข็ม แต่เป็นปลอกเหล็กพร้อมภาพประกอบ "แต่ถ้าดูจากรูป ไม่แน่ใจว่าที่ปลอก มีรอยแหว่งนั้น เป็นสาเหตุที่ทำให้ Casing หลุดจากปาก Vibro หรือเปล่า หรือเป็นรอยเดิมที่เป็นอยู่ก่อนแล้ว" ในขณะที่ลูกเพจบางท่าน ก็ร่วมแสดงความเห็นว่าอาจจะเป็นไปได้ที่เหตุจะเกิดขณะที่พนักงานกำลังใช้เครนยกเหล็กปลอกเพื่อใช้ในการเจาะเสาเข็ม สะเก็นที่ล็อคเหล็กปลอกเกิดการคลายตัว ทำให้เหล็กปลอกล้มฟาดไปฝั่งถนน ซึ่งเป็นความผิดพลาดที่เกิดจากอุปกรณ์อาจจะชำรุดอยู่แล้ว ทั้งนี้ประเด็นที่หลายๆ ท่านกล่าวถึงคือ อย่างน้อยที่สุดควรจะติดป้ายให้ระวังหรือกั้นทางไม่ให้ผ่านไปเลย เพราะเป็นพื้นที่เปิด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุอันตรายดังกล่าว
เครดิตภาพ: https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_1423253
หากเกิดเหตุสามารถเอาผิดฐานกระทำการโดยประมาทได้
เรียกได้ว่าในความมืดมนก็ยังถือว่ามีทางออกรำไรอยู่ เพราะจากกรณีดังกล่าวผู้เสียหายสามารถแจ้งความร้องเรียนและเอาผิดกับผู้รับเหมาก่อสร้างได้ เพราะจากความคืบหน้าเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 9 ส.ค.61 ที่ สน.บางขุนนนท์ พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง ผกก.สน.บางขุนนนท์ ซึ่งดูแลคดีดังกล่าวก็เรียกเจ้าของรถกับตัวแทน บจก. เอส อาร์ ที พลาย มาเจรจากันเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งทางบริษัทยินยอมชดใช้ความเสียหายให้ โดยให้ผู้เสียหายเลือกเองว่าจะให้ซื้อรุ่นเดิมหรือรุ่นใหม่แล้วบริษัทจะจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายเอง จากนั้นจะเรียก น.ส.ปนัดดา อัครดำรงเดช ซึ่งเป็นผู้บาดเจ็บและได้รับความหวาดกลัวมาเจรจาเรื่องค่าสินไหมอีกครั้ง นอกจากนี้ในด้านกฎหมาย พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง ผกก.สน.บางขุนนนท์ จะเรียกตัวแทน บจก. เอส อาร์ ที พลาย และผู้เกี่ยวข้องมารับทราบข้อกล่าวหา กระทำการโดยประมาท ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและมีทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหายในภายหลัง
แต่แม้จะสามารถดำเนินคดีเอาผิดกับผู้รับเหมาได้ และในกรณีนี้ผู้รับเหมาก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและดูแลเจ้าทุกข์ด้วยการชดเชยเป็นอย่างดี แต่หากในเหตุการณ์ดังกล่าวสิ่งที่เสียหายไม่ได้มีแค่รถ แต่เป็นอันตรายถึงชีวิต จะชดเชยเท่าไหร่ก็เรียกกลับมาไม่ได้ ดังนั้นในฟากประชาชนอย่างเราๆ เมื่อใช้รถใช้ถนนก็ควรมีสติ สังเกตสภาพโดยรอบและหากเป็นไปได้ก็ควรจะหลีกเลี่ยงบริเวณที่สุ่มเสี่ยง ฝั่งผู้ประกอบการเองก็ควรเพิ่มความระมัดระวังในการวางแผนงาน คำนึงถึงความปลอดภัยทั้งต่อผู้ทำงานและบุคคลภายนอกให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เหตุระทึกขวัญแบบนี้เกิดขึ้นอีก
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_1423253
https://www.springnews.co.th/view/323729
http://www.newtv.co.th/news/19704
https://www.springnews.co.th/view/323406
https://www.thairath.co.th/content/1351569
ความเห็น 37
Liverpool.fc
มันเกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ดีที่เดี๋ยวนี้โซเชี่ยวทำให้เห็นภาพทัน ถ้าเป็นแต่ก่อนไม่ต้องเห็นดีไม่ดีตายฟรีก็มี สงสารกูเถอะกูยังอยู่แถวนั้น
24 ส.ค. 2561 เวลา 09.55 น.
ดวงดีนะ ก็ดูเอาคนที่ยืนข้างๆเสาเหล็กนะมาตรฐานมั้ย
16 ส.ค. 2561 เวลา 16.40 น.
Bookaza
ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกบริษัทกระจอกๆ ทุนจดทะเบียน 5,000 บาท ใช้คนที่มีแต่แรง ไม่ต้องวางแผน ไม่ต้องมีความปลอดภัยอะไรทั้งนั้น แค่เพียงรู้จักแหล่งซื้อผลไม้และกระเช้า โนสนโนแคร์ ในเสียหายใครตาย ไม่ใช่ญาติเรา ก็แค่นั้นเอง ประเทศไทย
16 ส.ค. 2561 เวลา 10.45 น.
รอดหวุดหวิด โชคดีที่มันไม่ล้มลงมาตรงจุดที่เป็นห้องโดยสาร ไม่งั้นคงไม่รอด คนขับรถมันก็ต้องมองให้ทั่วๆ เขากำลังก่อสร้างยิ่งต้องระมัดระวัง ถ้ามีการยกของหนักแบบนี้ ยิ่งไม่ควรจะเข้าไปใกล้ ควรจอดรถให้อยู่ห่างๆ
16 ส.ค. 2561 เวลา 10.35 น.
ชัยณรงค์
ต้องยอมรับคำว่าดวงครับรถผ่านไปกี่คันไม่โดนและจะตามมากี่คันก็แค่รถติดนิดหน่อย นัดกันแล้วไม่แคล้วกันครับ
16 ส.ค. 2561 เวลา 09.39 น.
ดูทั้งหมด