โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

วิธี กักกันตัวเอง ที่บ้าน ทำอย่างไรให้ปลอดภัยที่สุด

SpringNews

เผยแพร่ 15 มี.ค. 2563 เวลา 10.23 น.
วิธี กักกันตัวเอง ที่บ้าน ทำอย่างไรให้ปลอดภัยที่สุด

ถ้าคุณต้อง กักกันตัวเอง คุณต้องหลีกเลี่ยงการปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นให้มากที่สุด คุณควรอยู่ในพื้นที่ปิดให้มากที่สุดคุณยังออกไปเดินเล่น ไปวิ่ง ไปขี่จักรยานได้ แต่ต้องทำคนเดียว และไม่อยู่ใกล้คนอื่น

สิ่งที่ห้ามทำ

  • ไม่ไปเรียน หรือไปทำงาน
  • ไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น
  • ไม่ใช้ขนส่งสาธารณะหรือแท๊กซี่
  • ไม่ไปพบปะสังสรรค์ เข้าสังคม ทำกิจกรรม หรือไปที่คนพลุกพล่าน
  • ไม่เชิญใครมาบ้าน
  • ไม่ไปช๊อปปิ้งซื้อของ ยุคสมัยนี้ คุณสั่งของออนไลน์ หรือให้คนอื่นเอาของมาส่งไว้ให้คุณได้
  • ไม่เข้าใกล้ผู้สูงอายุ คนที่มีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง และสตรีมีครรภ์
  • ไม่ออกเที่ยว

สิ่งที่ควรทำ

  • อยู่บ้าน อยู่ในห้องที่มีอากาศถ่ายเท
    อยู่ห่าง แยกตัวจากคนอื่น ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
  • คอยตรวจสอบอาการตัวเอง แจ้งแพทย์ทางโทรศัพท์ ถ้ามีอาการ หรืออาการหนักขึ้น
  • ใช้ทิชชู่ปิดปากเมื่อไอหรือจาม แล้วล้างมือด้วยวิธีที่ถูกต้อง
  • ใช้ของส่วนตัว อย่างเช่นผ้าขนหนู จาน ชาม ช้อน ส้อม แก้วน้ำ แยกจากคนอื่น
  • ทำความสะอาดห้องทุกวันด้วยน้ำยาทำความสะอาด หรือน้ำยาฆ่าเชื้อ

ถ้าคุณไม่ได้อยู่บ้านคนเดียว

แยกตัวอยู่ใตห้องที่มีหน้าต่าง มีอากาศถ่ายเท
ถ้าเป็นไปได้ แยกใช้ห้องน้ำ แต่ถ้าต้องใช้ร่วมกัน คุณควรเป็นคนสุดท้าย แล้วทำความสะอาดให้เรียบร้อยหลังเสร็จธุระ
ไม่ใช้ของร่วมกับคนอื่น นั่นหมายถึง จาน, แก้วน้ำ, ถ้วย, ช้อนส้อม, ผ้าเช็ดตัว และเครื่องนอน

มื้ออาหาร

ถ้าเป็นไปได้ ให้คนเอาถามอาหารมาวางให้คุณที่หน้าประตู เมื่อคุณทานเสร็จ เอาทุกอย่างใส่ถาดแล้ววางไว้ที่ประตูอุปกรณ์เหล่านี้ต้องล้างด้วยน้ำร้อนใส่น้ำยาล้างจาน ใส่ถุงมือยางเวลาล้างจาน ตากจานชาม ช้อนส้อม ให้แห้ง ล้ามถุงมือขณะที่ยังใส่อยู่ ล้างมือหลังถอดถุงมืออก

หน้ากากอนามัย

ถ้าคุณต้องอยู่ห้องเดียวกับคนอื่น คุณต้องล้างมือก่อน แล้วจึงหยิบหน้ากากมาสวม ถ้าคุณไม่มีหน้ากาก ต้องอยู่ห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 1 ถึง 2 เมตร และถ้าเป็นไปได้ ทุกคนที่อยู่ในห้อง ควรต้องสวมหน้ากากด้วย

อย่าสัมผัสด้านนอกหน้ากาก และล้างมือให้สะอาดหลังถอดหน้ากากออก และคุณไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากาก เมื่ออยู่คนเดียว

