“แอนนี่ บรู๊ค” ควง “น้องฑีฆายุ” เปิดใจชีวิตรันทด-ขอไม่เป็นน้อยใคร
อดีตนักแสดงชื่อดัง“แอนนี่ บรู๊ค” ที่เคยฝากผลงานไว้มากมาย แต่ต้องเฟดตัวออกจากวงการเพื่อเลี้ยงดูลูกชายวัย 9 ขวบ อย่าง“น้องฑีฆายุ“ เผยชีวิตต้องเจอมรสุมชีวิตมากมาย แม่ล้มป่วยติดเตียง โดนธนาคารยึดคอนโด จนติดแบล็คลิสต์ ล่าสุดออกมาเปิดใจในรายการคุยแซ่บShow ทางช่อง One31 พร้อมเล่าเหตุการณ์น้ำตาตก เมื่อแม่ปลดล็อกปมในใจตนด้วยประโยคที่รอมาทั้งชีวิตและอัพเดตสถานะหัวใจ ว่าตอนนี้เปิดใจให้หนุ่มๆแล้วหรือยัง?
ตอนที่เริ่มตั้งท้องก็เฟดออกจากวงการเลย ทำไมเลือกหันหลังให้วงการบันเทิง ?
“เขามีแค่เราคนเดียว เราก็ต้องดูแลเขาอย่างเต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ อีกอย่างนึงเราก็แก่ตัวลง ด้วยเด็กรุ่นใหม่ก็เยอะด้วย เราก็หันไปทำอย่างอื่น เพราะเราก็อยากหาเงินให้ลูกได้เรียนหนังสือสูงๆ แล้วเราหาเงินคนเดียวก็ต้องดูแลทั้งครอบครัว มีอยู่ช่วงนึงไปทำงานต่างประเทศไปร้องเพลงก็ฝากน้องเอาไว้เลี้ยง เพราะเราคิดว่าเรายังสาวอยู่ต้องรีบหาเงิน ถ้ายังหาตรงนี้ไม่ได้ก็หาที่อื่น”
พอกลับมาดูแลลูกเต็มตัวก็ทำหน้าที่เป็นทั้งแม่และพ่อ ในฐานะพ่อก็หนักเหมือนกันเพราะลูกชายชอบเล่นอะไรแรงๆ ?
“นางก็จะโถมทั้งตัวใส่เรา เขาไม่รู้เขากะแรงไม่ถูก เขาไปคุยกับเพื่อนที่โรงเรียน เพื่อนเขาก็บอกว่าเขาเล่นกับพ่อเขาขี่หลัง ขี่คอ พอเขากลับมาบ้านก็มาทำกับเรา เราก็ยอม”
ถ้ามีงานในวงการบันเทิงติดต่อมารับมั้ย ?
“รับค่ะ”
อีกเรื่องที่สอนลูกดีมากคือเรื่องประหยัดเงิน สอนลูกยังไง ?
“เขาเห็นเราอยู่แล้วว่ากว่าจะได้มาแต่ละบาทแต่ละสตางค์ อย่างตอนนี้เขาเห็นพี่ทำร้านบิงซูอยู่ เขาก็จะรู้ว่ากว่าแม่จะขายน้ำได้แก้ว สองแก้วมันเท่าไหร่กว่าจะได้มาร้อยนึงมันลำบากมากเลยนะฑี อย่างเพื่อนๆเขาจะเอาตังค์ไปโรงเรียน เขาก็ไม่เอาเขาก็บอกว่าแม่ว่าผมไม่ต้องกินหรอกขนม เราก็ถามเขาว่าแล้วตอนเที่ยงน้องไม่ต้องกินขนมหรอ เขาก็บอกว่าไม่เอาแม่เก็บไว้กินข้าวกลางวันเถอะ”
ตอนนี้สภาพความเป็นอยู่เป็นยังไงเห็นว่าเพิ่งย้ายบ้านหลังใหม่ ?
