สำหรับใครที่รักการออกกำลังกาย การหากิจกรรมใหม่ๆ เพื่อเรียกเหงื่อดูจะเป็นความท้าทายของเหล่าชาวฟิตซะจริงๆ ยิ่งเดี๋ยวนี้มีรูปแบบการออกกำลังกายใหม่ๆ ให้เลือกหลากหลาย ก็ยิ่งทำให้การออกกำลังกายนั้นสนุกมากยิ่งขึ้น
วันนี้ Rabbit Today ชวนคนรักการออกกำลังกายมาทำความรู้จักกับอีกหนึ่งรูปแบบกิจกรรมเสียเหงื่อที่เรียกว่าCrossFit (ครอสฟิต) ที่กำลังจะกลายเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ฮิตในการออกกำลังกายของคนเมือง พร้อมสำรวจยิมครอสฟิตทั่วกรุงเทพฯ ให้คุณได้ลองท้าทายและเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ที่คุณอาจไม่เคยสัมผัสมาก่อน
ครอสฟิตคืออะไร?
ครอสฟิต (CrossFit) เป็นการออกกำลังกายที่มีการผสมผสานระหว่างการออกกำลังกายทั่วไปในชีวิตประจำวัน กับการออกกำลังกายที่มีความหนักหน่วง (Intense Workout) การออกกำลังกายประเภทนี้ได้รับความสนใจในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะทำให้ผู้เล่นรู้สึกฟิตขึ้น แข็งแรงขึ้น และยังสามารถพัฒนาศักยภาพในการเล่นกีฬาของพวกเขาให้ก้าวสู่ระดับต่อไปได้อีกด้วย
ครอสฟิตเป็นการออกกำลังกายแบบไหน?
ในทุกๆ เซสชั่นของการออกกำลังกายแบบครอสฟิตนั้น จะเริ่มด้วยการวอร์มอัปประมาณ 10-15 นาทีเสมอ เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนการออกกำลังกายจะมาถึง ซึ่งมีทั้งการวิ่งจ๊อกกิ้ง กระโดดเชือก ลังก์ สควอท หรือการกระโดดสตาร์จัมป์
10-20 นาทีถัดไปนั้นจะเป็นการเล่น WOD (Workout of the day) ฟังดูแล้วอาจจะไม่นาน แต่มันหนักหน่วงมากๆ ค่ะ บอกเลย! เพราะฉะนั้นลืมเรื่องเวลาไปได้เลย WOD จะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละวัน ซึ่ง WOD ของแต่ละวันจะถูกออกแบบโดยเทรนเนอร์ จึงถือเป็นการเทรนที่ฝึกความแข็งแกร่งและเป็นการออกกำลังกายที่มีความท้าทายมากๆ ด้วยเช่นกัน
ในส่วนต่อไปจะเป็นการออกกำลังกายที่ใช้เวลา 15-20 นาที ส่วนนี้จะผสมผสานการออกกำลังกายที่ใช้ทั้งความแข็งแรงและทักษะผสมผสานกันไป และจะจบด้วยการคูลดาวน์เป็นเวลา 10-15 นาที เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นตัว ลดความเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บและเสริมสร้างความยืดหยุ่น
จะรู้ได้อย่างไร ว่าเราเหมาะกับการออกกำลังกายแบบครอสฟิต?