ล้างมือบ่อยๆ

ล้างมืออย่างถูกวิธีและบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล ปิดปากและจมูกด้วยกระดาษทิชชูเวลาที่คุณไอหรือจาม ทิ้งทิชชูแล้วล้างมือทุกครั้ง

ทำความสะอาดบ้านด้วยน้ำยาทำความสะอาดหรือน้ำยาฆ่าเชื้อ

น้ำยาทำความสะอาดหรือน้ำยาฆ่าเชื้อที่ขายในซุปเปอร์มาเก็ตส่วนใหญ่ สามารถใช้กำจัดไวรัสโคโรนาได้ ทำความสะอาดพื้นผิวเหมือนปกติ ด้วยน้ำยาทำความสะอาด น้ำยาฆ่าเชื้อ หรือกระดาษเปียกฆ่าเชื้อ

พื้นผิวที่ว่านี้คือ: พื้นผิวโต๊ะและเคาท์เตอร์ทุกชนิด ลูกบิดประตู เครื่องสุขภัณฑ์ โทรศัพท์ คีย์บอร์ด อุปกรณ์มือถือ โต๊ะข้าวเตียง

ถ้าเป็นไปได้ ใส่ถุงมือยางเงลาทำควาทสะอาดด้วย ล้างถุงมือในขณะที่ยังใส่อยู่ และล้างมือหลังถอดแล้ว

ซักผ้า

เสื้อผ้าที่ใส่แล้ว ใส่ถุงพลาสติกแยก ให้คนอื่นใส่ถุงมือมาเก็บจากหน้าห้อง

  • ซักผ้าด้วยผงซักฟอกน้ำร้อนที่สุดเท่าที่เนื้อผ้าจะสามารถรับได้
  • ทำความสะอาดทุกพื้นผิวรอบเครื่องซักผ้า
  • ล้างถุงมือขณะที่ยังใส่อยู่
  • ล้างมือด้วยสบู่หลังถอดถุงมือ
  • ถ้าเป็นไปได้ อบแห้งเสื้อ และรีดด้วยเตารีดไอน้ำ
  • อย่าเอาเสื้อผ้าไปซักที่ร้าน

การจัดการขยะ

ใส่ทุกอย่างที่คุณใช้ ทั้งกระดาษทิชชู่ หน้ากากอนามัย ลงในถุงขยะพลาสติก ปิดถุงเมื่อขยะเต็มที่ 3 ส่วน 4 ของความจุถุง ซ้อนถุงขยะแล้วมัดปากถุงอีกรอบ

ขยะจากการทำความสะอาด ใช้วิธีจัดการเดียวกัน อย่าปล่อยทิ้งไว้เกิน 72 ชั่วโมง หลังจากใส่ถุง 2 ชั้นแล้ว สามารถทิ้งรวมกับขยะทั่วไปได้

สื่อสารกับแพทย์สม่ำเสมอ

ถ้ามีอาการ รู้สึกแย่ลง โทรศัพท์ปรึกษาแพทย์

การดูแลเด็ก หรือบุคคลที่อยู่ระหว่างกักกันโรค

ถ้าคุณต้องดูแลเด็กหรือคนอื่นที่ต้องการการดูแลระหว่างกักกันโรค

  • อยู่ห่างจากกันให้ได้อย่างน้อย 1 เมตร และหลีกเลี่ยงการสัมผัส ใช้โทรศัพท์ในการสื่อสาร
  • ล้างมือด้วยวิธีที่ถูกต้องทุกครั้ง หลังปฏิสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อ
  • ถ้ามีหน้ากาก ใส่หน้ากากทั้งสองฝ่าย เวลาที่อยู่ในห้องเดียวกัน
  • ถ้าต้องทำความสะอาดน้ำลาย หรือสารคัดหลั่งอื่นๆ บนหน้าผู้ติดเชื้อ ใช้กระดาษทิชชู ทิ้งถังขยะทันที แล้วล้างมือให้สะอาด
  • ให้ผู้ติดเชื้ออยู่ในห้องที่มีอากาศถ่ายเท
  • จำกัดความเคลื่อนไหวผู้ติดเชื่อในบ้าน
  • ถ้าเป็นไปได้ ใช้ห้องน้ำแยกกับผู้อื่น
  • ใข้คนดูแลให้น้อยคนที่สุด ถ้าเป็นไปได้ ควรเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรงเพียงคนเดียว
  • ให้ผู้ติดเชื้ออยู่ห่างคนที่มีปัญหาสุขภาพและสตรีมีครรภ์

