เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม จากกรณีที่ครูอ้อม ครูประจำชั้นอนุบาลของโรงเรียนวัดวงเดือนในพื้นที่ ต.สามง่ามท่าโบสถ์ อ.หันคา จ.ชัยนาท ร้องทุกข์ว่า ห้องเรียนที่คุณครูท่านนี้เป็นครูประจำชั้นอยู่ ถูกมือดีปาด้วยก้อนเลือดสดๆใส่ จนเลือดไหลนองพื้นเป็นที่น่าสยดสยอง เมื่อช่วงเช้าวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งยืนยันว่าตนไม่เคยมีศัตรูที่ไหน แต่สาเหตุน่าจะมาจากที่ตนเองท้วงติงและตรวจสอบเรื่องอาหารกลางวันของนักเรียนที่พบว่าไม่มีคุณภาพ และไม่คุ้มค่ากับงบประมาณที่ใช้ไป ซึ่งอาจจะสร้างความไม่พอใจให้กับคนที่เสียประโยชน์จากเรื่องนี้ โดยครูบอกว่าอยากให้หน่วยเหนือเข้ามาตรวจสอบ พร้อมให้ความปลอดภัยกับตนด้วยนั้น
ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยงู อ.หันคา จ.ชัยนาท ได้เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุซึ่งพบถุงเลือดซึ่งพบอยู่ก้นถังขยะใกล้อาคารเรียนที่เกิดเหตุ และได้ส่งให้แลบพิสูจน์หลักฐานตำรวจตรวจพิสูจน์หาความเชื่อมโยงกับเลือดที่ปาห้องเรียน และหาดีเอ็นเอของผู้ก่อเหตุที่ตกค้างอยู่ที่ถุงเลือด เพื่อระบุตัวและติดตามนำตัวมาทำการสอบสวนต่อไป ซึ่งพบว่าแม่ครัวของโรงเรียนได้โพสต์ภาพขายถุงเลือด ซึ่งลักษณะคล้ายกับถุงที่พบในถังขยะ ก่อนที่จะลบภาพนั้นออกนั้น
ล่าสุดครูอ้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า นายสุเทพ สิงห์สม ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดวงเดือน ได้เรียกประชุมด่วนเมื่อวาน(อาทิตย์ที่25สิงหาคม)ที่ผ่านมา ทั้งที่เป็นวันหยุดโดยต้องการให้ตนเซ็นเอกสารตรวจรับอาหารกลางวันของเดือนกรกฎาคม และเดือนสิงหาคม โดยพยายามพูดกดดันเชิงบังคับว่า ขอให้ตนเห็นแก่องค์กร และเพื่อร่วมงาน ขอให้เซ็นเอกสารเพื่อที่ทุกคนจะได้ไม่เดือดร้อน ซึ่งตนเองยังคงยันยันกับ ผอ.และครูคนอื่นๆว่า ในเมื่ออาหารกลางวันที่ผ่านมาทั้ง2เดือนมีความไม่ถูกต้องอยู่ ตนจะเซ็นตรวจรับเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้อย่างไร ทำให้ ผอ.และเพื่อนๆครูไม่พอใจครูอ้อมอย่างมาก เพราะทำอย่างไรครูอ้อมก็ไม่ยอมเซ็นให้
ทั้งนี้ครูอ้อมยังเปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า ตั้งแต่ตนเองเริ่มท้วงติงเรื่องคุณภาพของอาหารกลางวัน ก็ถูกกลั่นแกล้งสารพัด ทั้งถูกขโมยชุดชั้นใน ทั้งถูกใส่ร้ายว่าขโมยสายยางของโรงเรียนไปใช้ส่วนตัว ทั้งพยายามปล่อยข่าวว่าครูอ้อมมีปัญหาเรื่องชู้สาว จึงทำให้ถูกปาเลือดข่มขู่ ซึ่งครูอ้อมบอกว่าเป็นวิธีสกปรกที่ถูกคนเสียประโยชน์กุขึ้นเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของครูอ้อมที่กล้าออกมาแฉความไม่ถูกต้องของอาหารกลางวันของโรงเรียน
ขณะที่ทางด้านผู้ปกครองนักเรียนรายหนึ่งให้ข้อมูลกับทีมข่าวของเราว่า เรื่องอาหารกลางวันของโรงเรียนแห่งนี้ หน่วยเหนือควรจะลงมาตรวจสอบอย่างจริงจัง โดยเฉพาะตัวนายสุเทพ ผู้เป็น ผอ.ที่จะต้องรับผิดชอบกับเรื่องนี้โดยตรง เพราะรับสมอ้างมาตลอดว่าลงไปตรวจสอบอาหารกลางวันอยู่ตลอด ซึ่งถ้ามีการตรวจสอบจริงก็ต้องรู้ว่ามีความไม่ถูกต้องเกิดขึ้น แต่นายสุเทพกับไม่ดำเนินการแก้ไข จึงเกิดคำถามว่าเพราะเหตุใด งานนี้มีเงินงบประมาณรั่วไหลไปเข้ากระเป๋าใครบ้าง ควรทำให้กระจ่างเป็นคำตอบให้กับสังคม