“มันต้องประหยัดแล้ว เพราะว่าคุณยายล้ม ตอนคุณยายล้มแรกๆไปทำงานลำบากมากเพราะว่าคุณยายติดเตียง”
คุณแม่อายุเท่าไหร่ ?
“อายุ 60 กว่า แต่แกจะดูแก่กว่าอายุไปอีกประมาณสิบปีเพราะแกคนทำไร่ ทำสวน ทำนา ทีนี้พอติดเตียงเราไปไหนไม่ได้ เพราะต้องคอยเปลี่ยนแพมเพิร์สแล้ว คนแก่ที่เขาเพิ่งป่วยเขาจะหงุดหงิด เขาจะมีอารมณ์ทุกสิ่งอย่าง กลัว พะวง แค่แอนหันหลังไปซักผ้าแป๊ปเดียวแกก็จะเรียกอยู่นั่นแหละ คือทำงานค่อนข้างลำบากมากช่วงนั้น”
ตอนที่บอกว่าต้องประหยัดคือเราย้ายบ้านจากไหนไปไหน ?
“พอเราหาเงินยากแล้ว ทีนี้มันก็เหลืออยู่อีกแค่วิธีเดียวก็คือต้องประหยัด ต้องจมให้ลง เลยต้องย้ายบ้านทีนี้ย้ายยังไงให้ยิงกระสุนทีเดียวได้นกสองตัว ย้ายบ้านประหยัดค่าใช้จ่ายแล้วต้องประหยัดค่าน้ำมันในการเดินทางไปโรงเรียนของลูกด้วยก็เลยไปหาที่ใกล้โรงเรียนลูกที่สุด ก็มาได้บ้านหลังนี้ซึ่งเป็นหลักพันแล้วก็เดินไปโรงเรียนได้โดยที่ไม่ต้องขับรถ”
เห็นว่าที่ต้องประหยัดเพราะเรามีปัญหาภาวะเรื่องการเงิน เราติดแบล็คลิสต์ด้วย เกิดอะไรขึ้น ?
“ผ่อนไม่ไหวก็ต้องปล่อยให้ธนาคารยึด รอให้ธนาคารขายแล้วก็ที่เหลือถ้าเรามีเราก็ใช้เขาไป”
ตอนนี้หลายอย่างมากทำอะไรอยู่บ้าง ?
“ตอนแรกเลยพอคุณแม่ล้มแล้วทำงานไม่ได้ ออกไปข้างนอกไม่ได้ รับงานไม่ได้ มันมีแต่รายจ่ายไม่มีรายรับ พอดีว่าไปทำบุญบ่อย แล้วเจอครูที่เขามาทำโรงทานแล้วเราไปชิมหมูฝอยของเขา ของเขาอร่อยเราก็เลยโทรไปขอสูตรเขาดื้อๆเลย เขาก็สอนให้ เอามาทำที่บ้านก็ลองขายดูก็พอขายได้ แต่ตอนนี้ไม่ได้ขายแล้ว น้ำพริกก็ขาย แต่ตอนนี้หยุดไว้ก่อนเพราะว่าช่วงแรกยังไม่ได้เปิดร้านยังไม่ได้ย้ายมาบ้านหลังนี้แล้วมันไม่มีอะไรทำ เราก็ทำคนเดียวด้วยไม่ได้จ้างใคร หมูฝอยพอสั่งเยอะๆขึ้นก็ทำไม่ทัน พอจ้างคนก็มามั่ง ไม่มามั่ง หมูฝอยมันขั้นตอนยุ่งยากเอาไว้ก่อน ทีนี้ก็ลองทำน้ำพริกปลาร้าก็มีฑีคอยช่วย ขายถั่วก็ทำมาแล้ว ทำทุกอย่าง พวกพริกกรอบทำตามออเดอร์แล้วก็ส่งไปรษณีย์อย่างเดียวไม่มีหน้าร้าน”
ค่าใช้จ่ายในครอบครัวต่อเดือนเท่าไหร่ ?
