เสมียนตราอำเภอ-สามี ตำแหน่งหน้าห้องนายอำเภอ ฉกเงินราชการ เงินเลือกตั้ง ส.อบจ. หนีหาย

เสมียนตราอำเภอวัฒนานคร ร่วมมือกับสามี เชิดเงินค่าใช้จ่ายเลือกตั้ง ส.อบจ.สระแก้ว แทนตำแหน่งที่ว่าง และเงินอื่นๆ ของอำเภอกว่าล้านบาท

เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.สระแก้ว ว่า น.ส.นงนุช เสมียนตราอำเภอวัฒนานคร ได้หอบเงินสดของราชการที่อยู่ในความรับผิดชอบหลบหนีไป พร้อมกับสามีคือ นายภูวิศ ตำแหน่งหน้าห้องนายอำเภอวัฒนานคร

รายงานข่าวระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันก่อนการเลือกตั้ง ส.อบจ. สระแก้ว ที่ว่างลงซึ่งจะมีขึ้นวันที่ 6 สิงหาคม ซึ่ง น.ส.นงนุชได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่การเงิน จะต้องมาปฏิบัติหน้าที่วันที่ 5 สิงหาคม เพื่อจ่ายเงินสดเป็นค่าตอบแทนคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง 29 หน่วยเลือกตั้ง ประกอบด้วย ค่าจัดสถานที่ ค่าไฟฟ้าแสงสว่าง ค่าทำความสะอาดหน่วยเลือกตั้ง พาหนะขนส่งสิ่งของและอุปกรณ์การเลือกตั้ง เป็นเงิน 340,750 บาท

นอกจากนี้ ยังมีค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยวันรับอุปกรณ์การเลือกตั้ง และวันเลือกตั้ง ค่าตอบแทนคณะทำงานรับ-จ่ายหีบบัตร ค่าตอบแทนคณะทำงานประทับตราบัตรเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยดูแลบัตรเลือกตั้ง ค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่รวมผลคะแนน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เป็นเงิน 45,200 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 385,950 บาท

นอกจากนั้น ยังมีเงินอื่นๆ รวมถึงเงินผ้าป่าข้าวเปลือก ซึ่งดำเนินการจัดหารายได้มาตั้งแต่สมัยนายอำเภอคนก่อน เป็นเงินเกือบ 800,000 บาท และเงินโครงการต่างๆ หายไปด้วยทั้งหมด ซึ่งอำเภอวัฒนานครอยู่ระหว่างตรวจสอบว่ายอดเงินทั้งหมดมีเท่าใด คาดว่าเมื่อรวมกับเงินสำหรับจัดการเลือกตั้งแล้วมีจำนวนกว่าล้านบาท

อย่างไรก็ดี ในวันดังกล่าว น.ส.นงนุชไม่ได้มาปฏิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่พยายามติดต่อแต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงไม่สามารถจ่ายค่าตอบแทนใดๆ ให้กับเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง จนในที่สุด นายชรินทร์ ภูชัย นายอำเภอวัฒนานคร ได้มอบหมายให้ น.ส.วิลัยวรรณ สว่างชื่น ปลัดอำเภอ เจ้าพนักงานปกครองปฏิบัติการ ที่ทำการปกครองอำเภอวัฒนานคร ไปลงรายงานประจำวัน ณ สภ.วัฒนานคร ไว้เพื่อเป็นหลักฐาน

ด้าน ร.ต.ท.ทศพร ภูสดศรี รอง สว.(สอบสวน) สภ.วัฒนานคร พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว พร้อมกล่าวว่า จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ตรวจข้อมูลของผู้กระทำความผิดทั้ง 2 รายแล้ว พบว่าทั้งสองเป็นคนในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และมีข้อมูลว่าได้หลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ จ.เลย คดีนี้ไม่มีความลึกลับซับซ้อนอะไร อีกไม่กี่วันคงปิดคดีได้