กองทุนติดดาว: กลับมาอีกครั้งกับคอลัมน์ประจำสัปดาห์อย่าง “กองทุนติดดาว” กองทุนที่ได้เรทติ้ง “Morningstar 5 ดาว” จัดเป็นกองทุนหัวกะทิที่มี ‘ผลตอบแทนปรับด้วยความเสี่ยง’(Risk-adjusted returns)ดีสุด 10% แรกของกลุ่ม ตามสูตรลับเฉพาะของคนกลางอย่าง “Morningstar” ซึ่งเป็นองค์กรที่จัดอันดับกองทุนรวมที่ได้รับการยอมรับจากนักลงทุนทั่วโลก
ครั้งนี้เป็นกองทุนในกลุ่ม “Aggressive Allocation” ที่มีจุดเด่นเน้นลงทุนใน “หน่วยลงทุน” ของกองทุนรวมอื่นที่มีนโยบายการลงทุนในหุ้น และ/หรือตราสารหนี้ ทั้งในประเทศ และ/หรือต่างประเทศ
ที่สำคัญยังเป็นกลุ่ม “กองทุนประหยัดภาษี” ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดี พร้อม “เซฟภาษี” ไปพร้อมๆ กันอีกด้วย
วันนี้ ทีมงาน ‘Wealthy Thai’ มี “กองทุนผสม” สไตล์“Aggressive Allocation”ที่น่าสนใจ ดีกรี “กองทุน 5 ดาว” จากทาง “Morningstar”** มาฝากกัน
“PRINCIPAL AARMF” เซฟภาษีสไตล์ “Aggressive Allocation”
สำหรับกองทุนรวมที่คัดมาแนะนำกันในครั้งนี้ มีชื่อว่า “PRINCIPAL AARMF: กองทุนเปิดพรินซิเพิล อะเกรสซีฟ แอลโลเคชั่นเพื่อการเลี้ยงชีพ” บริหารจัดการโดย ‘บลจ.พรินซิเพิล’ มีความเสี่ยง “ระดับ 7”(เสี่ยงสูง) ก่อตั้งเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2547 มีนโยบายลงทุน ใน “หน่วยลงทุน” ของกองทุนรวมอื่นที่มีนโยบายการลงทุนในหุ้น และ/หรือตราสารหนี้ ทั้งในประเทศ และ/หรือต่างประเทศ ในลักษณะของ “Fund of Funds” โดยจำกัดการลงทุนในต่างประเทศไว้ไม่เกิน 79% ของ NAV
หน้าตาพอร์ต…สไตล์ “หุ้นใหญ่” ที่เป็นส่วนผสมระหว่าง “หุ้นเติบโต” และ “หุ้นคุณค่า”
จากนโยบายลงทุนทำให้หน้าตาหุ้นในพอร์ตของกอง ‘PRINCIPAL AARMF’ มีบุคลิกของหุ้นสไตล์ “หุ้นใหญ่” ที่เป็นส่วนผสมระหว่าง“หุ้นเติบโต” (Growth) และ “หุ้นคุณค่า” (Value) เป็นสำคัญ
สำหรับหน้าตาพอร์ต (ณ วันที่ 31 ธ.ค. 24) นั้น มีการลงทุนใน 2 กองทุน ประกอบไปด้วย
PRINCIPAL GEF-X 51.60%
PRINCIPAL LTF-X 37.13%
“ซึ่งเป็นกองทุนภายใต้การบริหารของ ‘บลจ.พรินซิเพิล’ ทั้งคู่ โดยเป็นส่วนผสมระหว่างโอกาสลงทุนใน ‘หุ้นทั่วโลก’ และ ‘หุ้นไทย’เพื่อโอกาสที่ดีกว่าในการสร้างผลตอบแทนนั่นเอง”
“ด้านผลการดำเนินงานของกองทุน ‘PRINCIPAL AARMF’ ตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 24) เฉลี่ยอยู่ที่ 2.66%ต่อปี (ดัชนีชี้วัด 4.91% ต่อปี) ขณะที่ความผันผวนของผลการดำเนินงานเฉลี่ยอยู่ที่ 12.16% ต่อปี (ดัชนีชี้วัด 13.29% ต่อปี) อย่างไรก็ดีในช่วง 5 ปีย้อนหลังกองทุนเคยมีผลขาดทุนสูงสุด (Maximum Drawdown) อยู่ที่ -30.55%”
เงินลงทุนขั้นต่ำ “ครั้งแรก” เพียง 1,000 บาท ส่วน “ครั้งถัดไป” ไม่กำหนด
สำหรับนักลงทุนที่สนใจการลงทุนในกองทุนดังกล่าว สามารถลงทุนได้ด้วยเงิน 1,000 บาท ตามข้อกำหนดเงื่อนไขหรือมูลค่าขั้นต่ำของ “การซื้อครั้งแรก” และ “ครั้งถัดไป” ไม่ได้กำหนดไว้แต่ประการใด ส่วนมูลค่าขั้นต่ำของการขายคืนและยอดคงเหลือขั้นต่ำทำได้โดยไม่มีข้อกำหนด สำหรับระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืนคือ 4 วันทำการหลังจากวันทำรายการขายคืน (T+4)
ทั้งนี้ ช่องทางการซื้อขายสามารถทำได้ผ่านรูปแบบออฟไลน์อย่าง ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จํากัด (มหาชน) และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนอื่นที่บริษัทได้แต่งตั้งขึ้น ส่วนช่องทางออนไลน์สามารถเปิดบัญชีและซื้อขายได้ผ่านแอพพลิเคชั่นอย่าง Principal TH
ใครที่มองหาโอกาสลงทุนใน“หุ้น” เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดี พร้อมโอกาสในการ “เซฟภาษี” เชื่อว่ากอง “PRINCIPAL AARMF” จะเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ ด้วยสไตล์ของกองทุนผสมที่เน้นลงทุนในหุ้นแบบ “Aggressive Allocation” ที่สำคัญยังบาลานซ์ระหว่าง “หุ้นทั่วโลก” และ “หุ้นไทย” ในพอร์ต ซึ่งจะต่างจากกองทุนอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกันที่ส่วนใหญ่จะโฟกัสในหุ้นไทยเท่านั้น
ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน