จากการสืบทราบพบว่าพฤติการณ์ของ นายสตีเฟน แพดด็อก วัย 64 ปี ในวันก่อเหตุได้นำปืนเข้าไปในโรงแรมถึง 23 กระบอก และทำการกราดยิงจากห้องพักชั้น 32 ของโรงแรมมัณฑะเลย์ เบย์ จนมีผู้เสียชีวิต 59 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 500 คน โดยสถิติบ่งชี้ว่าสหรัฐเป็นประเทศที่มีเหตุรุนแรงจากอาวุธปืนเป็นอันดับต้นๆของโลก ในแต่ละปีมีผู้ถูกยิงและสังหารหมู่ด้วยอาวุธปืนประมาณ 3 หมื่นคน มากกว่าการเสียชีวิตจากภัยก่อการร้ายและยาเสพติดรวมกัน โดยเมืองฟิลาเลเซียเป็นเมืองที่มีอัตราการเสียชีวิตจากปืนมากที่สุดในประเทศ
อีกทั้งประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีเหตุรุนแรงจากการใช้ปืนมากที่สุดในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว สูงกว่าประเทศเยอรมันนี่ถึง 16 เท่า และเป็นประเทศที่มีคนครอบครองอาวุธปืนมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีปืนอย่างถูกกฎหมายประมาณ 300 ล้านกระบอก และที่น่าสนใจกว่านั้นสหรัฐฯมีคนครอบครองปืนมากที่สุดในโลก โดยเฉลี่ยใน 100 คน มี 88 คน จะมีอาวุธปืนในครอบครอง
ปัจจุบันประเทศสหรัฐมี 31 รัฐที่สามารถพกปืนสั้นได้ โดยไม่ต้องมีใบอนุญาตและมี 15 รัฐที่สามารถพกปืนสั้นได้ แต่ต้องมีใบอนุญาต สำหรับปืนยาวมี 44 รัฐพกปืนยาวได้ ทั้งหมดนี้คือสิทธิและเสรีภาพที่คนอเมริกันห่วงแหน
ในอดีตประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ถูกปกครองด้วยประเทศอังกฤษได้ถูกสั่งห้ามให้ประชาชนพกอาวุธปืนเพราะกลัวจะถูกใช้เป็นอาวุธในการต่อต้าน แต่เมื่อสหรัฐอเมริกาสามารถทำการปฎิวัติได้สำเร็จ ในปี ค.ศ.1776 ได้มีการร่างบทบัญญัติมาตรา 2 ขึ้นมา เพื่อป้องกันตนเองและป้องกันประเทศจากการรุกราน สาระสำคัญของบทบัญญัตินี้ คือ ประชาชนทั่วไปที่ไม่มีการผิดปกติทางจิต ไม่มีประวัติอาชญากรรม และอายุไม่น้อยกว่า 18 ปี หรือ 21 ปี ก็สามารถเป็นเจ้าของปืนได้ หากผ่านการตรวจสอบประวัติและลงทะเบียนให้ถูกต้องทางกฎหมาย ซึ่งบทบัญญัตินี้ถูกสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน
ภาคการเมืองมักจะไม่พูดเรื่องการยกเลิกมาตรา 2 ของรัฐธรรมนูญที่มีการแก้ไขเพราะรู้ว่าคนอเมริกันจำนวนมาก ผูกพันกับความเชื่อเรื่องเสรีภาพที่ทุกคนมีสิทธิครอบครองปืน โดยทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งพรรคการเมืองส่วนใหญ่ทำได้เพียงแค่ประกาศอุดช่องโหว่ของกฎหมายเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการให้ซื้อปืนยากขึ้น หรือออกมาตราการป้องกันไม่ให้ปืนตกไปอยู่กับคนที่ไม่สมควรมี ดังนั้นการครอบครองปืนในประเทศสหรัฐอเมริกาจึงเป็นรากที่ฝังลึกเพราะประชาชนทุกคนในประเทศเคยชิน และคิดว่าการครอบครองอาวุธปืนเป็นส่วนหนึ่งของสิทธิเสรีภาพที่ชาวอเมริกันทุกคนควรได้รับ แต่รับบาลควรจะมีมาตรการเรื่องสิทธิการครอบครองปืนที่รัดกุมมากกว่า เพื่อป้องกันโศกนาฏกรรมครั้งต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก รายการรอบโลก by กรุณา บัวคำศรี ตอน Gun and Racism in America