“อาศัยอยู่ในเมืองกรุงไม่ใช่เรื่องง่ายนะ ไปตลาดตอนนี้ผักแพงกว่าหมูอีกนะ ค่าใช้จ่ายตกต่อเดือนรวมทั้งค่าเช่าบ้านแล้วถ้าเป็นก่อนหน้านี้ประหยัดแล้วอยู่ที่ 50,000 ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่ากิจกรรม ค่าเรียนพิเศษทุกอย่างอยู่ในนี้หมดแล้ว แอนเคยพูดออกรายการไปบางคนก็บอกว่าใช้เงินเดือนละ 50,000 เลยหรอใช้วันละ 200-300 ก็พอ มันก็พอหรอกนะถ้าเรากินข้าวไข่เจียวทุกวัน แต่ว่าบางวันแม่ก็ต้องซื้อยาแก้ปวดเพิ่ม บางวันลูกไม่สบาย บางวันต้องซื้อหนังสืออีก มันจะมีจุกจิกแบบนี้เข้ามาตลอด”
ต้องดูแลคุณแม่ทุกอย่างเลยเช็ดอุจจาระ ปัสสาวะ พลิกตัว ?
“มันไม่ใช่แค่ดูแลร่างกายเค้าอย่างเดียวต้องดูแลจิตใจเค้าด้วยอันนี้หนักหนาสาหัสมาก”
การดูแลจิตใจคนป่วยนี่คือขั้นที่ 1 แต่ของแอนนี่มีมากกว่านั้นอีก แอนนี่ตอนเด็กๆเหมือนห่างกับคุณแม่มีปมหรือมีความเข้าใจอะไรในใจที่แตกต่างยังไง ?
“เราก็ไม่รู้ว่าตอนที่คุณแม่เขาอยู่กับคุณพ่อเรา เขาเกิดอะไรในชีวิตมากมายขนาดไหน เพราะว่าเจเนอเรชั่นของเขามันเป็นเจเนอเรชั่นของผู้ใหญ่สมัยก่อน มีความเป็นละครค่อนข้างเยอะ เราไม่รู้ว่าในใจเขาคิดอะไร พอเขามีอะไร พอแอนจบ ป.6 เขาก็บอกว่าไม่ต้องเรียนต่อแล้วไปเป็นแม่บ้านทำงานเดี๋ยวส่งไปกรุงเทพฯ เราชอบเรียนหนังสือเราก็ไปบอกคุณครูว่าให้ช่วยกับแม่หน่อยได้มั้ยว่าเราอยากเรียนหนังสือแต่เราไม่มีตังค์ คุณครูก็กล่อมแม่จนได้แล้วก็บอกว่าถ้าลูกสอบชิงทุนได้จะให้ลูกไปเรียนมั้ย สุดท้ายแม่ก็ยอม แอนก็สอบชิงทุนได้ไปเรียนที่เชียงใหม่ไปเรียนฟรี ตั้งแต่นั้นก็ห่างแม่เพราะว่าเป็นโรงเรียนประจำ”
ด้วยความห่างกันพอกลับมาดูแลกันก็มีช่องว่างเขาก็คิดว่าเราไม่รักไม่ดูแล เห็นว่าตอนกลางคืนเขาตื่นมากรี๊ดด้วยใช่มั้ย ?
“ใช่ค่ะ คือช่วงตอนเด็กๆเรามีความรู้สึกว่าเขาตีเราหนักไปมั้ย เขาตีเราไม่มีเหตุผล โกรธใครมาหรือเขามีภาระทางใจในเรื่องของใครหรือเปล่าทำไมถึงมาลงที่เรา หลายๆครั้งเรารู้สึกว่าเขาไม่ได้รักเรา บางทีเขาก็พูดขึ้นมาด้วยอารมณ์ด้วยตอนเราเล็กๆแบบฟาดเราไปก็พูดว่าเขาไม่ได้รักเรานะแต่จำเป็นอะไรอย่างนี้”
มันก็ฝังในใจเรา ?
