โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

TOP มองค่าการกลั่นไม่ฟื้น CFP เพิ่มมูลค่าธุรกิจแกร่ง

ทันหุ้น

อัพเดต 04 มี.ค. เวลา 04.43 น. • เผยแพร่ 04 มี.ค. เวลา 04.43 น.
โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

#TOP #ทันหุ้น - TOP ชี้ภาพปีนี้น้ำมันดิบมีแนวโน้มอ่อนตัวจากอุปทานส่วนเกิน เล็งดีมานด์คาดขยายตัว 1.1-1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่วนค่าการกลั่นอาจจะทรงถึงปรับตัวลดลงเล็กน้อย พร้อมเดินหน้าโครงการ CFP ต่อแม้ IRR ลด ยืนยันเห็นกำไร คาด COD ในไตรมาส 3/2571 ขณะที่งบลงทุนปีนี้วางไว้ 87 ล้านดอลลาร์สหรัฐเน้นซ่อมบำรุง

นางสาวพรพิมาน ศรีสัตบุษย์ ผู้จัดการแผนก Pricing & Commercial Value Management บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมพลังงานเผชิญความผันผวนจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์และนโยบายของสหรัฐอเมริกา มีความเสี่ยงความขัดแย้งทางการค้าและมาตรการควบคุมเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งอาจกระทบต่ออุปสงค์พลังงานโลก ซึ่งในส่วนของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและโรงกลั่นเผชิญความท้าทายเช่นกันจากการเพิ่มกำลังการผลิตในหลายประเทศ โดยเฉพาะในจีนและตะวันออกกลาง ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มอ่อนตัวจากอุปทานล้นตลาดหลังไตรมาส 1/2568 เป็นต้นไป

@ดีมานด์-ซัพพลายน้ำมัน

สำหรับภาพรวมอุปสงส์หรือดีมานด์ราคาน้ำมัน (Global Oil Demand) โดยรวมในปีนี้ คาดการณ์ว่าจะยังคงเติบโตอยู่ที่ประมาณ 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ในช่วง 1.1-1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่อุปทาน น้ำมันดิบมีโอกาสสูงขึ้นบ้าง ซึ่งส่วนที่ขยายตัวสูงมาจากฝั่ง Non-OPEC โดยเฉพาะสหรัฐฯ แคนาดา กายอานา และบราซิล ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องชัดเจนมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ปีนี้คาดเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่ OPEC+ ยังคงทยอยปรับลดการลดกำลังการผลิตตามแผนตั้งแต่เดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป ส่วนรัสเซียและอิหร่านยังเผชิญความเสี่ยงจากมาตรการคว่ำบาตรทำให้ซัพพลายรัสเซียตึงตัว ขณะที่คาดว่าการผลิตน้ำมันของอิหร่านอาจลดลง 0.3ล้านบาร์เรลต่อวัน

“น้ำมันทั้งปีภาพโดยรวมเป็นอุปทานส่วนเกินเล็กน้อย ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์และนโยบายของทรัมป์จะส่งผลต่อเศรษฐกิจและราคาพลังงาน ซึ่งอาจกระทบความต้องการใช้น้ำมัน โดยสถาบันหลักอย่าง IEA, EIA และ OPEC คาดการณ์ตัวเลขการเติบโตความต้องการน้ำมันโลกปีนี้อยู่ที่ 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่หากเกิดสงครามการค้า ความต้องการจะลดลงเหลือ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่วนซัพพลายก็มี OPEC คอยล์บาลานซ์ตลาด" นางสาวพรพิมาน กล่าว

@ค่าการกลั่นลดลง

สำหรับอุตสาหกรรมโรงกลั่น ค่าการกลั่น (Refining Margin) มีแนวโน้มลดลงในครึ่งปีแรกของปี 2568โดยมีปัจจัยลบกดดันตั้งแต่ต้นปีนี้จากความต้องการที่ลดลงในบางตลาด โดยเฉพาะแก๊สโซลีนที่ได้รับแรงกดดันจากอุปทานใหม่จากโรงกลั่นไนจีเรีย

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

อุปสงค์น้ำมันเบนซิน (Gasoline Demand) มีแนวโน้มอ่อนตัว และกำลังการผลิตใหม่จากโรงกลั่นต่างประเทศอาจส่งผลกระทบต่อตลาด อย่างไรก็ตาม ตลาดยังได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์ที่มั่นคงของน้ำมันกลาง (Middle Distillate Demand Growth) เช่น ดีเซล และน้ำมันอากาศยาน

อุตสาหกรรมปิโตรเคมี (Petrochemical) ตลาดพาราไซลีน (PX) ดีขึ้น (Improving PX Market) เนื่องจากอุปสงค์เติบโตเร็วกว่ากำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าจะยังมีอุปทานเบนซีน (BZ) ส่วนเกินในตลาด ตลาดโอเลฟินส์ (Olefins) ยังคงมีความท้าทายเนื่องจากกำลังการผลิตใหม่จำนวนมากเข้าสู่ตลาด ส่วนราคาน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน (Base Oil Spread) มีแนวโน้มลดลงเล็กน้อย จากอุปทานของกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ (Grade 2 และ 3) ที่เพิ่มขึ้น และตลาดบิทูเมน (Bitumen Spread) ค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น จากอุปสงค์ในอินโดนีเซียที่ฟื้นตัว หลังจากสิ้นสุดฤดูฝน

“โดยสรุปภาพรวมตลาดน้ำมันดิบอาจจะอ่อนลงเล็กน้อย ส่วนค่าการกลั่นอาจจะทรงถึงปรับตัวลดลงเล็กน้อย ส่วนปิโตรเคมีตัวพาราไซลีนมีช่องที่จะโต แต่เบนซีน กับโอเลฟินส์ ยังท้าทาย และน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานอ่อนลงเล็กน้อย” นางสาวพรพิมาน กล่าว

@ขยายฐาน-เดินหน้า CFP

บริษัทยังคงมีแผนขยายตลาดไปยังภูมิภาคที่มีศักยภาพ เช่น อินโดนีเซีย และอินเดีย พร้อมพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เช่นเดียวกับโครงการ Clean Fuel Project (CFP) ยังเดินหน้าต่อ แม้ผลตอบแทนการลงทุน (IRR) จะลดลง แต่ยังคงมีกำไรผลตอบแทนของโครงการยังสูง

โครงการดังกล่าวคาดว่า หน่วยกลั่นน้ำมันดิบที่ 4 (CDU-4) จะแล้วเสร็จในไตรมาส 2 ปี 2570และเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ในไตรมาส 3 ปี 2571ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจจากผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงขึ้นและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยบริษัทวางแผนใช้งบลงทุนสำหรับปี 2568 กำหนดไว้จำนวน 87ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ไม่รวมโครงการ CFP) มากกว่าปีก่อนเล็กน้อย โดยส่วนใหญ่ใช้สำหรับการซ่อมบำรุงใหญ่ อีกทั้งบริษัทจะพิจารณาสัดสรรจากเงินสดภายในบริษัทก่อน ซึ่งแผนการระดมเงินทุนเพิ่มเติมคาดเป็นช่วงปลายปีนี้ผ่านเครื่องมือทางการเงินต่างๆ รวมถึงหุ้นกู้ไม่มีอายุ (Perpetual Bond) เป็นหนึ่งในทางเลือกด้วย

ช่องทางเฟสบุ๊ก ติดตามข่าวได้ที่เพจ ทันหุ้นออนไลน์

https://www.facebook.com/thunhoonnews