ตำรวจฮ่องกงปะทะกับกลุ่มผู้ประท้วงรอบใหม่ในวันนี้ (17 พ.ย.) ท่ามกลางความแตกแยกที่เพิ่มมากขึ้นในเขตปกครองพิเศษแห่งนี้ และกลุ่มผู้ประท้วงประกาศที่จะ "บีบคั้นเศรษฐกิจ" เพื่อเพิ่มแรงกดดัน
ฮ่องกง ดินแดนที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการเงินของโลก ตกอยู่ท่ามกลางการประท้วงมาตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงเรียกร้องต้องการเสรีภาพมากขึ้น ภายใต้การปกครองของจีน
กลุ่มผู้ประท้วงสวมหน้ากาก ได้เปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยใช้ยุทธวิธีที่เรียกว่า "เบ่งบานทุกที" ดำเนินการปิดกั้นถนน และสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายทั่วเกาะฮ่องกง จนทำให้เครือข่ายเดินรถไฟฮ่องกงต้องปิดให้บริการเกือบทั้งหมด โรงเรียนปิดทั้งหมด และห้างสรรพสินค้าปิดให้บริการเกือบทั้งหมด
บรรดาผู้ประท้วงยังพากันส่งต่อโปสเตอร์บนโลกโซเชียลมีเดีย เรียกร้องให้เข้าร่วมใน "ปฏิบัติการรุ่งอรุณ" ในวันพรุ่งนี้ (18 พ.ย.) โดยข้อความบนโปสเตอร์ระบุว่า "ตื่นแต่เช้า พุ่งเป้าไปยังระบอบการปกครองโดยตรง บีบคั้นเศรษฐกิจ เพื่อเพิ่มแรงกดดัน"
ขณะที่กรมการศึกษาฮ่องกง ก็ออกประกาศในวันนี้ว่า โรงเรียนจะปิดทำการเรียนการสอนต่อไปในวันแรกของสัปดาห์ เพื่อความปลอดภัย
วันนี้ ตำรวจปราบจลาจลฮ่องกง ยิงแก๊สน้ำตาหลายครั้ง หลังกลุ่มผู้ประท้วง ที่เข้านยึดพื้นที่ในมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิค ขว้างปาระเบิดขวดเข้าใส่ ในความพยายามที่จะยึดฐานที่มั่นของตัวเอง ซึ่งเป็นจุดเชื่อมโยงการขนส่งสำคัญไว้
https://twitter.com/misstitiffany/status/1195951197577854976
ขณะที่ถนนสายต่างๆ รอบพื้นที่ฮวงฮอม เต็มไปด้วยกลุ่มควันหนาแน่น จากการที่ผู้ประท้วงในชุดดำ ที่เรียกตัวเอง "เบรฟ" หรือกล้าหาญ จุดไฟเผาสิ่งของ และตำรวจปราบจลาจลยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่หลายครั้ง
https://twitter.com/tictoc/status/1195925911037591553
ก่อนหน้านี้ กลุ่มผู้สนับสนุนคณะบริหารเกาะฮ่องกงราว 80-100 คน ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัย ได้พากันมารวมตัวในบริเวณดังกล่าว เพื่อเคลื่อนย้ายสิ่งกีดขวาง และทำความสะอาดถนน ที่อยู่ใกล้กับทางเข้าอุโมงค์ ที่เชื่อมต่อฝั่งเกาลูน เข้ากับเกาะฮ่องกง และถูกผู้ประท้วงนำสิ่งของมาปิดการจราจรตั้งแต่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (12 พ.ย.) แต่หลังจากนั้นไม่นานนัก กลุ่มผู้ประท้วงสวมหน้ากาก และชุดดำ ก็กลับมาอีกครั้ง เพื่อสร้างที่กีดขวางถนนอีก
ภาพจากโทรทัศน์ยังแสดงให้เห็นว่า ผู้ประท้วงพากันขว้างปาก่อนอิฐเข้าใส่ผู้คน เพื่อไล่ให้พวกเขาออกไปจากพื้นที่
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยโพลีเทคนิค กลายมาเป็นที่มั่นของของบรรดาผู้ประท้วงท่ามกลางการใช้ความรุนแรงที่เพิ่มขึ้น
แม้บนหน้าเพจเฟซบุ๊กของมหาวิทยาลัย จะเรียกร้องให้ผู้ประท้วงออกไปจากวิทยาเขตโดยทันทีก็ตาม แต่ผู้ประท้วงที่ปักหลักอยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ก็ได้ส่งข้อความออนไลน์ชักชวนให้ผู้คนมาเข้าร่วม