“มันก็ฝังในใจเราแต่ถ้าถามว่าโกรธเขามั้ย ไม่เคยเลยแล้วก็เป็นลูกที่ดีเสมอมา พอเราหาเงินได้เราก็สร้างบ้านให้แม่เลย ส่งเงินให้แม่ทุกเดือน แม่อยากได้ทองก็ซื้อให้ แม่อยากได้อะไรเราก็ซื้อให้ทุกอย่าง”
ตอนที่เรารุ่งเรืองปลูกบ้านให้แม่ ดูแลแม่เคยพูดชมเรามั้ย ?
“ไม่ค่ะ”
ช่วงที่มีน้องฑีฆายุเห็นว่าบางช่วงก็เป็นกาวใจด้วย ?
“ใช่ค่ะ อย่างตอนที่เขามาอยู่กับเราเขาก็กรี๊ดนั่นนี่ เราก็พยายามอยู่บนพื้นฐานความเข้าใจว่าเขาป่วยไม่สบาย”
ที่แม่กรี๊ดนี่คือเขาฝันหรือว่าอะไร ?
“ไม่ค่ะ เหมือนเขาแค่อยากทำ เราก็หลับๆอยู่แล้วเขาก็กรี๊ดขึ้นมาดังลั่นบ้านเลย เราก็ตกใจรีบวิ่งมาดูว่าแม่เป็นไร ไม่มีอะไรแค่ร้อน มันก็รู้สึกนะแต่จะรู้สึกยังไงก็แม่เรา แอนถึงแม้จะห่าง ห่างแต่กาย ปีนึงกลับบ้านบ่อยมากส่งเงินส่งทองโทรหาตลอดเวลา”
น้องฑีช่วยเป็นกาวใจอย่างไรบ้าง ?
“มีอยู่ครั้งนึงเราทะเลาะกันกับแม่แรงเหมือนกันแล้วเขาไม่เย็นซักที แอนทำได้ก็คือต้องเดินออกไปข้างนอกบ้านแล้วก็ไปนั่ง ไม่ได้ระเบิดอารมณ์ใส่แม่ น้องฑีนั่งเล่นเกมอยู่ดีๆก็เดินมาพูดกับเราว่า แม่ครับผมไม่รู้ว่าวันนึงยายจะตายหรือไม่ ต้องอยู่กับยายให้ดีที่สุดให้เยอะที่สุดนะครับ พอพูดกับแอนเสร็จแล้ว เขาก็เดินไปพูดกับยายประโยคเดียวกัน”
พอฟังเรื่องทั้งหมดแล้วรู้สึกเหมือนว่าคุณยายเค้าคิดว่าเหมือนแอนนี่ไม่รักเขา ?
“คนรอบตัวแม่เขารู้เขาเห็นการกระทำของแอนหมดทุกอย่าง แต่มันเหมือนกับว่าลูกที่ไม่ได้รัก คือเขามีปมในใจคิดว่าเราไม่รักเขา รอบตัวเห็นหมดว่าเรารักเราทุ่มเทเราทำทุกอย่างด้วยใจมาตลอด คือแอนเริ่มทำงานตั้งแต่อายุ 18 ตอนนี่แอนอายุ 39 ปี คือ 20 ปีไม่เคยที่จะทอดทิ้งหรือว่าบกพร่องในหน้าที่ ไม่มีเลย”
ชีวิตครอบครัวเหมือนไม่ได้ปรับความเข้าใจมีแผลมาจน 30 กว่าปี วันนึงมีจุดเปลี่ยนแม่รู้ว่าแอนนี่รักแม่ เกิดอะไรขึ้น ?
“เราก็เช็ดอึ เช็ดฉี่ให้เขา ซึ่งมันไม่ใช่ครั้งแรก เขาป่วยแบบนี้ประมาณครั้งนี้ครั้งที่สามแต่ครั้งนี้หนักสุด เราก็ทำหน้าที่เต็มที่ถึงเขาจะอารมณ์ร้อน เราก็รองรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเป็น จนมาวันนึงมันเหมือนกับสิ่งเหล่านี้มันซึมเข้าในใจเขา เราอยู่ด้วยกันช่วงนี้เป็นช่วงที่นานที่สุดก็คือปีนึง เพราะว่าอยู่ด้วยกันปกติเต็มที่ก็อาทิตย์นึง สองอาทิตย์ เดือนนึงไม่เกินนี้ แต่นี่อยู่ด้วยกันปีนึงเขาได้เห็นตลอดว่าเราไม่ทิ้งขว้าง”
ใช้ระยะเวลาเป็นปีนะกว่าที่คุณแม่จะพูดกับคุณว่า ?
