เจ้าของฟาร์มหอยนางรม หวั่นได้รับผลกระทบจากน้ำมันดิบรั่วลงทะเล ระยะทางกว่า 5 กม. ห่วงตายยกฟาร์ม ให้เร่งแก้ไข ห่วงกระทบท่องเที่ยว ทรัพยากรทางทะเล
กรณีท่อรับส่งน้ำมันดิบของบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) รั่วไหลลงทะเล บริเวณทุ่นรับน้ำมันซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะสีชัง จ.ชลบุรี คาดว่ามีปริมาณน้ำมันรั่วไหลประมาณ 50-70 ลูกบาศก์เมตร และบริษัทฯ ขออนุญาตใช้สารเคมีขจัดคราบน้ำมัน (Dispersant) ชนิด Super Dispersant 25 จำนวน 6,000 ลิตร เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา
โดย บมจ.ไทยออยล์ ร่วมกับ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาชลบุรี ปิดล้อมและฉีดพ่นสารเคมีจุดเกิดเหตุ และในช่วงเช้านำโดรนขึ้นบินสำรวจ พบว่าขนาดความกว้างของน้ำมันดิบที่รั่วไหลลงทะเล มีระยะทางประมาณ 5 กม. และทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรี ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำจัดคราบ
ล่าสุด บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ออกหนังสือชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2566 เวลาประมาณ 21.00 น. เกิดเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือบรรทุกน้ำมัน ขณะขนถ่ายน้ำมันดิบบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเล หมายเลข 2 (SBM-2) ของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งบริษัทฯ เข้าควบคุมสถานการณ์บริเวณที่เกิดเหตุทันที
โดยปิดวาล์วท่อน้ำมันที่เกิดปัญหาและวางทุ่นล้อมคราบน้ำมันเพิ่มเติมเพื่อป้องกันและจำกัดการแพร่กระจายตามขั้นตอนที่เป็นมาตรฐานสากล ทำให้ขณะนี้ไม่มีน้ำมันรั่วไหลเพิ่มเติมแล้วและไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบพื้นที่เพื่อประเมินสถานการณ์โดยรอบจุดเกิดเหตุ รวมทั้งเตรียมสารเคมีและอุปกรณ์ต่างๆ
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 5 ก.ย.66 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบริเวณชายหาดบางแสนและบริเวณเลี้ยงหอยนางรม หมู่ 1 ต.อ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี พบว่าเหตุการณ์ยังปกติไม่มีคราบน้ำมันเจือปนแต่อย่างใด
จากการสอบถาม นายนพพร โคติโชติ อายุ 72 ปี เจ้าของฟาร์มหอยนางรมในพื้นที่ เปิดเผยว่า โดยปกติถ้ามีน้ำมันรั่วไหลหรือเป็นคราบน้ำมันลอยมา ก็จะได้รับผลกระทบเต็มๆ ถ้าลอยมาแค่บนผิวน้ำก็ไม่เท่าไร แต่ถ้ามาเต็มทั้งบนน้ำและในน้ำ ได้รับผลกระทบรุนแรงแน่นอน
แต่คราบน้ำมันที่เคยลอยมายังไม่เคยได้รับผลกระทบเยอะเท่ากับการปล่อยน้ำเสียลงทะเล หรือมีการขุดลอกคลองน้ำขี้เลน หอยจะตายหมดฟาร์ม เพราะเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ก็เคยมีการขุดลอกคลองแล้วน้ำไหลลงทะเลทำให้หอยตายทั้งฟาร์มมาแล้ว แต่เมื่อมีเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหล ก็อยากให้หน่วยงานเร่งแก้ไข เพราะถ้าน้ำมันไม่ไหลไปทั่ว ก็จะไม่ได้รับผลกระทบต่อการท่องเที่ยว และเสียดุลทางทรัพยากรทางทะเล การเพาะเลี้ยงสัตว์ในทะเลของชาวประมงชายฝั่งทะเลอีกด้วย
