ขอให้รอด! บูรณาการทุกภาคส่วนเพื่อลดอุบัติเหตุและการเสียชีวิต ช่วงสงกรานต์
มองโลกในแง่ดียังไง ก็มั่นใจว่าสงกรานต์ปีนี้จะมีการบาดเจ็บล้มตายไม่น้อยหน้ากว่าปีก่อนๆ เพราะเวลาและพื้นที่ขยายเพิ่มขึ้น
ปี2566 ช่วง7วันระวังอันตราย มีอุบัติเหตุทางถนน 2,203 ครั้ง ตาย 264 ราย บาดเจ็บ 2,208 คน เฉพาะบนทางหลวงเกิดขึ้น 1,134 ครั้ง ตาย158 ราย บาดเจ็บ 1,268 คน
คิดเป็นค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจ มากกว่า 4 พันล้านบาท จากฐานคำนวณผู้เสียชีวิตมูลค่า 6.796 ล้านบาท/คน พิการ 7.884 ล้านบาท/คน สาหัส 0.187 ล้านบาท/คน บาดเจ็บเล็กน้อย 0.0444 ล้านบาท/คน)
ความจริงยิ่งกว่านั้นก็คือ อัตราการเสียชีวิตรวมจากอุบัติเหตุทางถนน ยอดรวมไม่ต่ำกว่าปีละ17,000ราย
สัปดาห์ที่ผ่านมา นพ.ชาญวิทย์ ทระเทพ จากสมาคมวิศวกรรมชีวการแพทย์ไทย เปิดเผยงานวิจัยเชิงปฏิบัติ การบูรณาการทุกภาคส่วนเพื่อลดอุบัติเหตุและการเสียชีวิต ทุนสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)ทำในพื้นที่เขตสุขภาพที่8 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 จังหวัดได้แก่ หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย นครพนม เลย บึงกาฬ และสกลนคร
วิธีการน่าเชื่อมาก!!!
โดยสร้างกลไกและระบบให้ทุกหน่วยที่มีหน้าที่ลดอุบัติเหตุตามเป้าหมาย เช่น กระทรวงคมนาคมมุ่งจะลดการเกิดอุบัติเหตุ กระทรวงสาธารณสุข ลดการเกิดเสียชีวิต กระทรวงมหาดไทยมีศูนย์ปฏิบัติการลดอุบัติภัยทางถนนทั้งระดับจังหวัดถึงอำเภอ
เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดมาตกลง แล้วไปกำชับหน่วยในสังกัดบูรณาการ แก้ปัญหาร่วมกันแม้จุดเล็กๆ งานวิจัยดึงเอาข้อมูลเวชระเบียนของโรงพยาบาลรายงานการบาดเจ็บหรือตายจากอุบัติเหตุ
นำระบบคอมพิวเตอร์แมชชีนเลิร์นนิ่งที่เรียนรู้จากข้อมูล วิเคราะห์แจ้งผลบน Dashboard หรือจอแสดงผลแบบเรียลไทม์ให้เห็นจุดเสี่ยงเพื่อไปกวดขัน
ข้อมูลละเอียดถึงขั้นบอกได้ว่าบางอำเภอ ผู้ก่อเหตุสูงอายุ มีโรคประจำตัว หน่วยในพื้นที่จะลงไปจัดการ ปรามกลุ่มเสี่ยงประเภทนี้ให้เพลาการขับขี่
การลดอุบัติเหตุ ด้วยวิธียืนเฝ้าถนนในเทศกาลอาจได้ผลระดับหนึ่ง แต่ถ้าทำให้กลุ่มเสี่ยงก่อเหตุไม่เอารถออกสู่ถนนได้ ความปลอดภัยก็เพิ่มขึ้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
ติดตามเราได้ที่
