ที่สุดของความภูมิใจ โจ ยมนิล ปลื้ม อุ๋งอิ๋ง สาวน้อยเพชรบ้านแพง ขึ้นแท่นหมอลำเงินล้าน ปิดหนี้บ้าน 3 ล้านภายในวันเดียว หมอลำสาวอึ้งน้ำตาไหล
ขึ้นแท่นหมอลำเงินล้าน หลังใช้เวลาเพียง 5 เดือนเศษๆ สำหรับหมอลำสาวดาวรุ่งสุดฮอต อุ๋งอิ๋ง รัตนาภรณ์ หรือ อุ๋งอิ๋ง เพชรบ้านแพง ที่ล่าสุดได้มาลัยเงินล้านจากเอฟซีในวันเกิดและวันปิดฤดูกาลของวง ไปกว่า 3 ล้านบาท จนสามารถปิดหนี้บ้านที่กำลังสร้างได้ งานนี้ บอสโจ ยมนิล หัวหน้าวงหมอลำสาวน้อยเพชรบ้านแพง ผู้ปลุกปั้น น้องอุ๋งอิ๋ง มากับมือจนกลายเป็นซุปตาร์หมอลำในวันนี้ ทั้งดีใจและภาคภูมิใจสุดๆ
ล่าสุดวันที่ 16 ส.ค. 66 บอสโจ และ น้องอุ๋งอิ๋ง ที่มาร่วมงานเปิดตัวรายการใหม่ “หมอลำไอดอล” ที่เวิร์คพอยท์ สตูดิโอ ปทุมธานี ได้เปิดใจ ถึงความรู้สึกภาคภูมิใจที่ประสบความสำเร็จในวันนี้
ล่าสุด อุ๋งอิ๋ง ได้มาลัยเงินล้าน ในวันเกิดและวันปิดฤดูกาลของวง? โจ ยมนิล : “ก็ดีใจกับลูกครับ เราได้เห็นคนที่ปั้นมากับมือจากศูนย์แล้วมาถึงวันนี้ มันหายากมากศิลปินที่จะเดินทางในเส้นทางนี้แค่ 5 เดือนแล้วมีชื่อเสียงระดับนี้ มีบ้านเป็นของตัวเอง เขาเลือกแบบบ้านต่างๆ ด้วยตัวเอง ภายใน 5 เดือนก็ใกล้เสร็จแล้วครับ กับช่วงเวลา 5 เดือนเศษๆ ที่เข้าวงการมาโดยไม่ได้ใช้เวลาในการบ่มเพาะมาก ตีเหล็กตอนร้อนๆ แล้วเขาพุ่งขึ้นมา แล้วมีเอฟซีเยอะขนาดนี้ที่ให้การสนับสนุน เราในฐานะผู้อยู่เบื้องหลัง ทั้งดีใจและภูมิใจกับลูกครับ”
อุ๋งอิ๋ง : “ตอนแรกก็ตกใจค่ะ คิดว่าพ่อโจทำคอนเทนต์(ยิ้ม)”
โจ ยมนิล : “น้องไม่รู้ครับ เขาเคยพูดแซวว่า พ่อ ใกล้จะถึงวันเกิดหนูแล้วนะ จะมีอะไรให้หนู เขาก็ถามเราเล่นๆ แต่ไม่มีใครรู้ว่าจะมีเซอร์ไพรส์แบบนี้”
มองเห็นอะไรในตัวน้องตอนนั้น ภายในระยะเวลาแค่ 5 เดือน ประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้? โจ ยมนิล : “อันดับแรกเรื่องน้ำเสียงของน้องอายุเท่านี้ 15-16 น้องส่งคลิปมา เราก็รับไว้ ตอนแรกคิดว่าถ้าอยู่วงใหญ่ไม่ได้ ก็จะให้ไปอยู่รถแห่ ฟังเสียงแล้วมันน่าทึ่ง น้องมีความสามารถร้องลำซิ่งได้ด้วย ร้องหมอลำได้ เด็กอายุเท่านี้ร้องได้ขนาดนี้เลยเหรอ เราก็เลยนัดกันไปเจอที่ศรีสะเกษหลังเวที พอเจอแล้วครั้งแรกผมตะลึงเลยนะ ตัวเท่าแมลงหวี่แต่ว่าเสียงเท่าช้าง ขนาดหลังเวทีที่เขายุ่งๆ กันอยู่ยังต้องหยุดแล้วมองมาว่าใครร้องวะ น้องเขามีของอยู่ในตัว มาบวกกับสิ่งที่มองไม่เห็น อันนี้คือในมุมมองของผมนะ มีสิ่งที่มองไม่เห็นที่ทำให้ผมคิดว่าต้องปั้นคนนี้ แล้วสุดท้ายก็มาถึงวันนี้แล้ว”
แฟนๆ ยกให้เป็น พ่อลูกคู่บุญ ส่งเสริมกันทำให้วงปังมีงานมีเงินมีชื่อเสียงมากขึ้น? โจ ยมนิล : “ส่วนใหญ่คู่จิ้นจะเป็นหนุ่มสาว แต่คู่พ่อลูกมันแปลกไง(ยิ้ม) ผมเห็นเขาพูดกัน พ่อลูกๆ ก็คิดว่าหรือเราจะมีคอนเสิร์ตแบบพ่อลูก ก็คิดกันเล่นๆ แล้วไม่คิดว่ามันจะปังขนาดนี้ไง แต่มันก็มาจนถึงทุกวันนี้ แล้วแฟนคลับก็มีความสุขนะ เวลาพ่อหยอกลูก ลูกหยอกพ่อบนเวที เห็นแล้วมีความสุขคู่พ่อลูก”
ภูมิใจกับน้องอุ๋งอิ๋งมากขนาดไหน ที่เริ่มจากศูนย์จนมาถึงวันนี้? โจ ยมนิล : “ที่สุดของความภูมิใจของเราในฐานะที่เราเป็นผู้สร้างศิลปินหลายๆ คน แต่ว่าสิ่งที่ผมมองเห็นเด็กคนนี้คือความดิบๆ ความบ้านๆ ธรรมชาติโดยไม่ได้ปรุงแต่งเลย ขนาดมารายการหมอลำไอดอล น้องยังมีความซื่อบ้านๆ”
ตอนนี้ได้ฉายา หมอลำเงินล้าน แล้ว อุ๋งอิ๋งรู้สึกอย่างไร?อุ๋งอิ๋ง : “ดีใจค่ะ(ยิ้ม) ที่เขายอมรับในสิ่งที่หนูทำ ในความสามารถของเรา ตอนที่ได้มาลัยเงินล้าน ทั้งอึ้ง และร้องไห้น้ำตาไหลเลยค่ะ ไม่รู้มาก่อนว่าพ่อและแฟนๆ จะเซอร์ไพรส์เราแบบนี้”
โจ ยมนิล : “ขอบคุณพลังเอฟซีทั่วประเทศที่ทำมาลัยมาให้ครับ บ้านฮักอุ๋งอิ๋ง”
จากเด็กน้อยร้องเพลงในตลาดนัด วันนี้กลายเป็นหมอลำซุปตาร์เงินล้านแล้ว? อุ๋งอิ๋ง : “มาไกลมากค่ะ หนูไม่เคยคิดมาก่อนว่าชีวิตจะมาถึงวันนี้ ตอนแรกที่มาสมัครกับพ่อโจก็แค่อยากได้งานเฉยๆ ค่ะ”
โจ ยมนิล : “เป้าหมายของน้องอยากทำงาน เพราะน้องก็ดูแลแม่ ดูแลครอบครัวแค่นั้นครับ”
จำได้มั้ยวันนั้นได้ยอดมาลัยทั้งหมดเท่าไหร่? อุ๋งอิ๋ง : “ก็หลักล้านค่ะ แต่ว่าจำตัวเลขไม่ได้ ก็ปิดหนี้บ้านได้เรียบร้อยค่ะ ที่สร้างบ้านรวมๆ ก็เกือบ 3 ล้าน ตอนนี้คืบหน้าสร้างบ้านไปได้ 40% แล้วค่ะ”
โจ ยมนิล : “วันนั้นคือวันเดียวนะ คือเป็นบ้านที่น้องสร้างใหม่”
สาวน้อยออนทัวร์ หมอลำเข้าแสดงในผับ ช่วงปิดวง? โจ ยมนิล : “ถือว่าเป็นมิติใหม่ของสาวน้อยเพชรบ้านแพงครับ ซึ่งเราคิดว่าเมื่อก่อนด้วยชื่อเสียงและกระแสเราอาจจะไม่ถึงขนาดนี้ด้วย แต่ว่าตอนนี้เรามาถึงจุดนี้แล้ว คนที่จ้างงานอย่างโบรกเกอร์ก็ยังงงว่า ลำเพลินมันเข้าผับได้จริงเหรอ มันจะมีคนมาชมจริงเหรอ แต่เราก็ทำได้จริง ที่ผ่านมาก็เป็นบทพิสูจน์ว่าหมอลำไม่ใช่เฉพาะแค่หน้าเวทีอย่างเดียว ก็สามารถเข้าผับได้ เหมือนกับวันนี้ที่สามารถมายืนบนแพลตฟอร์มของรายการทีวีใหญ่ๆ ออนแอร์รายการอันดับ1ของประเทศไทย ช่องเวิร์คพอยท์ มันสุดยอดมากๆ สำหรับหมอลำ ซึ่งสาวน้อยเพชรบ้านแพงได้มีส่วนร่วมในจุดนี้ด้วย ถือว่าสุดยอดมากครับ”
อย่างน้องอุ๋งอิ๋งก็ร่วมโชว์ลำเพลินออนทัวร์ในผับได้? โจ ยมนิล : “คือเราเป็นศิลปิน ไม่ได้จำกัด เราเป็นศิลปินไปโชว์ตัว”
อุ๋งอิ๋ง : “ตอนแรกหนูก็ยังปรับตัวไม่ค่อยได้ ไม่รู้จะเอ็นเตอร์เทนหน้าเวทียังไง แต่ก็ดูพี่ๆ รถแห่ที่มาด้วย ดูว่าเขาเอ็นเตอร์เทนยังไง ก็เลยลองทำดู”
อุ๋งอิ๋งมีโยกออกสเต็ปแดนซ์บ้างแล้ว ฟีดแบ็กเป็นยังไง? อุ๋งอิ๋ง : “ก็มีทั้งด้านดีด้านลบค่ะ(หัวเราะ)”
กลัวดราม่ามั้ย? โจ ยมนิล : “ไม่กลัวครับ ถ้าเขามีความสามารถอะไรก็บอกให้เขาทำเต็มที่ ตอนแรกเขาจะเกร็ง ขออนุญาตนะพ่อ เราบอกไม่เป็นไร ตอนนี้เขาก็เริ่มคุ้นเคย เริ่มมีประสบการณ์บนเวทีแล้ว อันไหนที่น่ารักก็ทำไป”
ล่าสุดมีโมเมนต์ แอน อรดี และ อุ๋งอิ๋ง เจอกัน? อุ๋งอิ๋ง : “หนูก็เป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบพี่แอน ก่อนจะเข้าวงการก็ดูผลงานพี่แอน วันนั้นก็ได้คุยกัน พี่แอนบอกให้สู้ๆ ค่ะ”
ความน่ารักของลูกๆ ที่บอสโจปั้นมาทั้งคู่? โจ ยมนิล : “นี่แหละครับนี่คือสิ่งที่ผมภูมิใจ แอน อรดี ก็เป็นคนหนึ่งที่เป็นลูกทีมเรา และเป็นคนที่เราปลุกปั้นอีกคนหนึ่ง กับซิงเกิลที่ทำให้แอนมีชื่อเสียงและร่วมในรายการต่างๆ เวิร์คพอยท์ติดต่อมา แล้วก็ขอลิขสิทธิ์ต่างๆ เราก็โอเค แอนก็มีผลงานเพลงแว็บแว็บ อุ๋งอิ๋ง มีหอบฝันมาหลังฮ่าน แอนก็เคยอยู่วงสาวน้อย อุ๋งอิ๋งก็มีหลายผลงานเพลงผ่านการดูแลของเรา เราดีใจ ความเป็นพ่อทั้งรู้สึกดีใจและภูมิใจครับ”.