จากกรณีโลกออนไลน์แชร์คลิป เหตุการณ์กลุ่มชายฉกรรจ์เข้าล็อกมือชกต่อยชายสูงวัยกลางถนนใกล้ทางแยกแห่งหนึ่ง โดยชายสูงวัยไม่สามารถต่อสู้ได้ ต้องล้มฟุบกองกับพื้นข้างรถเก๋งแต่ชายหนุ่มรูปร่างเตี้ยล่ำ ยังได้แสดงความโหดเหี้ยมด้วยการเตะเสยเข้าไปที่ศีรษะลุงอีกนับครั้งไม่ถ้วน ทำให้พลเมืองดีที่พบเห็นทนไม่ได้ ต้องลงมาขอร้องก่อนที่ กลุ่มชายฉกรรจ์จะหลบหนีไป ซึ่งภายหลังพบว่า ผู้ก่อเหตุใช้ชื่อ "บิ๊กหมู" เป็นเจ้าของร้านอาหารอีสานชื่อดังในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพและเฟซบุ๊กของ "บิ๊กหมู" หรือ "เสี่ยร้านลาบ" และเพจร้านอาหารอีสานในจ.ปทุมธานี ก่อนจะเข้าไปโพสต์ต่อว่าต่อขานการกระทำของเสี่ย ที่รุมทำร้ายร่างกายชายสูงวัยจนตกเป็นข่าวครึกโครม อย่างไรก็ตาม เสี่ยร้านลาบ ได้พยายามเปลี่ยนชื่อเฟซบุ๊กใหม่เพื่อให้ยากต่อการติดตามตัว แต่ปรากฏว่าชาวโซเชียลสามารถแกะรอยจากการโพสต์ข้อความเก่า ๆ ในเฟซบุ๊กของเพื่อนเสี่ยร้านลาบ กระทั่งรู้ชื่อเฟซบุ๊กล่าสุดที่ถูกเปลี่ยนก่อนจะนำไปแชร์กันอีก ทำให้เหล่าชาวโซเชียลเข้ามารุมโพสต์โจมตีและด่าทอการกระทำของเสี่ยร้านลาบกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางฝ่ายเสี่ยร้านลาบเจ้าของเฟซบุ๊ก ก็ยังไม่ทำการปิดเฟซบุ๊กส่วนตัว หรือโพสต์ข้อความตอบโต้เพื่อชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด.