เคยไหม? เจอคนที่มีบุคลิกต่างกันมาก ๆ ในหลายบทบาท ยกตัวอย่างเช่น เพื่อนคนนี้เวลาปกติก็เป็นคนสบาย ๆ แต่พออยู่ที่ทำงานกลับเป็นคนเข้มงวด น่าเกรงขาม ผิดกับเวลาอยู่กับเราลิบลับ
หรือเวลาที่ใคร ๆ บอกว่าเรากลายเป็นคนเลือดร้อนเวลามีเหตุการณ์อะไรบางอย่างเข้ามากระทบจิตใจ หรือในกรณีที่บางคนกลายเป็นคนใจเย็น ตัดสินใจเฉียบขาดไม่มีพลาดเมื่อเกิดเหตุคับขัน
การเปลี่ยนแปลงแบบนี้ อาจเกิดจากสัญชาตญาณลึก ๆ ในใจเรา หรือในบางครั้ง เราอาจเผลอสร้าง 'อัลเตอร์อีโก้' ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
Alter Ego "ตัวฉัน" อีกหนึ่ง "ฉัน"
Alter ego (อ่านว่า อัลเตอร์ อีโก้) มาจากภาษาละติน แปลว่า "Other I" หรือตัวฉันอีกหนึ่งคน หมายความว่า ตัวตนที่ต่างไปจากตัวเรา แต่เป็นตัวเราเอง ต่างจากคนที่เราฝันอยากจะเป็น แต่คือตัวในเวอร์ชันที่ "ดิบ" กว่าตัวเราเวลาปกติ
คำว่า "อัลเตอร์ อีโก้" เป็นที่รู้จักครั้งแรกเมื่อปี 1790 โดย ฟรานซ์ แอสตัน เมซเมอร์ (Franz Aston Mesmer) คุณหมอชาวเยอรมัน ที่เคยทำการทดลองโดยการสะกดจิตตัวเองเพื่อแยกอัลเตอร์อีโก้ของตัวเองออกมา ผลลัพธ์คือระหว่างที่โดนสะกดจิต คุณหมอเมซเมอร์แสดงนิสัยที่ต่างจากตัวตนของเขายามปกติเป็นอย่างมาก
อัลเตอร์ อีโก้ กับ วงการบันเทิง
คนดังหลายคนเคยออกมาเปิดเผยว่าขณะอยู่บนเวที พวกเขาจะสร้างอัลเตอร์อีโก้ขึ้นมาอีกหนึ่งร่าง แล้วใช้ร่างนั้นทำสิ่งที่ตัวเองเวลาปกติเขินอายที่จะทำ อย่างการร้องเพลง เต้น แร็พ หรือแม้กระทั่งเวลาที่ต้องพูดต่อหน้าสาธารณชน มีศิลปินหลายคนออกมาเปิดเผยว่า ที่พวกเธอเห็นฉันบนเวทีน่ะ แท้ที่จริงคืออัลเตอร์อีโก้ของฉันต่างหาก ลองมาดูกันดีกว่าว่าศิลปินที่ใช้อัลเตอร์อีโก้ในการแสดง มีใครกันบ้าง
เอมิเนม (Eminem) - สลิม เชดี้ (Slim Shady)
หลังอัลบั้มแรก Infinite ของเขาล้มเหลว เอมิเนมได้คิดอัลเตอร์อีโก้ "สลิมเชดี้" ขึ้นมาระหว่างนั่งปลดทุกข์ในห้องน้ำ สลิมเชดี้มาพร้อมกับซาวน์ใหม่ ๆ พร้อมเนื้อเพลงที่ดาร์กกว่าเดิมหลายเท่า ซึ่งก็เป็นอย่างที่คาด อัลบั้มถัดมาของเขา The Slim Shady LP ดังเป็นพลุแตกหลังจากนั้น
บียอนเซ่ (Beyoncé) - ซาช่า เฟียร์ซ (Sasha Fierce)
ควีนบีของเราออกอัลบั้มชื่อ I Am Sasha Fierce ในปี 2008 ในระหว่างที่เดินสายโปรโมตอัลบั้ม เจ้าตัวก็ให้สัมภาษณ์ว่าชื่อ ซาช่า เฟียร์ซ คือบุคลิกที่เธอสวมตอนจะขึ้นแสดง ซาช่าคนนี้เป็นสาวมั่นขั้นสุด เธอยังเล่าอีกว่าตอนที่ดนตรีขึ้น หรือตอนที่เธอกำลังกังวลสุดขีด ซาช่าคนนี้จะออกมาจากจิตใต้สำนึกของเธอ ทำให้เสียงร้อง ท่าโพส หรือแม้กระทั่งการแสดงออกทางกายก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน
นิกกี้ มินาจ (Nicki Minaj) - โรมัน โซลันสกี้ (Roman Zolanski)
ไม่เพียงแค่ความมั่นใจเพิ่มขึ้น ศิลปินบางคนสร้างอัลเตอร์อีโก้ขึ้นมาเป็นตัวเป็นตนเลยทีเดียว! เจ้าหญิงแห่งวงการแร็พดุคนนี้ นิกกี้ มินาจ เคยเปิดเผยให้แฟน ๆ ฟังว่าที่เธอสามารถพ่นแร็พโหด ๆ ได้แสนจะดุเดือดนั้นเป็นเพราะคนที่แร็พคือ โรมัน โซลันสกี้ อัลเตอร์อีโก้ร่างหนุ่มรัสเซียสุดเชิด กล้าพูด กล้าเปิด มีความครีเอทีฟ และที่สำคัญคือเป็น LGBTQ+ อีกด้วย!
