กาฬสินธุ์ สั่งปิดร้านอาหาร ริมเขื่อนลำปาว หลังแห่ใช้บริการพรึ่บ ไม่ทำตามมาตรการ

กาฬสินธุ์ สั่งปิดร้านอาหาร ริมเขื่อนลำปาว หลังคลายล็อกวันแรก แห่ใช้บริการพรึ่บ ไม่ทำตามมาตรการป้องกัน โควิด-19

เมื่อวันที่ 3 พ.ค. นายตระกูล หนูนิล นายอำเภอสหัสขันธ์ พร้อมชุดปฏิบัติการหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ตำรวจ สาธารณสุข เทศบาล และฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ออกตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการร้านอาหารแพริมเขื่อนลำปาว จุดแหลมโนนวิเศษ ต.โนนบุรี อ.สหัสขันธ์ และผู้ประกอบการโรงแรม ที่พัก โฮมสเตย์ของ อ.สหัสขันธ์ หลังนายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ออกประกาศฉบับที่ 5 และ 6 ในมาตรการผ่อนปรนให้เปิดร้านจำหน่ายอาหาร และบริการโรงแรมที่พัก แต่ยังคงคุมเข้มในมาตรการตามประกาศของจังหวัดกาฬสินธุ์ ในการผ่อนปรนอย่างมีเงื่อนไข ที่ผู้ประกอบการจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

ล่าสุดทางเจ้าหน้าได้สั่งปิดการบริการอาหารบนแพ บริเวณริมเขื่อนลำปาว 3 แห่ง เป็นการชั่วคราว เนื่องจากมีประชาชนเดินทางมาใช้บริการจำนวนมาก และยังพบว่ามีการละเลยในการเข้มงวดของมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 จึงขอให้หยุดบริการทุกประเภทไว้ พร้อมสั่งให้ทางเทศบาลตำบลโนนบุรี ทำการปิดทางเข้าออกบริเวณแหลมโนนวิเศษอีกครั้ง ขณะที่ตลาดเทศบาลตำบลโนนบุรียังคงเข้มข้นมาตรการตรวจคัดกรองประชาชนที่เดินทางเข้าออกตลาดสด แม่ค้าและประชาชนทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย

นายตระกูล หนูนิล นายอำเภอสหัสขันธ์ กล่าวว่า จากข้อมูลการเฝ้าระวังของศูนย์อำนวยการต้านโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อ.สหัสขันธ์ พบว่าในวันที่ 2-3 พ.ค. มีคนเดินทางกลับภูมิลำเนามากถึง 62 คน ทำให้ขณะนี้มีผู้กักกันตัวอยู่ที่ 213 ราย ยอดสะสมผู้กักกันตัวทั้งหมด 1,308 ราย สิ้นสุดการกักกันไปแล้ว 1,095 ราย ขณะที่การออกตรวจร้านอาหาร โรงแรม และตลาดสดบางแห่ง ยังคงพบปัญหา เนื่องจาก อ.สหัสขันธ์ เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวมีทัศนียภาพที่สวยงาม โดยเฉพาะบริเวณแหลมโนนวิเศษ บริเวณสะพานเทพสุดา ส่วนหนึ่งของเขื่อนลำปาว จำเป็นต้องสั่งปิดการให้บริการชั่วคราว เนื่องจากมีประชาชนเดินทางเข้ามาใช้บริการจำนวนมาก รวมถึงการละเมิดมาตรการอีกหลายข้อ

ทั้งนี้ทางคณะกรรมการฯ จะเรียกผู้ประกอบการเข้ามาทำข้อตกลงตามเงื่อนไขอีกครั้ง แล้วจะพิจารณาว่าจะให้เปิดบริการอีกหรือไม่ ในส่วนของโรงแรม ที่พัก และโฮมสเตย์ ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี รวมถึงตลาดสดที่ยังคงคุมเข้มมาตรการสำคัญในการเฝ้าระวังป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด 19