โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

สิ่งล้ำค่า 5 ประการที่พ่อแม่ทุกคนควรมอบให้ลูก เพื่อให้เขาเติบโต เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ | พศิน อินทรวงค์

พศิน อินทรวงค์

เผยแพร่ 02 ก.ย 2562 เวลา 08.26 น.

1. ความรัก

จงให้ความรักแก่ลูกของท่าน ความรักหาใช่เพียงแค่พูดว่ารัก แต่คือการโอบกอด และไม่ตัดสินผิดถูก ไม่เปรียบเทียบ ไม่มีใครดีกว่าลูกของท่าน และลูกของท่านก็ไม่ได้ดีกว่าลูกของใคร ขอท่านจงทำลายความคิดเปรียบเทียบให้ราบคาบ ความรักไม่ใช่การลำเอียงเข้าข้าง แต่ความรักคือการอยู่เคียงข้างในทุกสถานการณ์ จงพูดคุยกับลูกของท่านด้วยถ้อยคำที่สุภาพ ด้วยน้ำเสียงแห่งความเมตตา ให้เขาเป็นศูนย์กลางแห่งชีวิตของท่าน 

อย่าได้ตั้งตนเป็นศูนย์กลางเพื่อให้เขาใช้ชีวิตหมุนวนรอบท่าน อย่าได้ให้ความรู้ก่อนให้ความรัก อย่าได้สั่งสอนมารยาทก่อนให้ความรัก อย่าได้เห็นสิ่งใดมีค่าไปกว่าความรัก 

จงให้ความรักแก่เขาก่อนเป็นสิ่งแรก แล้วจึงให้น้ำนม ให้ความรักก่อน จึงค่อยให้ข้าวปลาอาหาร ให้ความรักเป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง พ่อแม่ทั้งหลาย ท่านจงทำเช่นนี้กับลูกของท่านจนครบเจ็ดปีเต็ม แล้วลูกของท่านจะเติบโตมาเป็นผู้ที่มีจิตใจมั่นคงแข็งแรง 

2. คุณธรรม

เมื่อท่านให้ความรักแล้ว จงให้คุณธรรมกับเขาด้วย ท่านต้องเป็นผู้มีคุณธรรมก่อน อย่าได้เพียงพร่ำสอนในสิ่งที่ท่านไม่ได้เป็น ท่านผู้เป็นพ่อแม่ จงสำรอกกิเลสขั้นหยาบของท่านออก เพื่อท่านจะเป็นผู้บริสุทธิ์พอในการสั่งสอนเรื่องคุณงามความดี ขอท่านจงมีเมตตาต่อคนรอบข้างให้เขาเห็น จงส่งมอบดอกไม้ให้เพื่อนมนุษย์ เพราะเขาจะรับรู้ถึงความสุขของการมอบดอกไม้จากการกระทำของท่าน 

อย่าสอนให้เขาไหว้ใครเพียงเพราะมีอายุมากกว่า แต่จงสอนให้เขาไหว้ด้วยวุฒิภาวะ และด้วยคุณธรรมความดีของบุคคลนั้น ๆ ท่านต้องรู้จักสอนให้เขาเสียเปรียบผู้อื่นด้วยความเบิกบาน สอนให้เขารู้จักเงียบ แม้ยามที่เขาเป็นฝ่ายถูกกระทำ ท่านจงแบ่งขนมปังที่ดีที่สุดให้เพื่อนบ้าน แทนที่จะเก็บไว้กินเอง 

นั่นจะทำให้เขาตระหนักว่า การเสียสละคืออะไร และมีคุณค่าอย่างไร จงเป็นคนดีเพื่อลูกของท่าน ท่านไม่สามารถสอนเขาได้เลย หากท่านไม่สามารถทำได้อย่างที่ท่านพูดมา