(สำหรับนิกกี้ นอกจากโรมันแล้ว เธอยังมีคุกกี้ (Cookie) นิกกี้ ลูวินสกี้ (Nicki Lewinsky) และล่าสุดเพิ่งมีควีน สลีซ (Queen Sleaze) ที่เป็นอัลเตอร์อีโก้ที่เธอเลือกใช้ในแต่ละอัลบั้ม แต่ละคนก็มีลักษณะนิสัยแตกต่างกันไป ซึ่งก็ส่งผลต่อเพลงในแต่ละอัลบั้มด้วย สุดล้ำ!)
ประโยชน์ของการฝึก "อัลเตอร์อีโก้" ในตนเอง
นิยามของอัลเตอร์อีโก้อาจทำให้หลายคนขมวดคิ้ว แต่ที่แท้จริงแล้วทุกคนมีอีกหนึ่งร่างซ่อนอยู่โดยที่ทุกคนไม่รู้ตัว แต่การสำรวจจิตใจตนเองและสร้างอีกตัวตนขึ้นมานั้นมีประโยชน์จริง ๆ หรือ?
อัลเตอร์อีโก้ของฉันก็คือ!
กระบวนการสร้างอัลเตอร์อีโก้นั้นค่อนข้าง"ฮีลลิ่ง" หรือเยียวยาใจพอควรเลยนะ เนื่องจากอีกตัวตนที่เราคิดในหัวจะสามารถจัดการสิ่งต่าง ๆ ที่ตัวเราไม่อยากทำ หรือลังเลที่จะทำ
หากคุณเป็นคนขี้อาย ก็ให้ลองสมมติว่าอัลเตอร์อีโก้ของคุณเป็นคนเปิดเผย ไม่แคร์สื่อ และจะมีความมั่นใจขึ้นหากอยู่ในวงสังคมใหม่ ๆ การสร้างอัลเตอร์อีโก้ขึ้นมาเปรียบเสมือนเกมในหัวของเราเอง ที่จะสุดท้ายสามารถส่งผลดีต่อหลาย ๆ สถานการณ์ในชีวิตจริงได้ด้วย เช่นเดียวกับบียอนเซ่ ที่หากเธอไม่มี ซาช่า เฟียร์ซในวันนั้น ก็อาจไม่มีดีว่าเบอร์หนึ่งแห่งวงการเพลงให้เราได้ตามกรี๊ดอย่างทุกวันนี้
ความเสี่ยง!
การสร้างบุคลิกอื่นขึ้นมาจะอันตรายก็ต่อเมื่อกระบวนการคิดของคุณเป็นไปอย่างไม่รู้ตัว สิ่งนี้มีชื่อเรียกว่า "โรคหลายบุคลิก" (Multiple Personalities) ผู้ป่วยจะกลายเป็นอีกอย่างสิ้นเชิง และเมื่อกลับมาเป็นคนเดิม จะสูญเสียความทรงจำระหว่างที่เป็นอีกบุคลิกหนึ่งไปโดยสิ้นเชิง
มนุษย์ทุกคนมี "ตัวเรา" อีกคนอยู่ในจิตใจเสมอ อยู่ที่ว่าเราจะดึงบุคลิกนั้นออกมาใช้ตอนไหน อัลเตอร์อีโก้สามารถจุดประกายให้มนุษย์ทำเรื่องยาก ๆ ให้เป็นไปได้ สิ่งสำคัญคืออย่าใช้อัลเตอร์อีโก้เป็น "ข้ออ้าง" ในการทำเรื่องไม่ดี ฉวยโอกาสเป็นวายร้าย หรือก่อเรื่องที่ "ตัวเรา" ในยามปกติจะเสียใจในภายหลังก็พอ
-
อ้างอิง
ความเห็น 12
Pattie
เวลาเราต้องพึ่งพาใคร เราจะสุภาพอดทนถึงแม้เขาจะน่ารังเกียจ พอไม่ต้องพึ่งพาเขาแล้วเราก็เมินและเชิ่ดใส่ แบบนี้เรียกอะไร 😅
20 ม.ค. 2564 เวลา 21.46 น.
คนเรานั้นถ้าหากว่ามีความสามารถและความมั่นใจในตัวเองแล้ว ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นมา ก็ย่อมสามารถที่จะนำใรสิ่งนั้นมาเป็นแรงบันดานใจเพื่อที่ทำให้ก้าวข้ามกับปัญหาต่างๆได้เหมือนกัน.
21 ม.ค. 2564 เวลา 03.00 น.
บางทีสภาพแวดล้อมรอบข้าง ก็ทำให้คนเราต้องเปลี่ยน..
21 ม.ค. 2564 เวลา 07.38 น.
ดี ๆๆ เป็น อะไร ที่ดี ให้ได้รู้ ไรบ้าง
21 ม.ค. 2564 เวลา 10.23 น.
TAN
ต้องว่างขนาดไหน คิดมุกแปลงร่างตัวเองไปมา ?
22 ม.ค. 2564 เวลา 18.22 น.
ดูทั้งหมด