หนุ่มเบญจเพสดับสลด ขี่จยย.เสียหลักพุ่งตกคูน้ำ ริมถนนโรจนะ ร่างกระแทกขอบดิน

หนุ่มเบญจเพสดับสลด ขี่จยย.เสียหลักพุ่งตกคูน้ำ ริมถนนโรจนะ ร่างกระแทกขอบดินนอนหายใจรวยริน กู้ภัยปั๊มหัวใจสุดยื้อชีวิต รปภ.เล่านาทีสลด

เมื่อวันที่ 6 พ.ย.66 พ.ต.ท.นราธิป สุทนต์ รอง ผกก.( สอบสวน) สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ เสียหลักตกไปคูน้ำ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ริมถนนโรจนะขาออก ใกล้กับทางเข้าหมู่บ้านจัดสรร ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 9 หมู่ที่ 6 ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมประสาน เจ้าหน้าที่ สมาคมอยุธยารวมใจ ไปให้การสนับสนุน

ที่เกิดเหตุภายในคูน้ำ พบผู้บาดเจ็บ 1 ราย เป็น ชายสวมใส่เสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงวอร์ม สีดำ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบสีดำ มีเลือดไหลออกมาจำนวนมากเต็มหมวกกันน็อก เจ้าหน้าที่ เร่งช่วยเหลือผู้บาดเจ็บขึ้นมาจากคูน้ำปั๊มหัวใจช่วยชีวิต แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ เสียชีวิตก่อนนำส่งโรงพยาบาล ตรวจสอบในตัว พบเงินสดจำนวนหนึ่ง โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง พร้อมสายชาร์จ

ในคูน้ำพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ 125 สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จมอยู่ในคูน้ำ ด้านหน้ารถพังเสียหาย ตรวจสอบบริเวณริมคูน้ำ มีร่องร่อยกระแทกชนเข้ากับขอบคันดินคูน้ำ นอกจากนี้ พบบัตรประชาชนตกอยู่ในคูน้ำ ระบุชื่อ นายสุวรรณชัย อายุ 25 ปี ชาว ต.ลำตาเสา อ.น้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

สอบถาม นายประดิษ น้อยชาลี อายุ 72 ปี เจ้าหน้าที่ รักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านจัดสรร ใกล้จุดเกิดเหตุ เล่าว่า ตนได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ล้มดังโครมและเสียไถลไปกับถนน จึงวิ่งมาดูไม่พบเห็นรถจักรยานยนต์จึงใช้ไฟส่องหาดู ภายในคูน้ำจนพบรถจักรยานยนต์และผู้บาดเจ็บ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ ให้มาช่วยเหลือ

ด้านนายปัญญา ชูมะณี เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ เปิดเผยว่า รับแจ้งว่ามีรถจักรยานยนต์ตกลงไปในน้ำ คนเจ็บยังมีชีพจรอยู่ จึงรีบมาตรวจสอบก็พบรถจักรยานยนต์ ส่วนคนเจ็บไม่มีชีพจรแล้ว เจ้าหน้าที่จึงรีบกันช่วยทำปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิต ก่อนเจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลอุทัยมาถึงตรวจสอบยืนยันว่าเสียชีวิต เบื้องต้นคาดว่าน่าจะขับมาบนถนนโรจนะขาออก พอมาถึงจุดเกิดเหตุมีรอยลักษณะรถเสียหลักพุ่งลงข้างทางก่อนตกลงไปในคูน้ำ ร่างและรถกระแทกเข้ากับดินขอบคูน้ำอย่างจัง

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะตรวจสอบร่องรอยการเกิดอุบัติเหตุบนถนน และร่องรอยการเฉี่ยวชนบนถนน ถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน พร้อมประสานติดตามหาพยานที่เห็นเหตุการณ์มาสอบสวนเพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนร่างของผู้เสียชีวิต ส่งไปชันสูตร ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จ.ปทุมธานี และติดตามญาติเพื่อมารับร่างกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนาต่อไป