เรียกได้ว่าเป็นอีกนักร้องลูกทุ่งสาวที่ได้ทำเพื่อครอบครัวเลยต้องสู้เต็มที่ สำหรับ แมงปอ ชลธิชา ศิลปินลูกทุ่งสาวเจ้าของเพลงฮิตระดับตำนาน หนูอยากโดนอุ้ม นางสาวแนนซี่ สาวนครชัยศรี หนูกลัวตุ๊กแก ฯลฯ ที่ล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาเปิดใจกับผู้สื่อข่าว ขณะร่วมออกบู๊ทขายสินค้าภายในงาน daradaily แบรนด์เนมมือสอง ช้อปของดารา ซีซั่น 3
หลังหันมาเอาจริงเอาจังด้านธุรกิจผักปลอดสาร ภายใต้ชื่อ ฟาร์มผัก งุ้งงิ้ง โดย แมงปอ ชลธิชา เล่าว่า สาเหตุที่เข้ามาลุยธุรกิจตรงนี้เป็นเพราะผลกระทบจากCV เนื่องจากงานแสดงคอนเสิร์ตลดน้อยลงจนส่งผลกระทบต่อการเลี้ยงดูครอบครัว ถึงขนาดต้องยอมตัดใจหอบทองคำที่สะสมไว้กว่า 30 บาท ไปขาย
กระทั่งภายหลังเริ่มศึกษาเรื่องการปลูกผักทำฟาร์มจากพี่ที่รู้จัก จึงทำให้สามารถกลับมาตั้งตัวและทำเป็นธุรกิจเลี้ยงดูครอบครัวในปัจจุบัน วันนี้นำเอาผักสดมาขายค่ะ เป็นผักสดที่ปลูกเอง ทำฟาร์มเอง ก็จะเป็นผักปลอดสารค่ะ จริงๆ แล้วธุรกิจตัวนี้เพิ่งจะเริ่มได้สักประมาณ 1 ปี เป็นผลมาจากCV คือต้องบอกตรงๆ
ว่าถ้าเป็นงานอื่นสำหรับเรามันก็คงเป็นอะไรที่เริ่มต้นยาก เพราะเราเป็นนักร้องมาตั้งแต่อายุ 16 ดังนั้นเราเลยมองหาจากสิ่งที่เราชอบก่อน ก็เลยมาเริ่มที่การปลูกผัก การเลี้ยงไก่ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายภายในบ้านค่ะ ศึกษาเรื่องนี้มานานไหนกว่าจะตัดสินใจลงมือทำจริงจัง ไม่นานนะคะ คือเรียนรู้มาจากยูทูบ บวกกับพอดีมีพี่ที่รู้จักเขาปลูกอยู่แล้ว
เราก็เลยได้มีโอกาสไปเรียนไปศึกษา ซึ่งผลตอบรับตั้งแต่เปิดมาก็ถือว่าดีเลยนะคะ เริ่มมีพ่อค้าแม่ค้ามารับผักจากฟาร์มไปขายบ้างแล้วขนาดของฟาร์มเรากว้างขวางแค่ไหนพอจะบอกได้ไหม ไม่ใหญ่ค่ะ ใช้ที่แค่ 1 ไร่ เพราะอย่างที่บอกเราเองก็เพิ่งนะเริ่มจากสถานการณ์CV ตัวเราเองได้รับผลกระทบยังไงบ้าง เอ่อ ก็แย่นิดหนึ่งค่ะ
คือปกติเราจะเป็นคนที่ชอบซื้อทองเก็บ แต่พอมาเจอกับCVปุ๊บก็คือขายหมดเลย กระทั่งนี่แหละค่ะพออะไรๆ มันเริ่มดีขึ้น เราก็เริ่มซื้อกลับมาเก็บ ถึงขนาดขนสมบัติไปขาย ใช่ค่ะ เรียกว่าขนสมบัติไปขาย คือมันก็หนักเหมือนกัน ด้วยความที่เราต้องดูแลคนในครอบครัว เราก็เลยจำเป็นต้องหาวิธี เพราะอย่างที่ทราบงานร้องเพลงช่วงนั้นเราไม่สามารถทำได้
แต่ตอนนี้ก็เริ่มๆ มีกลับมาบ้างแล้ว มีเจ้าภาพติดต่อมาบ้างแล้ว ช่วงชีวิตที่เราต้องขนสมบัติไปขายมันแย่ขนาดไหน เอ่อ จริงๆ เราค่อนข้างโชคดีที่เรามีพื้นที่อยู่ที่บ้านในต่างจังหวัด ดังนั้นเรื่องค่าใช้จ่ายมันเลยประหยัดลงไปเยอะ บวกกับพอเราได้เริ่มปลูกผักได้เลี้ยงพอจะระบุได้ไหมว่าทองที่ขายไป ขายไปประมาณกี่บาท ประมาณ 20-30 บาทได้ค่ะ ตอนนี้เริ่มซื้อทองกลับมาเก็บแล้ว
เริ่มซื้อทองกลับมาได้บ้างแล้ว ที่บ้านค่าใช้จ่ายเยอะ มันก็ไม่ใช่ว่าเรามีค่าใช้จ่ายเยอะขนาดนั้นนะคะ แต่มันเป็นอะไรที่ยิบย่อยมากกว่า บวกกับการที่เรามีครอบครัวมีลูก ถึงแม้ลูกจะเรียนออนไลน์ แต่เราก็ยังต้องจ่ายเทอมอยู่ เรียกได้ว่าช่วงCVที่ผ่านมาเรากลายเป็นคนปลอดหนี้ไปเลย เพราะอะไรที่เราผ่อนอะไรที่เป็นค่าใช้จ่ายรายเดือน เราตัดออกหมด
จนตอนนี้เราไม่มีหนี้เลยค่ะ เหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้เรามองไหมว่าต้องใช้ชีวิตให้ประหยัด เรียกว่าตอนนี้สบายๆ ขึ้นดีกว่าค่ะ เมื่อก่อนเราหาเงินง่าย เราก็ใช้ง่าย แต่ตอนนี้เราระวังมากขึ้น อันไหนไม่จำเป็นเราก็ไม่ซื้อ เราขอใช้ชีวิตแบบสบายๆ กินอิ่มนอนหลับดีกว่าไก่ มันก็เลยทำให้เรามีของกินใช้แบบที่ไม่ต้องควักเงินจ่ายไปซะหมด
เรียบเรียงโดย ทีมงาน siamnews
ความเห็น 6
ให้กำลังใจ1ดวง
27 ก.ค. 2565 เวลา 03.11 น.
Chollachai 245645
คิดถูกแล้ว
27 ก.ค. 2565 เวลา 03.36 น.
Chom
ผักปลูกนำ้ดูสวยงามอวบอิ่ม ปลอดสาร แต่จริงๆมีสารปุ๋ยเคมีใส่ปนในนำ้เยอะ สู้ผักกางมุ้งปลอดสารปลูกในดินไม่ได้
27 ก.ค. 2565 เวลา 03.33 น.
ชีวิตเรียบง่าย
29 ก.ค. 2565 เวลา 08.35 น.
T K 🫶
ว้าวว้าว ดูแล้วมีความสุข 1งานในฝันเหมือนกันค่ะ
27 ก.ค. 2565 เวลา 03.46 น.
ดูทั้งหมด