ยามเย็นวันนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ได้พาเดินทางมายังทุ่งโปรงทอง ที่อยู่ใกล้กับปากแม่น้ำประแส อ.แกลง จ.ระยอง ก่อนที่จะเดินทางเข้ามาที่ทุ่งทุกคนจะต้องนำรถไปจอดไว้ที่จุดจอดรถที่จะเสียค่าจอดคันละ 20 บาท แล้วนั่งรถสามล้อเครื่องของประชาชนในพื้นที่ต่อเข้ามาที่ทุ่งโปรงทอง โดยจะมีค่าบริการคนละ 10 บาท
ที่มาของ"ทุ่งโปรงทอง"ว่ากันว่า มีที่มาจากแสงแดดอ่อนๆของพระอาทิตย์ในยามเช้าและยามเย็นช่วงพระอาทิตย์จะลับฟ้าที่แสงมาตกกระทบกับใบไม้และต้นโปรงที่ยืนสง่าอยู่ในทุ่งแห่งนี้นับหมื่นต้นจนดูคล้ายว่าสีของใบไม้ทุกต้นได้กลายเป็นสีเหลืองทองจึงเรียกว่า "ทุ่งโปรงทอง" ทุ่งแห่งนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ต้นโปรงจำนวนมหาศาลที่แผ่ออกไปกว้างไกลสุดสายตาแต่กลับโอบล้อมเหมือนกำลังกอดเราไว้จากทั้งสี่ทิศทาง โดยเฉพาะเมื่อเดินเข้ามาถึงบริเวณจุดศูนย์กลางของทุ่งที่จะได้พบกับจุดให้ชมวิวและถ่ายรูปจากมุมสูงด้วย ซึ่งถือเป็นจุดที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ก่อนที่จะเดินเข้ามาถึงต้นโปรง นักท่องเที่ยวทุกคนจะได้พบกับป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์และต้นโกงกางที่รอต้อนรับอยู่ตั้งแต่ทางเดินเข้าทุ่งมาเป็นระยะก่อนจะมาเชื่อมกับต้นโปรงที่อยู่ด้านใน
โดยตลอดทางเดินของทุ่งจะเป็นสะพานไม้ทั้งหมดซึ่งมีความยาวร่วม 2 กิโลเมตร แต่ในวันนี้ที่ไปมีสะพานบางส่วนปิดซ่อมแซม เนื่องจากสะพานชำรุด ทำให้ทางเดินจากเดิมที่ต้องไปสิ้นสุดที่บริเวณอนุสรณ์เรือรบหลวงประแสต้องสิ้นสุดอยู่ที่บริเวณศาลเจ้าฯ ที่อยู่ติดกับท่าเทียบเรือ หรือที่เรียกกันว่า "บ้านแสมภู่" เท่านั้น
ไฮไลต์ของทุ่งโปรงทองไม่ได้มีแค่การชมทัศนียภาพเท่านั้น เพราะที่ทุ่งยังมีบริการล่องเรือพาชมฟาร์มหอยนางรม, ปูก้ามดาบ และแนวกันคลื่นไม้ไผ่ที่ถูกวางเรียงรายตลอดสองแนวฝั่งพร้อมไปกับการโอบล้อมของป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ที่ตั้งอยู่ตลอดริมสองข้างทาง และการบินอวดโฉมไปมาของบรรดานกที่คอยมาจ้องหาเหยื่อในแม่น้ำด้วย โดยเรือจะล่องไปหลายกิโลเมตรไปจนถึงปากแม่น้ำประแส และมีค่าบริการอยู่ที่คนละ 50 บาท สำหรับทุ่งโปรงทองนี้เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น #ททท #TAT1672 #JS100