“รักแม่เหมือนกันหรอก็นึกว่าไม่รัก ประโยคนี้น้ำตาร่วง ร่วงทั้งตัวเลยแหละ มันตั้ง 20 ปี เราไม่เคยบอกพร่องในหน้าที่ลูกเลย ทุกสิ่งทุกอย่างเราทุ่มเทให้เขาหมด เพราะว่าในชีวิตของเรามีเขาแค่คนเดียว เราพยายามทุ่มเทแล้วเรามีความรู้สึกว่าเมื่อไหร่เขาจะเห็นความรักจากเรา เมื่อไหร่หนอ เราถามตัวเราเองแบบนี้มา 20 ปี เมื่อไหร่หนอเขาจะรักเราซักที เมื่อไหร่หนอเขาจะเห็นความรักของเรา”
คุณก็ไม่เคยรู้สึกว่าเขารักด้วยเหมือนกัน ?
“ใช่ค่ะ เพราะว่าเขาไม่เคยแสดงหรือแม้แต่พูด”
ไม่เคยขอบคุณ ?
“ไม่ แล้วก็ไม่เคยถามแอนด้วยว่า เหนื่อยมั้ย กินข้าวหรือยัง มันท้อนะพี่ มันอยู่ยังไงมาได้โดยที่แม่ไม่เคยถามคุณเลยว่าคุณเหนื่อยมั้ย คุณกินข้าวหรือยัง ตอนเป็นข่าวหนักๆลูกไหวมั้ย เขาไม่เคยมี”
ถ้าคุณแม่ดูอยู่อยากบอกอะไรคุณแม่บ้างกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ?
“อยากให้เขารู้ว่าตลอดเวลา เขาให้กำเนิดแอนมาไม่ว่าเหตุการณ์อะไรจะเกิดขึ้นคือแอนรักเขามาก รักที่สุดในชีวิต ทุ่มเททุกอย่างที่ทำงานเก็บเงินสร้างบ้านให้หรือว่าดูแลกันมาจนถึงวินาทีนี้ รักมากๆค่ะ”
เรื่องความรักมีคนมาจีบแต่ปฏิเสธความรักนั้นไปคืออะไร ?
“อย่างบางคนมีครอบครัวแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามทำให้เรารู้สึกว่าเขารักเรา แต่แอนก็จะบอกเขาว่าคือถ้าพี่มีครอบครัวแล้วแอนขอนะ คือไม่เป็นอย่างนั้นดีกว่า”
มีแต่ผู้ชายที่มีครอบครัวเข้ามาจีบ ?
“เกือบจะเป็นอย่างนั้น เกือบจะทั้งหมด”
ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 14.00-15.00น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
คลิปสัมภาษณ์ แอนนี่ บรู๊ค
ความเห็น 6
sirijebbie4239👳🏼♀️
ความกตัญญูจะพาให้ไปถึงความเจริญ
05 ธ.ค. 2562 เวลา 17.31 น.
นาว&มี่
สวยเก่งนี้สิ
05 ธ.ค. 2562 เวลา 17.05 น.
Tip
ทำความดีให้ลูกเห็น มั่นคงในศักดิ์ศรีดีค่ะ
05 ธ.ค. 2562 เวลา 14.29 น.
เรอะ.แล้วคลิปละ อย่าบอกว่าหน้าคล้ายละ
05 ธ.ค. 2562 เวลา 14.25 น.
morischit04
สู้ให้สุดนะครับ
05 ธ.ค. 2562 เวลา 14.06 น.
ดูทั้งหมด