ตอบโดย พระราชธรรมนิเทศ (พยอม กัลยาโณ) เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี
“ทางสายกลาง” เชื่อว่านี่เป็นคำคุ้นเคยของพวกเราตั้งแต่เป็นเด็กนักเรียน จนโตมาก็ยังได้ยินอยู่ โอกาสที่ได้ยินบ่อยๆ คือ เวลาเราคร่ำเคร่งกับปัญหาหรือเรื่องทุกข์ใจอะไร แล้วมีคนมาบอกเราว่า “ต้องเดินสายกลาง” แต่ในความเป็นจริงถ้าเราเจอกับปัญหาอยู่ แก้เท่าไรก็ยังไม่สำเร็จ ทางออกยังหาไม่เจอ แล้วจะให้เดินสายกลางได้ยังไง มันอยู่ตรงไหน วันนี้อ้อมได้ไปเรียนถามพระอาจารย์พยอม ได้คำตอบให้พวกเราลองนำไปปรับใช้กันตามนี้ค่ะ
“ทางสายกลาง ถ้าเทียบแล้วเหมือนกับขอนลอยน้ำไป ไม่ติดซ้าย ไม่ติดขวา ไม่ติดถูก ไม่ติดผิด ถ้าเรายังไปยืดถือถูกผิด แล้วก็จริงจังเข้มข้น แกต้องผิดฉันต้องถูก ถ้าอย่างนี้ไม่ได้เป็นทางสายกลาง
“ก็ต้องคิดว่า เราก็เคยผิด เขาก็เคยผิด ผิดก็รู้จักให้อภัยกันได้ คนผิดก็รีบขอโทษไวๆ คนที่รับการขอโทษหรือได้เห็นคนทำผิดแก้ไขแล้วก็ต้องให้อภัยเร็วๆ เปลวนรกจะไม่เผาอกเผาใจ อย่างนี้จึงจะนอนสบายเป็นทางสายกลาง อยู่กันเป็นสุข”
แล้วถ้าเป็นกรณีปัญหาในออฟฟิศล่ะคะ พระอาจารย์ ถ้าเราเห็นคนทำไม่ถูก เราควรจะทำอย่างไร
“ก็อาจจะต้องถามก่อนว่า เรามีหน้าที่อะไร มีตำแหน่งเกี่ยวข้องให้ไปเตือนเขาหรือเปล่า ต้องดูตรงนี้ประกอบด้วย ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเขาจะว่าใส่เกือกมาอีกแล้ว
“หากเราไม่ได้มีความเกี่ยวข้องโดยตรงแล้วเราไปเตือน เผลอๆ จะไม่ได้แก้ไขความผิด แล้วจะมาหาเรื่องกับเราอีก เพราะเขาไม่ได้ศรัทธา ไม่ได้เชื่อถือ ไม่ได้ชอบใจเรา ไม่ยกเราเป็นพี่เป็นเพื่อนร่วมงาน กลายเป็นการเตือนนั้นเพิ่มความทุกข์ให้ทั้งสองฝ่าย ถ้าหวังดีจริงๆ ก็ให้ดูว่า ใครเป็นคนที่เขาเชื่อฟังให้ความเคารพ แล้ววานเขาไปบอกกัน
“ทั้งหมดนี้คือเรา ไม่ถึงกับเพิกเฉยดูดาย เราแค่เอาใจใส่หาทางแก้ไขอยู่ แต่ดูตามสถานภาพ ตามศักยภาพ และตามบารมีเราว่า พร้อมที่จะไปเตือนเขาได้หรือเปล่า
“ถ้าตัดสินใจแล้วว่าจะเตือน อาจจะพูดในทำนองว่า พี่ขอโอกาสบอกหรือแนะนำอะไรตรงนี้นิดนึงได้ไหม คือขอโอกาสเขาก่อน ไม่ใช่พูดโพล่งออกไปเลย ที่สำคัญขอให้พูดด้วยท่าทีที่ดี พูดด้วยเมตตา พึงระลึกไว้ว่าการเข้าไปแก้ไขชักชวนใครต้องมีเมตตาเป็นหลักไว้ ไม่ใช่เกลียดหน้าเป็นหลัก”
อย่าลืมนะคะ ถ้าคุณรู้สึกทุกข์หรือหนัก ๆ ในใจ ส่งความหนัก ความทุกข์ สิ่งสงสัยมาให้พวกเราได้ที่ www.bia.or.th/dhamlife อ้อมจะไปหาคำตอบจากพระอาจารย์มาให้ค่ะ อะไรที่อ้อมช่วยได้ อ้อมยินดีค่ะ
ติดตามข้อธรรมดีๆ ได้ที่เพจ fb : หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ หรือ Line @Suanmokkh_Bangkok
มัชฌิมาปฏิปทา ทางสายกลาง,
ข้อปฏิบัติเป็นกลางๆ ไม่หย่อนจนเกินไป และไม่ตึงจนเกินไป ไม่ข้องแวะที่สุด ๒ อย่างคือ กามสุขัลลิกานุโยค และ อัตตกิลมถานุโยค
ทางแห่งปัญญา (เริ่มด้วยปัญญา, ดำเนินด้วยปัญญา นำไปสู่ปัญญา) อันพอดีที่จะให้ถึงจุดหมาย คือ ความดับกิเลสและความทุกข์ หรือความหลุดพ้นเป็นอิสระสิ้นเชิง ได้แก่ มรรคมีองค์ ๘ มีสัมมาทิฏฐิเป็นต้น สัมมาสมาธิเป็นที่สุด
*http://84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=%B7%D2%A7%CA%D2%C2%A1%C5%D2%A7&detail=on&original=1 *
ความเห็น 3
ผมคิดว่า ถ้าจิตใจของเราไม่ไปยึดติดอยู่กับในสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่มีผลกับในความรู้สึกของเราได้ ผมคิดว่านั่นก็คงจะเรียกว่าทางสายกลางก็คงจะได้มั้งครับ.
26 ม.ค. 2563 เวลา 02.21 น.
มันคือเกาะกลางถนนแต่บางทีก็จะเดินยากหน่อยติดต้นไม้ใบหญ้าสวนหย่อมแต่ปกติเค้าก็ไม่ค่อยเดินกันนะ
26 ม.ค. 2563 เวลา 01.54 น.
หื่นHมื่นHลี้🌈💲🐷💣💖💋☠
🖕.นี้ไง ส่งให้มันไป รักนะจ๊วบๆ💔💔💔
26 ม.ค. 2563 เวลา 01.12 น.
ดูทั้งหมด