3. อิสรภาพ

เมื่อท่านให้ความรักเขาอย่างสมบูรณ์แล้ว เมื่อท่านได้ปลูกฝังคุณธรรมความดีให้เขาแล้ว จงให้สิ่งล้ำค่าที่สามแก่เขา นั่นคืออิสรภาพ ท่านจงเคารพในความเป็นเขา เพราะท่านได้สร้างเขามาดีแล้ว จงตระหนักว่าเขาคือคนที่มีความรักเต็มเปี่ยม และเขาคือผู้มีคุณธรรมความดีที่น่ายกย่อง 

ยามใดที่เขาต้องเลือกสิ่งใดให้แก่ชีวิตของเขา ไม่ว่าท่านเห็นด้วยหรือไม่ ท่านจงยินดีในสิ่งที่เขาเลือก ยินดีในชีวิตที่เขาต้องการ แม้เขาต้องการเป็นคนยากจน ท่านจงยินดีในความยากจนของเขา แม้เขาต้องการเป็นคนเร่ร่อน ท่านจงยินดีในการไม่มีบ้านเรือนของเขา 

เพราะนั่นคืออิสรภาพที่เขาเลือก อิสรภาพมิใช่ความมั่นคงปลอดภัย แต่อิสรภาพหมายถึงจิตที่พร้อมเผชิญกับทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในชีวิต ท่านได้มอบความรักให้เขาแข็งแกร่ง และได้มอบจิตใจที่ดีงาม ซึ่งทำให้เขาเป็นผู้ไม่เบียดเบียนใคร เท่านั้นจึงเพียงพอแล้ว ถ้าลูกของท่านต้องการโผบินไปสู่ความอันตรายที่คาดไม่ถึงของชีวิต จงยิ้มให้เขา โอบกอดเขา และอวยชัยแก่เขา 

4. ปัญญา

เมื่อลูกของท่านได้ความรัก ความดี และอิสรภาพจากท่าน สามสิ่งนี้จะทำให้เขากระหายในการเผชิญโลกกว้าง ถึงเวลาแล้วที่ลูกของท่านจะกลายเป็นพญาอินทรีย์ ท่านจงเปิดโอกาสให้เขาได้มีสติปัญญาเป็นของตนเอง ท่านจำเป็นต้องพาเขาไปยังหน้าผาสูงชันเพื่อฝึกบิน จงพาเขาไปส่ง แต่อย่าได้ตามเขาไป ปัญญานี่มิใช่ความรู้ หากแต่เป็นความเท่าทันของชีวิตที่ต้องเข้าไปสัมผัสด้วยตนเอง 

จงจำไว้ว่า ปัญญาไม่อาจเกิดก่อนความรัก ไม่อาจเกิดก่อนความดี ที่สำคัญ ปัญญาไม่อาจเกิดก่อนอิสรภาพ เพราะปัญญาที่แท้จริงจะถูกค้นพบภายหลังลูกของท่านมีอิสรภาพแล้วเท่านั้น และปัญญาเป็นสิ่งที่ให้แก่กันไม่ได้ 

ท่านให้ความรักลูกของท่านได้ ให้คุณธรรมแก่เขาได้ ให้อิสรภาพแก่เขาได้ แต่ท่านจะให้ปัญญาแก่เขามิได้ ระบบการศึกษาไม่ใช่ปัญญา ความรู้ไม่ใช่ปัญญา หากแต่ประสบการณ์แห่งการตระหนักรู้ในความจริงของชีวิตนั่นแหละคือปัญญา

5. ทรัพย์สินและความนับถือ

เมื่อลูกของท่านมีความรัก ความดี อิสรภาพ และปัญญา แม้ท่านมีเงินทองพรั่งพร้อม จงมอบทรัพย์สินที่จำเป็นแก่เขา แม้ท่านเป็นยาจกผู้ข้นแค้น จงเรียกเขามา แล้วมอบดอกไม้สักดอกแก่เขา 

จงพูดกับเขาว่า ชีวิตของเขาเป็นของเขา มิใช่ของท่าน จงส่งมอบชีวิตให้เขาอย่างเป็นทางการ ท่านเป็นผู้ดูแล มิใช่ผู้ครอบครอง ถึงเวลาแล้วที่ท่านจะมีอิสระจากพันธนาการของความเป็นพ่อแม่ และถึงเวลาแล้วที่ลูกของท่าน จะเป็นผู้รับผิดชอบต่อทุกการกระทำในชีวิตของเขาเอง จงเปิดโอกาสให้เขาได้ตักเตือนชี้แนะท่านบ้าง 

หากท่านได้เลี้ยงดูเขามาเป็นอย่างดีแล้ว เขาย่อมมีปัญญาเหนือท่าน ขอท่านจงใช้โอกาสนี้ ต่อยอดสติปัญญาจากลูกของท่าน จงเรียนรู้จากเขาเกี่ยวกับโลกใบใหม่ที่ท่านไม่รู้จัก จงไถ่ถามเขาว่า เขาได้เรียนรู้สิ่งใดมาบ้าง แม้ทำได้อย่างนั้น ท่านจะเป็นผู้ผ่านกาลยาวนานที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตน 

เมื่อท่านละวางอัตตาของความเป็นพ่อแม่ได้ พร้อมยอมนับถือลูกของท่านในฐานะครูคนหนึ่ง จิตวิญญาณของท่านย่อมเติบโต ท่านได้ปอกลอกอัตตาตัวตนของความเป็นพ่อแม่ได้สำเร็จ คือผู้ที่ทำหน้าที่พ่อแม่ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะมีมนุษย์คนหนึ่งบรรลุได้ !

ทุกวันนี้สังคมของเราไม่ได้ขาดบุคลากรผู้มีความรู้และการศึกษา หากแต่สังคมของเราขาดบุคลากรผู้มีสติปัญญา ความเมตตา และจิตตื่นรู้ 

ความรักของพ่อแม่คือดาบสองคม จงรักลูก แต่อย่าได้ใส่ความหวาดกลัวให้ลูกของท่าน จงเลี้ยงลูกของท่านด้วยสติสัมปชัญญะเต็มกำลัง แล้วลูกของท่านจะเป็นบุคคลผู้มีจิตตื่นรู้ เป็นผู้ตระหนักถึงการมีชีวิตอยู่อย่างแท้จริง !

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 17

  • กรัสวัลย์
    ถ้าเราทำได้เช่นนี้แสดงว่สเราเลี้ยงลูกดีที่สุดแล้ว ต่อไปเป็นหน้าที่เขาที่เราเฝ้าดู
    26 ต.ค. 2562 เวลา 00.04 น.
  • กุเกลียดมึงคนไม่ดี
    ตอนเด็กไม่เคยได้แต่เราเรียนรู้พ่อแม่สั่งสอนเรานำมาใช้กับลูกๆก็เหมือนเราเก็บใช้ออมแบ่งปั่นพอแล้วให้เค้าเลือกชีวิตของเค้าเราไม่ได้อยู่กับเค้าทั้งชีวิต
    09 ก.ย 2562 เวลา 10.09 น.
  • น้ำมนต์🌎💗😊MON63
    ผู้เเต่งใช้ถ้อยคำสละสลวยมาก เขียนบทความได้ประทับใจ ชอบมากค่ะ
    02 ก.ย 2562 เวลา 16.06 น.
  • Life goes on
    เป็นคำสอนที่ดีมากค่ะ
    02 ก.ย 2562 เวลา 15.59 น.
  • ความรัก มาในรูปของปัจจัยที่จำเป็น คุณธรรม มาในแบบการกระทำ มิใช่คำพูด ได้อิสรภาพ เพราะท่านต้องทำงานหนัก เพื่อแสวงหาปัจจัยในการเลี้ยงดู เกิดปัญญา จากประสบการณ์และการเรียนรู้ด้วยตนเอง มีทรัพย์สิน จากการทำงานและอดออม
    02 ก.ย 2562 เวลา 15.37 น.
ดูทั้งหมด