ไชยา เม้งแตกอีกรอบ หลังไม่มีอำนาจแต่งตั้งโยกย้ายบุคคลกรมปศุสัตว์ เล็งหารือผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยวันนี้ ย้ำไม่คิดขอย้ายกระทรวง
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 31 ต.ค.2566 ที่ทำเนียบรัฐบาลนายไชยา พรหมมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมครม. ถึงการทำงานในกระทรวงเกษตรฯว่า ถ้าจะถามว่าเรียบร้อยหรือไม่ ก็เหมือนจะเรียบร้อย แต่ยังทำใจไม่ได้ เพราะยังมีปัญหาเรื่องการบริหารงานบุคคล ซึ่งหลังจากปราบปรามเรื่องหมูเถื่อน ก็ต้องติดตามเรื่องคดีความ และยังคงมีกระบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนอยู่ตามแนวชายแดนต่างๆ
ฉะนั้น ตอนนี้จะต้องปรับเปลี่ยนโยกย้าย เนื่องจากกระบวนการลักลอบ สินค้านำเข้า ไม่ว่าจะเป็นโคมีชีวิต รวมทั้งสินค้าเถื่อนต่างๆ ตามด่านกักกัน ซึ่งในฐานะที่ตนกำกับดูแล กรมปศุสัตว์ ยังมีปัญหาในเรื่องตัวบุคคล ซึ่งตนไม่ได้ดูในเรื่องนี้แต่ได้รับมอบหมายกำกับดูแล จึงมีปัญหาเรื่องการสั่งการ
"วันนี้ข้าราชการก็สับสนว่าตกลงจะฟังใคร จึงมีปัญหาเรื่องการบริหารงานบุคคล บางเรื่องผมรู้ช้ากว่าอีก อธิบดีควรมารายงานผม เพราะผมกำกับดูแล โดยเฉพาะเรื่องด่านชายแดน วันนี้ยังมีขบวนการลักลอบนำเข้า แต่เจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องเหล่านี้ ถูกแต่งตั้งมาด้วยอำนาจเก่า ถึงเวลาจะต้องปรับเปลี่ยน เพราะนายกฯ ได้มอบหมายและสั่งการ ให้ผมกำกับดูแล เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อมีปัญหาที่ตัวบุคคล ก็ต้องแก้ที่ตัวบุคคล แต่อำนาจหน้าที่ ของผมไม่สามารถดำเนินการได้” นายไชยา กล่าว
เมื่อถามว่าจำเป็นต้องคุยกับร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ หรือไม่ นายไชยากล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของพรรค ซึ่งพรรคต้องกำกับดูแล และตนได้นำไปปรึกษากับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ ที่กำกับดูแลกระทรวงเกษตรฯ ถือเป็นผู้ใหญ่ในพรรคแล้ว ว่าการทำงาน ถ้าไม่สามารถ แก้ไขปัญหาบุคคลได้ เพราะวันนี้ยังมีการแอบสั่งการ ในเรื่องต่างๆอยู่ ทำให้ข้าราชการสับสน ว่จะฟังใครกันแน่ ผู้ใหญ่ในพรรคก็รับทราบเรื่องนี้ และวันนี้คงได้พูดคุยกับนายภูมิธรรมอีกครั้งว่า ตกลงจะเอาอย่างไร ไม่เช่นนั้นก็จัดการกันไม่ได้ และตนมีข้อมูลเชิงลึกว่ามีการรู้เห็นเป็นใจกันอยู่
“ผมก็เคยคุยกับรมว.เกษตรฯ ซึ่งท่านก็บอกว่าจะแก้ไขปัญหา แต่ตนก็รอมา 2 เดือนแล้ว สื่อมวลชนก็ช่วยหน่อยก็แล้วกัน”
เมื่อถามว่า ดูเหมือนมีการล้วงลูกการทำงานของ รมว.เกษตรฯใช่หรือไม่นายไชยา กล่าวว่า ตนไม่ได้พูดอย่างนั้น เพียงแต่วันนี้ข้าราชการสับสนว่าจะฟังใคร อย่าว่าแต่ข้าราชการเลย แม้แต่ตนก็ยังสับสน ยืนยันว่าตนกำกับดูแล และได้รับมอบหมายตามนโยบาย ฉะนั้นจำเป็นจะต้องรายงานตรงมาที่ผม เพราะนายกติดตามเรื่องนี้อยู่
เมื่อถามว่าถ้าไม่ได้ทำงานตามที่ได้รับมอบหมายมา งานจะเดินหน้าได้หรือไม่ นายไชยา กล่าวว่า เมื่อเป็นเรื่องของนโยบายและเป็นบัญชาของนายกฯ ที่สั่งการมา จะยากลำบากแค่ไหนก็ต้องทำให้สำเร็จ
เมื่อถามย้ำว่าไม่คิดจะถอยใช่หรือไม่ นายไชยา กล่าวว่า“โอ๊ย ถอยไม่ได้หรอก เดินหน้าต่อไป” เมื่อถามว่ามีโอกาสที่นายกฯ จะเคลียร์ด้วยตัวเองหรือไม่ นายไชยากล่าวว่า ในฐานะที่เราเป็นพรรคแกนนำ นโยบายหลายเรื่องเราต้องรับผิดชอบกับประชาชน ฉะนั้นตนในฐานะตัวแทนพรรค ที่เป็นพรรคใหญ่ ประชาชนเฝ้ามองอยู่ ถ้างานไม่สัมฤทธิ์มันก็ไม่เป็นไปตามนโยบายของพรรคเรา และตนไม่คิดที่จะขอย้ายกระทรวง”