Nvidia แซงหน้า Apple ขึ้นเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดอันดับสองของโลก ส่วน ASML แซงหน้า LVMH ในยุโรป
นักออกแบบชิป Nvidia มีมูลค่าตลาดถึง 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ผู้ผลิตอุปกรณ์การผลิตชิป ASML มีมูลค่าประมาณ 410 พันล้านเหรียญสหรัฐ
Nvidia เคยเป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกอยู่แล้ว ตอนนี้ได้กลายเป็นบริษัทชิปคอมพิวเตอร์แห่งแรกที่มีมูลค่าตลาดถึง 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
หุ้นของบริษัทที่ตั้งอยู่ในซานตา คลารา รัฐแคลิฟอร์เนีย เพิ่มขึ้นประมาณ 147% ในปีนี้ เพิ่มมูลค่าประมาณ 1.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากความต้องการชิปของบริษัทที่ใช้ในการขับเคลื่อนงานด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) พุ่งสูงขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา หุ้นของ Nvidia เพิ่มขึ้น 5.2% ปิดที่ราคา 1,224.40 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น ซึ่งเป็นสถิติใหม่ ผลักดันมูลค่าตลาดให้เกิน 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และแซงหน้า Apple ไปได้
ครั้งสุดท้ายที่ Nvidia มีมูลค่ามากกว่า Apple คือในปี 2002 ห้าปีก่อนที่ iPhone เครื่องแรกจะถูกเปิดตัว ในขณะนั้นทั้งสองบริษัทมีมูลค่าไม่ถึง 10 พันล้านเหรียญสหรัฐ
Nvidia ยังไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัวหรือลดโอกาสให้คู่แข่งตามทัน Jensen Huang ซีอีโอของบริษัทกล่าวว่าบริษัทมีแผนจะอัปเกรดตัวเร่ง AI ทุกปี การเพิ่มขึ้นของหุ้นเมื่อวันพุธได้เพิ่มความมั่งคั่งของเขาไปมากกว่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 107.4 พันล้านเหรียญสหรัฐตามดัชนี Bloomberg Billionaires
การเติบโตของ AI เชิงสร้างสรรค์เป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งใหม่ และ Nvidia คาดหวังว่าจะมีบทบาทสำคัญเมื่อเทคโนโลยีนี้เคลื่อนย้ายไปสู่คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล Huang กล่าวต่อผู้เข้าร่วมงานในการกล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน
"เรามองเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นเพียงการเริ่มต้น" Angelo Zino นักวิเคราะห์หุ้นอาวุโสจาก CFRA Research กล่าว
หลังจากการกล่าวสุนทรพจน์ของซีอีโอ, Zino กล่าวว่าเขาชอบ “การมองเห็นที่ดีขึ้น” และเห็น “แรงขับเคลื่อนที่เพิ่มขึ้นด้าน GPU/CPU/เครือข่ายซึ่งส่งผลบวกต่อประมาณการที่เป็นเอกฉันท์”
บริษัทได้ประโยชน์อย่างมากจากการใช้จ่ายด้าน AI ที่มหาศาล ทำให้บริษัทก้าวเข้าสู่การแข่งเพื่อชิงตำแหน่งบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก แม้ว่านักออกแบบชิปยังคงตามหลัง Microsoft ในแง่ของมูลค่าตลาด แต่ด้วยหุ้นที่พุ่งขึ้นอย่างมาก วอลล์สตรีทเห็นว่าเป็นเพียงเรื่องของเวลาก่อนที่ Nvidia จะแซงหน้าได้
Apple ประสบปัญหาในปีนี้ เนื่องจากหุ้นของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับความต้องการ iPhone ที่ลดลงในจีนและการปรับโทษจากสหภาพยุโรป หุ้นของบริษัทเพิ่งกลับมาบวกในปี 2024 เนื่องจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อผู้ผลิต iPhone ค่อยๆ ดีขึ้น
ในยุโรป, ASML Holding กลายเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าสูงสุดอันดับสองในทวีป แซงหน้า LVMH เป็นครั้งแรกในแง่มูลค่าตลาด
หุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้น 8.1% เมื่อวันพุธ ทำให้บริษัทที่ผลิตอุปกรณ์ที่จำเป็นในการสร้างเซมิคอนดักเตอร์ที่ซับซ้อนที่สุดมีมูลค่าประมาณ 377 พันล้านยูโร (410 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ซึ่งมากกว่าเครือข่ายสินค้าหรูหรา LVMH ประมาณ 641 ล้านยูโร ในตลาดยุโรปมีเพียงยักษ์ใหญ่ด้านสุขภาพ Novo Nordisk ที่มีมูลค่าสูงกว่า
การพุ่งขึ้นของ ASML ได้รับการสนับสนุนจากข่าวว่าลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของบริษัท คือ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) จะได้รับเครื่องทำชิปความแม่นยำสูงแบบ extreme ultraviolet (EUV) รุ่นใหม่ภายในสิ้นปีนี้ เครื่องมือผลิตชิปรุ่นนี้เป็นเครื่องที่ทรงพลังที่สุดของ ASML และมีราคาสูงถึง 350 ล้านยูโรต่อเครื่อง
สำหรับนักลงทุนของ ASML นี่เป็นการสร้างความมั่นใจเกี่ยวกับยอดขายในอนาคต เนื่องจาก TSMC เคยแสดงความกังวลเกี่ยวกับราคาของเครื่องนี้ หุ้นของบริษัทได้ลดลงตั้งแต่เดือนเมษายนหลังจากผลประกอบการไตรมาสแรกแสดงให้เห็นว่าผู้ผลิตชิปรายใหญ่ยังไม่ตัดสินใจซื้ออุปกรณ์ระดับไฮเอนด์
“คาดว่าจะมีการสั่งซื้อที่สำคัญในไตรมาสถัดไป” Jefferies นักวิเคราะห์ Janardan Menon กล่าว ซึ่งให้คะแนนหุ้น ASML ว่าน่าซื้อ TSMC เตรียมเพิ่มการผลิตชิปขนาด 2 นาโนเมตรรุ่นถัดไปในครึ่งหลังของปี 2025 แต่ ASML ยังไม่ได้รับการสั่งซื้อครั้งใหญ่จนถึงขณะนี้ เขาเสริม
ในขณะเดียวกัน หุ้นของ LVMH ได้ลดลงในเดือนที่ผ่านมาเนื่องจากความกังวลว่ายอดขายสินค้าหรูหรากำลังชะลอตัว Chanel เพิ่งเตือนว่าภาคอุตสาหกรรมนี้กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก และ Kering กำลังพยายามฟื้นฟูโชคชะตาของ Gucci