โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

รู้ครบทุกข้อเกี่ยวกับ "ยาสตรี" หรือที่หลายคนเรียกกันว่า “ยาขับเลือด”

HonestDocs

อัพเดต 31 ต.ค. 2563 เวลา 20.06 น. • เผยแพร่ 31 ต.ค. 2563 เวลา 20.06 น. • HonestDocs
รู้ครบทุกข้อเกี่ยวกับ
ประโยชน์ของ “ยาขับเลือด” ที่จริง ข้อควรระวัง และข้อแนะนำที่ปลอดภัยสำหรับผู้ต้องการยุติการตั้งครรภ์เพราะความจำเป็น

ความหมายของยาขับเลือด หรือยาสตรี

ยาขับเลือด มีอีกชื่อเรียก คือ “ยาสตรี” เป็นยาที่หาซื้อได้ทั่วไปตามร้านขายยา หรือร้านขายของชำ โดยทั่วไปจะประกอบด้วยสมุนไพรชนิดต่างๆ เช่น ตังกุย ขิง ไพล พริกไทย อบเชย ว่านชักมดลูก เทียนดำ เทียนแดง โกฏหัวบัว โกฏสอ  

สมุนไพรที่กล่าวไปข้างต้นนั้นมีฤทธิ์ของฮอร์โมนไฟโตเอสโทรเจน (Phytoestrogen) ซึ่งมีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเพศหญิง ส่งผลให้เยื่อบุโพรงมดลูกของผู้รับประทานยาหนาขึ้น ซึ่งหากไม่มีเด็กทารกในมดลูก เยื่อบุดังกล่าวก็จะหลุดออกมาเป็นประจำเดือน 

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับยาสตรี

ผู้หญิงหลายคนเข้าใจว่า การรับประทานยาสตรีที่มีฤทธิ์ของฮอร์โมนเพศหญิง จะช่วยขับตัวอ่อน หรือขับเลือดออกมาได้ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด และอันตรายอย่างมาก 

เนื่องจากยาสตรีเป็นยาที่ใช้สำหรับผู้หญิงที่ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หรือเลือดลมในร่างกายไม่ปกติ เพราะยาจะมีฤทธิ์กระตุ้นฮอร์โมนเพศหญิง และปรับฮอร์โมนให้ประจำเดือนมาอย่างต่อเนื่อง แต่จะไม่มีผลเกี่ยวกับการทำแท้งแต่อย่างใด

ความจริงแล้ว ยาสตรีมีผลตรงข้ามกับการทำแท้งด้วยซ้ำ นั่นคือ ทำให้ตั้งครรภ์ได้ง่ายขึ้นต่อไป

การตั้งครรภ์ กับยาใช้ยาสตรี

ยาสตรีหลายยี่ห้อยังนิยมใช้แอลกอฮอล์เป็นกระสายยา (ของเหลวสำหรับละลายตัวยา) มีสรรพคุณช่วยบำรุงให้เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกติในผู้ที่มีฮอร์โมนเพศหญิงไม่สมดุล

อย่างไรก็ตาม แอลกอฮอล์ในยาสตรีนั้นมีผลทำลายระบบประสาท และพัฒนาการของทารกได้ ทำให้เมื่อคลอดออกมาแล้ว เด็กจะพิการทางสมอง หรืออวัยวะต่างๆ 

ช่วงเวลาที่เสี่ยงอย่างมากที่ยาสตรีจะทำให้ทารกเกิดความผิดปกติ คือ อายุครรภ์ 3 เดือนแรก เพราะในช่วงเวลาดังกล่าว ทารกกำลังสร้างอวัยวะสำคัญ

ดังนั้นหากทราบว่ากำลังตั้งครรภ์ หรือกำลังวางแผนตั้งครรภ์ คุณควรงดยาสตรีทุกชนิด และปรึกษาแพทย์ก่อนการรับประทานยาใดๆ ก็ตาม นอกจากนี้ ยาสตรียังไม่มีผลช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ หรือช่วยคุมกำเนิดอย่างที่หลายคนเข้าใจกัน 

ในทางตรงกันข้าม การรับประทานยาสตรีเท่ากับเป็นการเพิ่มฮอร์โมนเพศหญิงจนทำให้ประจำเดือนมาได้ แต่ไม่ได้แก้ที่สาเหตุ หรือความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์ 

ดังนั้นหากรับประทานไประยะหนึ่งแล้วประจำเดือนยังมาไม่ปกติ คุณควรไปพบแพทย์แทน ไม่ควรรับประทานยาสตรีต่อเนื่องยาวนาน

ข้อควรระวังในการใช้ยาสตรี

การรับประทานยาสตรีเท่ากับการรับประทานฮอร์โมนเพศหญิงเพิ่มเข้าไปในร่างกาย ในขณะที่ผู้หญิงปกติจะมีฮอร์โมนเพศหญิงมากพออยู่แล้ว ดังนั้นการรับประทานยาสตรีอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ จึงทำให้เกิดผลเสียต่ออวัยวะสืบพันธุ์ได้ 

นอกจากนี้ ยาสตรียังเพิ่มความเสี่ยงทำให้เป็นโรคมะเร็งได้ด้วย โดยเฉพาะโรคมะเร็งเต้านม โรคมะเร็งโพรงมดลูก หรือโรคมะเร็งรังไข่ และยังเกิดผลเสียต่อตับซึ่งต้องทำงานหนักมากขึ้นด้วย และอาจเกิดอาการติดสุราได้ ซึ่งเป็นผลมาจากแอลกอฮอล์ซึ่งเป็นกระสายยาในยาสตรี

