ภาคกลาง - สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์ฯแจง หนุ่มโชว์คลิป สุนัขที่เลี้ยงไว้ฆ่าลูกแมว เข้าข่ายการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร ตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมฯ พ.ศ.2557 ควรมีการดำเนินการพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามกระบวนการยุติธรรม
ดร. สาธิต ปรัชญาอริยะกุล เลขาธิการและผู้อำนวยการ สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย เผยว่า ตามที่มีข่าวเกี่ยวกับการนำคลิป สุนัขที่เลี้ยงไว้ขย้ำลูกแมวจนตาย ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีข้อความระบุว่า “บอกแล้วอย่าให้จับได้ ชอบแอบขโมยข้าวกิน ผิดกฎลบได้ครับ จะโหดไปหน่อย มันบ่อยมาก จนเจ้าตัวจับได้ ” คลิปดังกล่าวอันเป็นที่น่าสะเทือนใจแก่ผู้รักสัตว์เป็นอย่างยิ่ง
ดร. สาธิต กล่าวว่า เจ้าของสุนัข มีหน้าที่ที่จะเลี้ยงดู และจัดสวัสดิภาพสุนัขของตนให้เหมาะสม อีกทั้งต้องมีความรับผิดชอบในการดูแลไม่ให้สุนัขของตนไปสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่นด้วย จากเหตุการณ์ดังกล่าว ตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 มาตรา 3 ที่กำหนดหลักการของลักษณะของการทารุณกรรมสัตว์ ที่ว่า
“การกระทำหรืองดเว้นการกระทำใดๆ ที่ทำให้สัตว์ได้รับความทุกข์ทรมานไม่ว่าทางด้านร่างกายหรือจิตใจ ได้รับความเจ็บปวด ความเจ็บป่วย ทุพพลภาพ หรืออาจมีผลทำให้สัตว์นั้นตาย และให้หมายรวมถึงการใช้สัตว์พิการ สัตว์เจ็บป่วย สัตว์ชราหรือสัตว์ที่กำลังตั้งท้องเพื่อแสวงหาประโยชน์ ใช้สัตว์ทำงานจนเกินสมควรหรือใช้ให้ทำงานอันไม่สมควรเพราะเหตุที่สัตว์นั้นเจ็บป่วย ชราหรืออ่อนอายุ”
จากกรณีดังกล่าว เจ้าของสุนัขแม้จะไม่ได้กระทำทารุณกรรมสัตว์ โดยการเคลื่อนไหวส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายของตนแต่รู้สำนึกและรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับแมวจรจัดนั้นตลอด ซึ่งเจ้าของสุนัขสามารถช่วยให้แมวจรจัดนั้นพ้นจากภยันตรายจากการกระทำของสุนัขของตนได้ หรือป้องกันผลจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้เช่นกัน แต่ไม่ดำเนินการ แต่ยังถ่ายคลิปในเหตุการณ์แห่งการทารุณกรรมอันไม่สมควร จนเป็นที่มาแห่งความตายของแมวอีก
ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าสุนัขของตนนั้นดุร้าย และมีพฤติการณ์ตามธรรมชาติ ที่เป็นอริกันกับแมว การงดเว้นการกระทำที่มีหน้าที่ป้องกันผลจากสุนัขของตนการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร จึงส่อเจตนาแห่งการประสงค์ต่อผลและเล็งเห็นผลที่จะเกิดกับแมวนั้นได้ แถมหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ยังเขียนข้อความประกาศให้สาธารณชนรับทราบโดยทั่วไปอีกว่า “บอกแล้วอย่าให้จับได้ ชอบแอบขโมยข้าวกิน” ดังนั้นจากพฤติกรรมของเจ้าของสุนัขจึงเข้าข่ายการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร ตามพ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 ซึ่งควรต้องมีการดำเนินการพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
สัตว์ทุกตัวแม้จะมีเจ้าของหรือไม่มีเจ้าของก็ตาม มนุษย์ก็ควรมีความเมตตาต่อสัตว์ เพราะ “สัตว์” แม้จะพูดเองไม่ได้ เรียกร้องสิทธิให้ตัวเองไม่ได้เฉกเช่นเดียวกับมนุษย์ แต่ก็มีชีวิต จิตใจ มีความรู้สึก รับรู้ได้ถึงความทุกข์ทรมานเจ็บปวด จากการกระทำของมนุษย์ มนุษย์จึงควรปฏิบัติต่อสัตว์ อย่างมีมนุษยธรรมมากขึ้น