ยุคนี้เป็นยุคที่ต้องบอกว่า งานสามารถตามติดเราไปทุกที่ แค่พกมือถือก็สามารถทำงานแทบทุกอย่างแทนคอมพิวเตอร์ได้ ทั้งติดต่อคุยงานและทวงงานผ่านอีเมล ไลน์หรือช่องทางอื่นๆ ได้ 24 ชม. การประชุมก็สามารถวิดิโอคอลหรือส่งไฟล์งานออนไลน์ได้อย่างง่ายดายขึ้น
เมื่อคนรุ่นใหม่ถูกคาดหวังให้ทำงานได้เร็ว เยอะและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แถมยังมีช่องทางให้ติดต่อได้ตลอดเวลา แล้วสมัยนี้เรายังมี Work-life balance ความสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงานกันอยู่ไหม
แท้จริงแล้ว เทคโนโลยีเป็นดั่งดาบ 2 คม แน่นอนว่าเมื่อมีตัวช่วยทำให้เราทำงานสะดวกขึ้น เทคโนโลยีเหล่านี้ก็อำนวยให้เราออกแบบสไตล์การทำงานได้อย่างที่ใจฝันมากขึ้น เช่นกัน คนยุคใหม่เลือกทำฟรีแลนซ์มากขึ้น แทนที่จะเข้า-ออกงานเป็นเวลาเหมือนสมัยก่อน
เพราะสามารถเลือกที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่ชอบได้ เช่น ร้านกาแฟ co-working space สวยๆ หรือ home office ที่ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางไกล มนุษย์ฟรีแลนซ์หลายคนทำงานและได้รับค่าจ้างโดยไม่ได้เจอนายจ้างเลยด้วยซ้ำ
อาจกล่าวได้ว่าสำหรับคนยุคใหม่ สถานที่ทำงานมีความสำคัญลดลง ในขณะที่คอนเน็คชั่นมีความสำคัญมากขึ้น
ซึ่งการที่สามารถออกแบบสไตล์การทำงานได้นี้ ทำให้ลดปัญหา Work-Life Balance ได้ด้วย เช่น ปัญหาสุขภาพ Office Syndrome จากการนั่งทำงานนานๆในออฟฟิส และช่วยให้แบ่งเวลาให้คนในครอบครัวได้ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อการไม่จำเป็นต้องนั่งทำงานติดโต๊ะให้อิสระในการทำงาน ที่มากขึ้น แต่ก็มาพร้อมความรับผิดชอบที่ต้องจัดการตัวเองให้ดีมากขึ้นด้วย
คนยุคใหม่จำนวนไม่น้อยที่อยากออกแบบชีวิตการทำงานตามไลฟ์สไตล์ของตัวเองแต่ก็ประสบปัญหาไม่สามารถมีสมาธิจดจ่อในการทำงานอย่างต่อเนื่อง (Flow) ได้ เพราะปัจจัยต่างๆ เช่น โซเชียลมีเดียที่เป็นสิ่งรบกวนหลักเวลาทำงาน
ปัญหาอื่นๆ เช่น การที่ฟรีแลนซ์บางคนเลือกปลีกออกมาทำงานที่บ้านคนเดียว ทำให้เกิดสภาวะเหงา เพราะไม่ได้เข้าสังคม
การทำงานในยุคนี้จึงต้องจัดการตัวเองให้ดี อย่าใช้เทคโนโลยีจนทำงานเยอะไป หรือ ปล่อยให้โซเชียลทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลงหรือสุขภาพจิตย่ำแย่
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว… สายรักงานคนไหนที่ชอบทำงานหนักมากๆ ก็อย่าลืมพักผ่อน ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ เพราะแม้ยุคนี้เราจะทำงานกันได้มากขึ้น แต่สุดท้ายคนเราก็ไม่ใช่เครื่องจักรที่ทำงานได้ตลอดเวลา ต้องพักบ้างนะคะถึงจะสมดุล
ที่มา:
https://www.allbusiness.com/technology-make-professionals-productive-115276-1.html
https://www.theregister.co.uk/2013/10/23/technology_has_made_us_work_five_times_harder/
About Me
Instagram: http://www.instagram.com/faunglada
Facebook: http://www.facebook.com/faunglada
Youtube: http://www.youtube.com/faunglada
Twitter: @faunglada
Website: www.faunglada.com
ความเห็น 17
ชูศักดิ์ รัตนพานิช
ต้องแบ่งเวลาบริหาาให้ลงตัว
21 ธ.ค. 2561 เวลา 01.36 น.
Think today
20 ธ.ค. 2561 เวลา 13.14 น.
อนันต์ ศรีทองทรัพย์
อ่านแล้วดีครับมีประโยดครับ
20 ธ.ค. 2561 เวลา 12.27 น.
😎 MILD 😎
🙏 ขอบคุณสำหรับบทความ
20 ธ.ค. 2561 เวลา 12.24 น.
Fewling Nopparuj
ทุกอย่างมีดีอยู่ในตัวมัน ต่อให้จะสมัยไหน จะมีอะไรที่สะดวกขึ้นมาก็ตาม แต่ถ้าเราไม่ทำให้มันดีๆ มันก็แย่ทั้งนั้น
-อะไรที่มันยากๆ มันก็จะช่วยให้เรากล้ามากขึ้น ขยัน เก่งขึ้น ได้รู้ว่าความยากมันเป็นยังไง
-อะไรที่มันง่ายๆ ก็ทำให้เราสบายใจขึ้น ไม่ต้องเหนื่อยมาก ใจมันสดใสขึ้นทันที
สรุป...ไม่ได้มีอะไรแย่ไปตลอด และไม่มีอะไรที่จะดีไปตลอด
19 ธ.ค. 2561 เวลา 14.23 น.
ดูทั้งหมด