เซสชั่นของครอสฟิตนั้นจะสอนโดยโค้ชที่ได้รับการรับรอง โดยมุ่งเน้นด้านเทคนิคและสร้างการสนับสนุน การออกกำลังกายประเภทนี้นั้นสามารถสร้างทั้งความแข็งแรง กระตุ้นการทำงานของหัวใจ และเสริมศักยภาพทางด้านกีฬา สำหรับคนที่กำลังหาคำตอบอยู่ว่า การออกกำลังกายประเภทนี้นั้นเหมาะกับคุณหรือไม่ เรามีคำแนะนำด้านล่างนี้ค่ะ
1. การออกกำลังกายประเภทนี้มีความหนักหน่วงและความท้ายทาย คุณสามารถเล่นตามจังหวะของคุณโดยเลือกน้ำหนักที่เหมาะสมและความสามารถของคุณเอง แต่อย่างไรก็ตามไม่ควรเริ่มเล่นครอสฟิตทั้งๆ ที่ยังไม่มีพื้นฐานในการออกกำลังกายประเภทนี้มาก่อน เพราะจะมีผลต่อข้อต่อและเส้นเอ็น รวมถึงการบาดเจ็บอื่นๆ ได้อีกด้วย ดังนั้นควรเริ่มด้วยการแล่นโปรแกรมการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอควบคู่ไปกับโปรแกรมที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งที่เหมาะสมกับคุณอย่างน้อย 2-3 เดือน ก่อนที่จะลองเล่นครอสฟิตค่ะ
2. เตรียมร่างกายและใจให้พร้อมสำหรับการออกกำลังกายแบบหนักๆ หากคุณไม่ชอบการออกกำลังกายแบบหนัก อาจจะลองออกกำลังกายประเภทอื่นดู เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดของการออกกำลังกายคือคุณต้องสนุก ท้าทาย และอยากกลับไปเล่นใหม่อีกครั้ง
3. หากมีอาการบาดเจ็บหรืออาการป่วย ตั้งครรภ์ ฯลฯ ให้ขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและให้การรับรองก่อนที่จะเลือกเข้าร่วมคลาสครอสฟิต บางรายอาจต้องมีการออกกำลังกายเพื่อฟื้นฟูร่างกาย ผสมผสานกับการออกกำลังกายประเภทอื่นแบบเบาๆ เพื่อให้มีพื้นฐานในการสร้างความแข็งแรงของร่างกายก่อน
แนะนำ Box ครอสฟิตทั่วกรุงเทพฯ
ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้สถานที่ออกกำลังกายแบบครอสฟิตได้เปิดทั่วกรุงเทพฯ เพื่อรองรับผู้ที่สนใจการออกกำลังกายประเภทนี้ สำหรับสถานที่ออกกำลังกายมีคำเรียกง่ายๆ ว่า Box เราไปสำรวจกันหน่อยว่ามี Box ไหนน่าสนใจในเขตกรุงเทพฯ ให้เราได้ไปลองครอสฟิตกันบ้าง
Thonglor Crossfit
พิกัด: ซอยสุขุมวิท 51
เวลาเปิด-ปิด: 07.00 - 20.30 น.
Crossover Bangkok
พิกัด: Stadium One Complex Active Box ชั้น 4 จุฬา ซอย 6
เวลาเปิด-ปิด: 10.00 - 19.00 น.
FB: Crossover Gym
Ari School of fitness
พิกัด: อารีย์ ซอย 3
เวลาเปิด-ปิด: 07.00 - 11.00 น., 16.30 - 20.30 น.
Crossfit Arena BKK
พิกัด: 1643 มักกะสัน ราชเทวี กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด: 06.30 - 20.30 น.
FB: CrossFit ARBKK / Arena Bangkok
Power Roar Crossfit
พิกัด: Bang Phrom, Taling Chan, Bangkok 10170
เวลาเปิด-ปิด: 07.00 - 21.00 น.
Crossfit Ten 500
พิกัด: สีลม ซอย 9
เวลาเปิด-ปิด: 07.00 - 12.00 น., 15.30 - 21.00 น.
FB: Crossfit Ten 500
ครอสฟิต นับเป็นการออกกำลังกายที่มีความท้าทาย และทำให้คุณก้าวออกจากกรอบการออกกำลังกายแบบเดิมๆ สำหรับใครที่ยังลังเล เราแนะนำให้คุณได้ลอง เผลอๆ คุณอาจจะรู้สึกรักการออกกำลังกายแบบนี้โดยไม่รู้ตัว ขอให้สุขภาพดีนะคะ
