โครงการทางรถไฟเชื่อมชายฝั่งตะวันออก (East Coast Rail Link – ECRL) ซึ่งเป็นโครงการโครงสร้างพื้นฐานสำคัญระหว่างจีนและมาเลเซีย มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มการเชื่อมต่อในวงกว้างแก่มาเลเซีย พร้อมสร้างการเติบโตที่สมดุลยิ่งขึ้นแก่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้
แม้โครงการนี้จะมีกำหนดสร้างเสร็จในปี 2026 แต่ก็ได้มอบโอกาสใหม่ๆ ให้แก่ชาวมาเลเซียทั่วไปแล้ว ด้วยการสร้างตำแหน่งงานเพิ่มขึ้น การแบ่งปันความรู้ และการถ่ายทอดเทคโนโลยี ระหว่างที่การก่อสร้างค่อยๆ เดินหน้าไปอย่างเต็มรูปแบบ
กิจกรรมสรรหาบุคลากรเข้าทำงานในโครงการระยะ 4 วัน ที่จัดขึ้นในหลากหลายสถานที่โดยบริษัทก่อสร้างยักษ์ใหญ่จีน (CCCC) ซึ่งเป็นทั้งผู้รับเหมาหลักของโครงการและเจ้าของโครงการทางรถไฟมาเลเซีย (MRL) ได้ดึงดูดคนท้องถิ่นหลายพันคนให้มาแสวงหาโอกาสการทำงานใหม่ๆ
โมฮ์ด ฮาจิก อักฮ์มัล (Mohd Haziq Akhmal) หนึ่งในผู้สมัครงานกล่าวว่า "ผมมีพื้นฐานด้านวิศวกรรมอยู่แล้ว เลยสนใจมาสมัครงานนี้"
ไครูลนีซา กามารูลซามัน (Khairulnisa Kamarulzaman) หนึ่งในผู้สมัครงานอีกคนกล่าวว่า “พวกเขาเป็นบริษัทใหญ่ จึงมั่นใจได้ว่าพวกเขาจะเสนองานพร้อมสวัสดิการมากมายให้เรา ลักษณะงานเช่นนี้จะทำให้ฉันสามารถเติบโตเพื่อสร้างอนาคตที่ดียิ่งขึ้น และแน่นอนโครงการนี้นำพาประโยชน์มหาศาลมาให้ผู้คนท้องถิ่น ผู้รับเหมาของเรา และคนงานที่เป็นบัณฑิตเช่นฉันโดยเฉพาะ ทั้งยังมอบประสบการณ์ใหม่แก่ฉันในการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากประเทศจีน แถมฉันยังอาจได้เรียนรู้เทคโนโลยีและวิธีการทำงานของพวกเขาด้วย"
โครงการทางรถไฟเชื่อมชายฝั่งตะวันออก จะเชื่อมโยงภูมิภาคที่ถูกพัฒนาเพียงน้อยของมาเลเซียบนชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรมาเลเซีย จนถึงเขตเศรษฐกิจสำคัญบนชายฝั่งตะวันตกทางด้านช่องแคบมะละกา
ทางรถไฟจะช่วยให้การขนส่งผู้โดยสารและสินค้าถูกลงและรวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มศักยภาพการเติบโตของพื้นที่ต่างๆ ตามเส้นทางรถไฟในคราวเดียว
โอสมาน ฮาร์เรน (Osman Haron) ผู้อำนวยการแผนกสุขภาพ ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อมวัย 65 ปีของบริษัทฯ กล่าวว่า "ผมทำงานกับบริษัทนี้มา 19 ปี เกือบ 20 ปีแล้ว … แน่นอนว่าโครงการนี้จะส่งผลดีต่อหมู่บ้านของผม เพราะจะช่วยให้พวกเขาเดินทางไปกัวลาลัมเปอร์ผ่านทางหลวงได้ง่ายยิ่งขึ้น ประหยัดเวลาได้ 2 ชั่วโมงเมื่อเทียบกับการขับรถในเส้นทางเดิม"
ข้อมูลจากบริษัทระบุว่า โครงการทางรถไฟเชื่อมชายฝั่งตะวันออกจะสร้างอาชีพให้บุคลากรราว 23,000 คนในช่วงแรกเริ่มของก่อสร้างในปี 2021 และงานโยธาอย่างน้อยร้อยละ 40 จะจัดทำโดยผู้รับเหมาท้องถิ่น