แบ่งข้างเล่นเกม
ยังหัวเราะหวานชื่นระหว่างเล่นได้
ถ้ามีความครึกครื้นร่วมกันได้
คุยการเมืองต่างขั้ว
ยังรู้สึกเป็นข้างเดียวกันได้
ถ้าได้ข้อสรุปตรงกัน
ยอมรับความจริงยากๆร่วมกันได้
แต่แม้คุยศาสนาเดียวกัน
อ้างอิงศาสดาองค์เดียวกัน
ทว่าสติปัญญาต่างระดับ
มุมมองแตกแยก
เห็นอีกฝ่ายเป็นฝั่งมาร
เห็นตนเองเป็นฝ่ายเทพ
ก็อาจเกิดความขัดแย้ง
แทบไม่อาจอยู่ร่วมโลกกันได้
ไม่ต้องจริงจังถึงขั้นนั้น
เอาแค่คู่รักทั่วไปคุยกัน
แล้วขี้เกียจคุยเรื่องที่อีกฝ่ายชอบชวนคุย
นานไปก็กลายเป็นความรู้สึกแปลกๆ
เหมือนไม่ใช่พวกเดียวกัน
หรือไม่ได้อยู่ในโลกเดียวกันได้แล้ว
ขึ้นชื่อว่าความรู้สึกนั้น
จะไปรีดนาทาเร้นเอามาจากหัวใจกันไม่ได้
คาดคั้นไม่ได้ว่า
คุณต้องมีความสุขในการคุยกับผมนะ
แกต้องฟังฉันพูดรู้เรื่องนะ
เราต้องเลือกข้างเดียวกันนะ
ไอเดียผัวเมียต้องบรรเจิดพอกันนะ
ขอให้สังเกตเถอะ
ถ้าต้องแกล้งสร้างความรู้สึก
หรือต้องทำเป็นมีอารมณ์ร่วม
ประเภทอินไปด้วยกัน เป็นสุขพอๆกัน
พักเดียวคุณจะเหนื่อย เอือมระอา
แล้วแอบบ่นว่ารักกัน
แต่เหมือนอยู่กันคนละโลก
ถ้าอยากรักกันในแบบรู้สึกว่าอยู่ในโลกใบเดียวกัน
ไม่ใช่มีแต่พร่ำบอกว่าแสนรัก แสนคิดถึง
แต่พออยู่ใกล้แล้วไม่รู้จะคุยอะไร
อันนี้คุณต้องหาวิธีเจรจาแบบที่จะรู้สึกว่า
ใช่เลย เห็นด้วย ขอไปด้วยนะ
ยิ่งคุยแบบได้ข้อสรุปทางอารมณ์เช่นนี้บ่อยขึ้นเท่าไร
คุณจะยิ่งรู้สึกว่าอยู่ใจกลางโลกเดียวกัน
อย่างแน่นแฟ้นเป็นอันเดียวมากขึ้นเท่านั้น
ในทางพุทธ เราตั้งความเชื่อกันว่า
โลกใบเดียวกันไม่ได้มีอยู่โดยเดิม
แต่ต้องอาศัยความรู้สึกดีๆถักทอขึ้นมา
ความรู้สึกดีที่สุด
ตั้งต้นจากบุญร่วมกัน อันนี้เป็นเรื่องจริง
แต่ความเข้าใจของคนส่วนใหญ่อาจไม่ตรงจริง
เช่น คนส่วนใหญ่เชื่อว่าแค่ไปใส่บาตรด้วยกัน
ก็เรียกว่าเป็นการทำบุญที่สำเร็จครบวงจรแล้ว
แต่ไม่สำรวจรายละเอียดเลยว่า
ที่ลุกขึ้นมาใส่บาตรด้วยกันนั้น
ใครเป็นคนชวน ใครเป็นคนปลุก
ใครเป็นคนซื้อ ใครเป็นคนทำกับข้าว
มีความเห็นพ้องต้องกันไหมว่าจะถวายอะไร
ก่อนจูงมือกันไปใส่บาตรมีการทะเลาะเบาะแว้งกันไหม
หลังใส่บาตรเสร็จพูดคุยอะไรดีๆเป็นที่ชื่นใจกันหรือเปล่า ฯลฯ
คุณจะพบความมหัศจรรย์ของบุญ
ถ้าตกลงกันง่ายๆ ด้วยน้ำใจเสมอกันว่า
อยากไปปล่อยนกปล่อยปลาด้วยกัน
อยากไปแจกเสื้อผ้าเด็กกำพร้าด้วยกัน
อยากไปถวายของใช้ที่จำเป็นถึงวัดด้วยกัน
ฝ่ายใดเสนออะไรขึ้นมา
อีกฝ่ายก็ ‘โอเค’ ออกมาจากใจทันที
เช่นนั้น ยิ่งบ่อยขึ้นเท่าไร
คุณจะยิ่งรู้สึกเหมือนใจจูนเข้าหากัน
รู้สึกเป็นเนื้อเดียวกันแน่นแฟ้นขึ้นทุกที
และเหมือนมีโลกส่วนตัวที่อาศัยสองแรงร่วมสร้าง
ชัดเจนเป็นตัวเป็นตนมากขึ้นเรื่อยๆ
ลองดูนะครับ
หาเรื่องที่จะพูดว่า ‘เห็นด้วย’
เกี่ยวกับการช่วยคนด้วยกันบ่อยๆ
คุณจะแปลกใจที่คุยกันประเด็นอื่นรู้เรื่องมากขึ้นเรื่อยๆ
อยู่ใกล้หรืออยู่ห่าง
ก็เหมือนอยู่ใจกลางโลกเดียวกันชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ!
ความเห็น 7
ผมคิดว่าถ้าหากว่าคนเรานั้นได้พิจรณาถึงในเหตุและผลอย่างรอบครอบถี่ถ้วนดีแล้ว ปัญหาทุกอย่างก็ย่อมที่จะไม่เกิดขึ้น และก็ทำสามารถที่จะทำให้อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขครับ.
07 ก.ย 2562 เวลา 13.23 น.
App
บทความนี้โดนใจมากๆ ทุกวันนี้ก็คิดอยู่เหมือนกันว่า "เรารักกันจริงๆหรือแค่รักไปงั้นๆ"
07 ก.ย 2562 เวลา 11.49 น.
ทุกวันนี้อยู่ไกลกันและเหมือนจะไกลออกไปทุกที แต่ก้อรู้สึกรักทุกวัน อยากให้เขามีความสุข อยากให้เขาพบเจอเรื่องราวดีๆทุกวัน
08 ก.ย 2562 เวลา 11.21 น.
pongsai klommit
รักกันอยู่ขอบฟ้า เขาเขียว
สเหมือนอยู่หอแห่งเดียว ร่วมห้อง
ชังกันบ่แลเหลียว ตาต่อ กันนา
เหมือนขอบฟ้ามาป้อง ป่าไม้มาบัง
09 ก.ย 2562 เวลา 12.20 น.
🧚🏿♀️𝓳𝓲𝓻𝓾𝓼𝓬𝓱𝓪𝔂𝓪🧚🏿♀️
ความรักดีๆอยู่ที่ไหน...
08 ก.ย 2562 เวลา 15.26 น.
ดูทั้งหมด