ในช่วงบอลยูโรใครที่ติดตามจะเห็นแฟนบอลเข้าไปเชียร์กันในสนามกันแล้วสะท้อนถึงความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนในยุโรปได้เป็นอย่างดี
“ตลาดหุ้นยุโรป(EUROSTOXX600)” ก็มาเงียบๆตั้งแต่ต้นปีบวกไปแล้ว+13.94% เป็นตลาดที่ยังLaggard ตลาดพัฒนาแล้วอื่นๆอย่างสหรัฐหรือญี่ปุ่นอยู่
ในส่วนของ“หุ้นจีน” ปีนี้ยังไม่ค่อยไปไหนไกลตลาดเซี่ยงไฮ้ดัชนีSSEC ตั้งแต่ต้นปีบวก+0.60% ในขณะที่ตลาดเสินเจิ้นดัชนีCSI300 ยังติดลบ-3.76% (ข้อมูลณวันที่9 ก.ค. 21)
แต่ยังไงตลาดหุ้นจีนก็ยังเป็นหนึ่งในตลาดที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจโดยเฉพาะการลงทุนในระยะยาวถือว่ามีอนาคตที่ค่อนข้างสดใสเลยทีเดียว
วันนี้ทีมงาน‘โต๊ะกองทุนWealthythai’ มีมุมมองที่น่าสนใจจากคนบลจ.มาฝากกัน
“บลจ.ไทยพาณิชย์” ชี้‘หุ้นยุโรป’ ยังLaggard ตลาดพัฒนาแล้วอื่น…ศก.กำลังฟื้นตัว-โอกาสในการเข้าลงทุน
โดย“อาชวิณอัศวโภคิน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการตลาดบลจ.ไทยพาณิชย์จำกัดมองว่าปัจจุบัน“ตลาดหุ้นยุโรป” เริ่มฟื้นตัวหลังจากถูกมองเป็นตลาดที่laggard ในช่วงก่อนหน้าโดยมาจากปัจจัยบวกด้านสภาพคล่องความผ่อนคลายทางการเมืองและการกระจายวัคซีนป้องกันCOVID-19 อย่างทั่วถึงทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ชะลอตัวลงส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมเริ่มกลับมาเป็นปกติมากขึ้นประกอบกับตลาดหุ้นในยุโรปมีลักษณะเป็น‘หุ้นกลุ่มวัฏจักร(Cyclical Stock)’ และ‘หุ้นกลุ่มมูลค่า(Value Stock)’ เป็นสัดส่วนหลักในตลาดซึ่งจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากการกลับมาเปิดกิจกรรมเศรษฐกิจ
(อาชวิณอัศวโภคิน)
“อีกทั้งยุโรปยังเป็นประเทศที่ฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสCOVID-19 ล่าช้าเมื่อเทียบกับตลาดที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐจึงเห็นว่าเป็นอีกหนึ่งตลาดที่ยังคงมีศักยภาพในการเติบโตของตลาดในขณะที่มูลค่าตลาดหุ้นยุโรปยังอยู่ในระดับที่ต่ำจึงเป็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากตลาดยุโรปได้อีกทางหนึ่งเช่นกัน”
“บลจ.ทิสโก้” มอง‘หุ้นจีน’ ราคาถูก-มีศักยภาพเติบโตเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น…แนะเป็นจังหวะเข้าลงทุน
ในขณะที่“สาห์รัชชัฏสุวรรณ” ผู้อำนวยการสายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุนบลจ.ทิสโก้จำกัดมองว่า“ตลาดหุ้นจีน” ถือเป็นตลาดหุ้นที่น่าสนใจลงทุนเป็นอันดับต้นๆในปีนี้เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ดีนับตั้งแต่จีนเริ่มควบคุมการแพร่ระบาดCOVID–19 ได้สำเร็จโดยบริษัทคาดว่าจะเกิดการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้ภายในไตรมาส3/21 นี้อีกทั้งคาดว่าหลังจากนี้รัฐบาลจีนจะผ่อนคลายนโยบายเพื่อหันมากระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังทั้งนี้เพื่อคงอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องซึ่ง‘กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF)’ คาดว่าGDP จีนในปี21 จะเติบโตได้8.4% ขณะที่ปีหน้าจะเติบโต5.6%
(สาห์รัช ชัฏสุวรรณ)
“อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นจีนยังถือว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคและน้อยกว่าตลาดหุ้นอื่นๆในโลกโดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่5 ก.ค. 21 ‘ดัชนีHSCEI’ ยังสร้างผลตอบแทนติดลบ4.1% ขณะที่‘ดัชนีMSCI World’ ให้ผลตอบแทนเป็นบวก14.6% แต่ราคา‘หุ้นจีน’ ก็ยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างถูกโดยมีอัตราส่วนราคาต่อกำไรล่วงหน้า(Forward P/E) ปี21 ที่11.5 เท่าและปี22 ที่10.3 เท่าขณะที่‘ตลาดหุ้นAsia Pacific ex. Japan’ มีForward P/E ปี21 ที่16.8 เท่าและปี22 ที่15 เท่าส่วน‘ตลาดหุ้นสหรัฐ(MSCI USA)’ มีForward P/E ปี21 ที่23.4 เท่าและปี22 ที่21.2 เท่าในแง่มูลค่ายังน่าสนใจเมื่อเทียบกับโอกาสของการเติบโต”
ในช่วงที่“ตลาดหุ้นไทย” ดูไม่ค่อยสดใสเท่าไรนักการกระจายโอกาสการลงทุนไปยังตลาดต่างประเทศก็เป็นอีกทางเลือกที่นาสนใจโดยเฉพาะ“หุ้นยุโรป” และ“หุ้นจีน” ที่ยังมีราคาถูกในขณะที่ภาพรวมของเศรษฐกิจต่างๆกำลังเข้าสู่ช่วงการฟื้นตัวที่ดี