ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์รายการนี้ 12 สมัย จะเปิด โอลด์ แทรฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล ที่ได้แชมป์รายการนี้ไป 8 ครั้ง โดยจะเตะในวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม เวลา 22.30 น. โดยรอบ 16 ทีม "ปีศาจแดง" บุกไปชนะ ฟอเรสต์ 1-0 ขณะที่ "หงส์แดง" รอบที่แล้ว เปิดบ้านชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-0 ส่วนคู่นี้เจอกันในลีกนัดแรกเมื่อเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปเสมอที่แอนฟิลด์ 0-0
เอริก เทน ฮาก กุนซือแมนฯ ยูไนเต็ด นัดล่าสุดชนะเกมลีก 2-0 จาก 2 จุดโทษ เกมนี้ได้รับข่าวดีเมื่อจะได้ ราสมุส ฮอยลุนด์ หายเจ็บกลับมาล่าตาข่าย แนวรับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์, อาร่อน วาน บิสซาก้า และ เมสัน เมาท์ กลับมาซ้อมอย่างเต็มรูปแบบแล้ว ส่วน จอนนี่ อีแวนส์ ปราการหลังจอมเก๋าไม่น่าดีพอสตาร์ตในเกมนี้ ส่วน อัลตาย บายินเดียร์ นายทวารมือ 2 เจ็บกล้ามเนื้อ ไม่พร้อมสำหรับเกมนี้ ลีซานโดร มาร์ติเนซ, ลุค ชอว์,ไทเรลล์ มาลาเซีย และ อองโตนี่ มาร์กซิยาล ยังเจ็บทั้งหมด
เจอร์เก้น คล็อปป์ ในเกมล่าสุดศึก ยูโรป้า ลีก รอบ 16 ทีม นัดที่ 2 นำ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านถล่ม สปาร์ต้า ปราก ส่วนเกมในลีก ตามตีเสมอ แมนฯ ซิตี้ 1-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ และ หลุยส์ ดิอาซ ที่ได้พักในเกมถ้วยยุโรป จะถูกเรียกเป็นตัวจริงพร้อมประสานงานกับ ดาร์วิน นูนเญซ, และ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ที่กลายเป็นแข้งลิเวอร์พูลคนแรกที่ทำได้ 20 ประตูใน 7 ฤดูกาลติดต่อกันบ็อบบี้ คล้าร์ก ดาวรุ่งฟิตทันแม้จะเจ็บติดมาจากนัดกลางสัปดาห์ก็ตาม อิบราฮิม่า โกนาเต้ เป็นอีกรายที่จะกลับคืนทีมไม่ทัน เพราะยังมีอาการเจ็บติดอยู่ ในลิสต์บาดเจ็บ ยังเป็น 8 แข้งหน้าเดิม คือ โฌเอล มาติป, เบน โด๊ค, เคอร์ติส โจนส์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, สเตฟาน บายเซติซ, ติอาโก้ อัลคานตาร่า, ดิโอโก้ โชต้า และ อลิสซง เบ็คเกอร์
ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : อ็องเดร โอนาน่า - ดีโอโก้ ดาโล่ต์, ราฟาแอล วาราน, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ - ค็อบบี้ ไมนู, กาเซมีโร่ - อเลฮานโดร การ์นาโช่, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด - ราสมุส ฮอยลุนด์
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ควีวิน เคลเลเฮอร์ - คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์, โจ โกเมซ, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์จ, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - โดมินิค โซบอสซ์ไล, วาตารุ เอ็นโด, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ -โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, ดาร์วิน นูนเญซ, หลุยส์ ดิอาซ
ความน่าจะเป็นของเกม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกมนี้ได้เล่นใน เธียเตอร์ ออฟ ดรีม บวกได้ความสดมากกว่า ลิเวอร์พูล เพราะไม่มีเกมยุโรป เมื่อกลางสัปดาห์ แต่ปัญหาที่เจอมาต่อเนื่องคือ ความสมดุลย์ในทีม และแนวรุกที่ยังหวังพึ่งไม่ได้เท่าที่่ควร เกมนี้ช่วงแรกๆ ลูกทีมของ เอริก เทน ฮาก อาจรับมือได้และสู้อย่างสูสี แต่หากเวลาผ่านไปเรื่อยๆ "หงส์แดง" ที่มีที่เด็ดมากกว่า โดยเฉพาะโมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ที่ฟิตกลับมาแล้ว และแดนกลางอย่างโดมินิค โซบอสซ์ไล, วาตารุ เอ็นโด และ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ที่ลงตัว ทำให้โอกาสของลิเวอร์พูล ที่จะตบเท้าเข้าสู่รอบรองชนะเลิศจึงดูสดใสมากกว่า
สกอร์ที่คาด
ลิเวอร์พูล บุกชนะ 2-1
เกร็ดที่น่าสนใจก่อนเกม
- คู่นี้พบกันมาแล้ว 241 นัดในทุกรายการ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 91 นัด ลิเวอร์พูล ชนะ 81 นัด เสมอ 69 นัด
-นี่จะเป็นฤดูกาลที่ 15 ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูลพบกันในเอฟเอ คัพ โดยปีศาจแดงผ่านเข้ารอบ 10 ครั้ง เทียบกับลิเวอร์พูลที่เพียง 4 ครั้ง
-ลิเวอร์พูลแพ้เกมเอฟเอ คัพ นัดล่าสุดกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-2 ในเดือนมกราคม 2021 ซึ่งเกมนั้น โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ แม้จะทำ 2 ประตูแต่ทีมก็ต้องตกรอบ โดยรวมแล้ว "หงส์แดง" ตกรอบรายการนี้โดย "ปีศาจแดง" ถึง 10 ครั้ง ซึ่งมากกว่าที่เจอกับคู่ต่อสู้ทีมอื่นๆ
-นี่เป็นครั้งที่ 48 ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เล่นในรอบ 8 ทีม เอฟเอ คัพ ซึ่งมากกว่าทีมอื่นๆ ในประวัติศาสตร์ของการแข่งขัน แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังมุ่งหวังที่จะเข้าถึงรอบรองชนะเลิศติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เคยทำไว้ 2 ฤดูกาลติดในฤดูกาล 2003-04 และ 2004-05
-แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ 4 จาก 19 เกมที่พบกับลิเวอร์พูลในยุคที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ คุมทีม นอกนั้นเป็นการ (เสมอ 8 แพ้ 7)
-ลิเวอร์พูลมีคนทำประตูที่แตกต่างกัน 8 คนในเอฟเอ คัพฤดูกาลนี้ โดยล่าสุดทำได้มากกว่าในฤดูกาลเดียว ไม่รวมการทำเข้าประตูตัวเองในฤดูกาบ 2011-2012 (ผู้ทำประตู 9 คน)
-บรูโน่ แฟร์นันด์ส มีส่วนร่วมกับประตู 6 ประตูจากการลงเล่นเอฟเอ คัพ 6 นัดหลังสุดให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำได้ 5 ประตู 1 แอสซิสต์
-โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ทำไป 12 ประตูจากการลงสนาม 13 นัดในการเจอกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งในลีกและบอลถ้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีม มาดริด ชน แมนซิตี้ - อาร์เซน่อล ดวล บาเยิร์น