อีกทั้งยาสตรียังไม่ควรใช้ในผู้ที่มีโรคตับ และโรคไตร้ายแรง ผู้ป่วยโรคมะเร็ง และผู้ที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับฮอร์โมนในร่างกายด้วย แต่หากต้องการใช้ ก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง

ทางออกสำหรับผู้ที่ต้องการทำแท้งด้วยการใช้ยาอย่างปลอดภัย

สำหรับผู้ที่อยู่ในเงื่อนไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 305 เช่น 

  • กรณีที่หญิงตั้งครรภ์เพราะถูกข่มขืนกระทำชำเรา 
  • หญิงที่ตั้งครรภ์อายุไม่ถึง 15 ปี 
  • หญิงที่ตั้งครรภ์จากการถูกล่อลวง บังคับ ข่มขู่ เพื่อทำอนาจารเพื่อสนองความใคร่ และไม่พร้อมมีบุตร 

ก็สามารถยุติครรภ์ได้อย่างถูกกฎหมายและถูกวิธีได้ โดยการทำแท้ง จะต้องทำโดยแพทย์ผู้มีใบอนุญาตเพื่อความปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกทางเลือกหนึ่งที่ผู้อยู่ในเงื่อนไขสามารถทำแท้งได้ด้วยตนเองที่บ้าน แต่เพื่อความปลอดภัยของตนเอง วิธีการนี้จะต้องอยู่ในความดูแลของคณะแพทย์ และพยาบาลที่ได้รับใบอนุญาตเท่านั้น คือ วิธีการใช้ยายุติการตั้งครรภ์ในอายุครรภ์น้อยกว่า 9 สัปดาห์ 

โดยยาที่สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ผลมีชื่อว่า "ไมเฟฟริสโตน (Mifepristone; Mifeprex®)" เป็นชนิดรับประทาน และ "ไมโซพรอสทอล (Misoprostol; Cytotec®)" ยามีจำหน่ายชนิดเม็ดรับประทาน และชนิดเหน็บช่องคลอด 

ปัจจุบันมียารวมเม็ดซึ่งเป็นสูตรของยาดังกล่าว และได้ขึ้นทะเบียนเป็นบัญชียาหลักขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) ด้วย อีกทั้งสามารถใช้ในผู้ที่มีอายุครรภ์น้อยกว่า 9 สัปดาห์ได้อย่างปลอดภัย

สำหรับประเทศไทย สูตรยาดังกล่าวก็ได้ขึ้นทะเบียนยาสูตร MeFi-Miso (ยาสูตรผสมระหว่าง Mifepristone และ Misoprostol) โดยได้ขึ้นเป็นบัญชียาหลัก จ (1) 

ประชาชนชาวไทยทั่วไปสามารถเข้าถึงยาไมเฟฟริสโตน (Mifepristone) ไมโซพรอสทอล (Misoprostol) และเมทตาบอลได้ แต่ต้องอยู่ในโครงการพิเศษของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานของรัฐที่มีการติดตามประเมินการใช้ยาตามโครงการเท่านั้น

ปัจจุบันมีเครือข่ายโรงพยาบาลรัฐ และเอกชน รวมถึงคลินิกเกือบ 100 แห่งทั่วประเทศที่เข้าร่วมโครงการ โดยยาดังกล่าวไม่มีการจำหน่ายทั่วไปตามร้านขายยา โรงพยาบาล และคลินิกที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ

และทุกคนจะต้องตระหนักไว้เสมอว่า การยุติการตั้งครรภ์โดยการทำแท้งเถื่อนมักเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้หญิงได้รับบาดเจ็บ และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการทำแท้งที่ไม่ปลอดภัย ทั้งยังส่งผลให้เป็นอันตรายถึงชีวิตได้

ดูแพ็กเกจตรวจภายใน มะเร็งปากมดลูก และรังไข่ได้ เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจต่างๆ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android

👨‍⚕️⚕️👩‍⚕️⚕️ ค้นหาโรค อาการ ยา โรงพยาบาล คลินิก และอ่านบทความสุขภาพ เขียนโดยคุณหมอหรือผ่านการรีวิวจากคุณหมอแล้ว ที่ www.honestdocs.co และ www.honestdocs.id 

💪❤️ ไม่พลาดข้อมูลดีๆ ที่จะทำให้คุณแข็งแรงขึ้นทั้งกายและใจ คลิกที่นี่เพื่อแอดไลน์ @hdcoth หรือแสกน QR Code ด้านล่างนี้ และยังติดตามเราได้ที่ Facebook และ Twitter วันนี้

📱📰 โหลดแอป HonestDocs สำหรับ iPhone หรือ Android ได้แล้ววันนี้! จะอ่านบทความ จะเก็บบทความไว้อ่านทีหลัง หรือจะแชร์บทความให้คนที่เราเป็นห่วง ก็ง่ายกว่าเดิมเยอะ

เปรียบเทียบดีลสุขภาพ ทำฟัน และความงาม จาก รพ. และคลินิกกว่า 100 แห่ง พร้อมจองคิวผ่าน HonestDocs คุณหมอมือถือได้เลยวันนี้ ถูกกว่าไปเอง

ขอบคุณที่วางใจ ทุกเรื่องสุขภาพอุ่นใจ ให้ HonestDocs (ออเนสด็อกส์) คุณหมอมือถือ ดูแลคุณ ❤️

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0