สภาพจิตใจ

การเข้าใจและมีข้อมูลเกี่ยวกับโรคที่ถูกต้อง จะช่วยลดความวิตกกังวลและความกลัว พยายามใช้ชีวิตใก้ลเคียงปกติมากที่สุด

ทัศนคติบวกเป็นสิ่งสำคัญ คิดว่าจะรับมือสถานการณ์อย่างไร จำไว้ว่า การ กักกันตัวเอง ไม่ได้คงอยู่ตลอดไป อย่าลืมที่จะสื่สารพูดคุยกับครอบครัว เพื่อนฝูง ถึงแม้เจอตัวกันไม่ได้ คุณก็ยังมีโทรศัพท์ มีสื่อโซเชียล

การกักกันตัวเอง แน่นอนว่ามีช่วงเวลาที่น่าเบื่อและหงุดหงิด อาจกระทบอารมณ์ความรู้สึกของคุณ เตรียมใจให้พร้อม นั่งคุยกับคนในครอบครัว และจะได้ใช้หรือไม่ วางแผนล่วงหน้าไว้ก่อนดีกว่า

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 17

  • กอล์ฟ เว้ยเฮ้ย
    ผมก็ไม่ได้รู้ล่วงหน้าหรอก...แต่กักตัวเองอยู่แต่ในห้องมา3ปีล่ะไม่เจอเพื่อนไม่เคยออกไปเจอหน้าพ่อแม่พี่น้อง55จนเพื่อนไลน์มาแซว...ถ้าโรคไวรัสระบาดหนักจริงๆสุดท้ายผมจะเหลือรอดเป็นคนสุดท้าย(ขำก็ขำ)แต่มันไม่รู้หรอกว่าคนผิดหวังกับชีวิตแบบผมคิดอะไรอยู่
    15 มี.ค. 2563 เวลา 14.55 น.
  • S u k ..🎷🎹🎻🎻🎧🎤🎵
    ขั้นแรกต้อง ไล่รัฐบาลสลิ่ม ออกไปก่อน ที่ทำให้ประเทศย่ำแย่ขนาดนี้ ไม่รู้จักแก้ ปัญหาอะไรเลย ไวรัสมาแล้ว ยังไม่รู้จักป้องกัน เต้นสู้โควิด-19พ่องมึงบอกดิ ไอ้ควาย
    15 มี.ค. 2563 เวลา 16.13 น.
  • Ning🎈Thaniya
    อยุ่ยากเลย ถ้าติดเชื้อขึ้นมา 😖
    15 มี.ค. 2563 เวลา 14.44 น.
  • Yongyuth
    ธรรมะ เป็นเรื่องของการกระทำ ทำอย่างไร กิเลสจึงจะลด กิเลสกับเชื้อโรคมันก็เหมือนกัน จำเป็นต้อง ชำระ กำจัดให้หมดไป อย่าให้มันมามีอยู่ในจิตใจ ส่วนเชื้อโรคก็อย่าให้มันมามีอยู่ในร่างกาย เราใช้น้ำ และยาฆ่าเชื้อ ล้างสัมผัส ทางกาย ให้สะอาด ธรรมะ เปรียบดั่งน้ำ สะอาด ที่ชโลมรักษา ใจ ที่สกปรกขุ่น มัว ไปด้วยความโลภ ความโกรธ ความหลง หรือความขาดสติ ขาดปัญญา นั่นเอง ส่วนเครื่องมือทางธรรม ที่ใช้ ในการชำระล้าง กิเลส ก็คือ ศีลสมาธิและปัญญา เมื่อทำแล้ว จะสามารถขจัด กิเลส คือเชื้อโรคทางใจ ให้หมด สิ้นไป
    15 มี.ค. 2563 เวลา 12.10 น.
  • Ja-Aey
    อ่านมาจนจบ คือกูตายพอดี
    15 มี.ค. 2563 เวลา 14.15 น.
ดูทั้งหมด