จากดรามาวงการนางงาม สู่การเรียนรู้ของสังคม.
กลายเป็นประเด็นร้อนของวงการบันเทิง และวงการนางงามอยู่ในตอนนี้สำหรับเรื่องการตอบโต้ระหว่างผู้เข้าประกวดเวทีสาวงามท่านหนึ่ง กับคุณแม่ของลูกสาวทั่วประเทศอย่าง “ลูกเกด เมทินี” ที่ออกตัวไปเตือนผู้เข้าประกวดนางงามเรื่องการดูถูกเรือนร่าง เพราะสาวเจ้าได้แชร์ภาพของการเปรียบเทียบรูปร่างระหว่างนางงามของทั้งสองเวที จนกลายเป็นสิ่งที่สังคมเรียกว่า BODY SHAMING และเกิดกระแสถกเถียงกันถึงความไม่เหมาะสมในการแสดงทัศนคติต่อเรื่องดังกล่าว โดยเฉพาะตำแหน่งแห่งที่ที่ตนเองอยู่ คือการเป็นผู้เข้าประกวดเวทีนางงาม ควรมีทัศนคติที่เป็นสากล และมีความรู้ในประเด็นที่ละเอียดอ่อนของสังคม
โพสต์ที่แชร์โดย magnetnews (@mag.net.news) เมื่อ ก.ค. 9, 2019 เวลา 12:16am PDT
ซึ่งเรื่องนี้เป็นสาเหตุของความขัดแย้งที่ทำให้เกิดกระแสแอนตี้จากแฟนๆ นางงามทั้งในและนอกประเทศ โดยเฉพาะประเทศฟิลิปปินส์ เพราะว่านางงามตัวแทนของประเทศอย่าง ‘Catriona Gray’ เป็นบุคคลที่ถูกอ้างถึงโดยตรง จึงกลายเป็นการสร้างความขัดแย้งในโลกออนไลน์ขึ้นอย่างมากมาย โดยมีสาเหตุมาจากเรื่อง Body shaming หรือการล้อเลียนดูถูกเรือนร่างของผู้อื่นนั่นเอง
อ่าน สงครามนางงามข้ามเวทีได้ ที่นี่
โพสต์ที่แชร์โดย Catriona Gray (@catriona_gray) เมื่อ ก.ค. 2, 2019 เวลา 3:48am PDT
นิยามของ ‘Body Shaming’.
‘Body Shaming’ ถือเป็นหนึ่งการ Bully หรือการทำร้ายเพื่อนมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการทำร้ายกันต่อหน้า หรือว่าในโลกออนไลน์ โดยจะมีแนวทางการปฏิบัติ คือการตัดสินเพื่อนมนุษย์โดยเอาลักษณะทางกายภาพ โดยจะมีมาตรฐานของแต่ละสังคมมาครอบอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็น อ้วนเกินไป ผอมเกินไป สวย ไม่สวย ผมหยิก ผิวสี สิ่งเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นจาก “อุดมคติ” ของวัฒนธรรมในแต่ละสังคม โดยจะมีการสื่อสารออกมาผ่านทางสิ่งพิมพ์, ภาพยนตร์, รายการโทรทัศน์ หรือ โลกออนไลน์ เมื่อมีมาตรฐาน ผู้ที่ไม่เข้ากับมาตรฐานก็มักจะถูกตัดสินอยู่เสมอ
เรื่องเล็กๆ ในสังคมไทย แต่ส่งผลกระทบมหาศาลในสังคมโลก.
“อ้วนขึ้นหรือเปล่า?” “ช่วงนี้ดูโทรมจังเลยนะ?” “ไปทำอะไรมาเนี่ย?” แม้ฟังดูแล้วอาจจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ ในสังคมไทย ไม่น่าจะมีผลกระทบมหาศาล แต่ในระดับสากลนั้น การดูถูกเรื่องเรือนร่างถือเป็นประเด็นที่ผู้คนให้ความสำคัญเพราะว่ามันเป็นสาเหตุหลักของการทำร้ายร่างกาย หรือ Bullying ในสังคมด้วย ในขณะที่สังคมอาจจะไม่ได้มีประเด็นเรื่องนี้มากนัก แต่ว่าบนโลกออนไลน์กลับมีเรื่องนี้แอบแฝงอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ที่ถือว่าเป็นช่องทางหลักในการสร้างความคาดหวัง และความสมบูรณ์แบบในรูปร่างของสังคม และเป็นที่ก่อกำเนิดการบูลลี่และ Body Shaming ขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นเครื่องบ่งชี้ว่า ‘Body Shaming’ เป็นปัญหาไปทั่วโลก
BODY SHAMING VS BEAUTY PAGEANT
แม้ว่าเวทีประกวดนางงามจะเป็นพื้นที่สำหรับสาวงามที่อาจจะเรียกได้ว่าต้องมีรูปร่าง หน้าตาที่เข้า “มาตรฐานความสวย” ของเวทีนั้นๆ แต่ในปัจจุบันจะเห็นการปรับตัวของเวทีนางงามที่มีความก้าวหน้าของกระบวนการทางความคิด นอกจากที่สวยแบบเดิมๆ แล้ว ก็ยังพยายามสร้างแนวคิดเดี่ยวกับความงามที่หลากหลายยิ่งขึ้น รวมไปถึงรูปร่างของนางงามนั้นไม่ใช่เพียงปัจจัยเดียวที่จะทำให้นางงามสามารถคว้ามงกุฎจากเวทีประกวด แต่ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะในสังคมปัจจุบันที่นอกจาก BEAUTY แล้ว BRAIN ก็เป็นสิ่งสำคัญในการแสดงทัศนคติที่ดีสู่สังคม เพราะเวทีการประกวดถือเป็นแพลตฟอร์มหนึ่งในการส่งต่อแนวคิดของสาวงามให้สังคมโลกได้รับรู้ เพื่อสร้างสรรค์สังคมที่ดีต่อไป นั่นคือเหตุผลสำคัญที่ว่าทำไมนางงามนอกจากสวยแล้ว ยังต้องมีทัศนคติที่ดี มีความรู้ เป็นประโยชน์ต่อสังคม และไม่ควรละเลยประเด็นทางสังคมที่ทั่วโลกให้ความสนใจ
โพสต์ที่แชร์โดย Miss Universe Thailand 2019 (@missuniverse.in.th) เมื่อ ก.ค. 1, 2019 เวลา 10:27am PDT
โพสต์ที่แชร์โดย Miss Grand Thailand (@missgrandthailand) เมื่อ ก.ค. 5, 2019 เวลา 7:15am PDT
โพสต์ที่แชร์โดย Miss Thailand World (@missthailandworld_official) เมื่อ ก.ค. 10, 2019 เวลา 12:43am PDT
อ้างอิง
https://www.magnolia-creek.com/eating-disorder-recovery-blog/what-is-body-shaming/
http://moodytwenties.com/body-shame/
https://www.csmonitor.com/World/2016/1025/Beauty-queen-defies-pageant-quits-over-body-shaming